*คสช.ผ่อนคลายปรับทัศนคตินอกค่ายทหาร/ข่าวดีปท.ไทยขีดความสามารถแข่งขันดีขึ้น/นายกฯปากีสถานผ่าตัดหัวใจ*

*สรุปข่าว 19.35น*

+++หลังการประชุมสำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่กองบัญชาการกองทัพบก โดยภายหลังการประชุม พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคสช. ได้แถลงว่า หลังคสช.จะอนุญาตให้ผู้ที่มีรายชื่อในคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เมื่อปี2557 เกี่ยวกับการห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ให้สามารถเดินทางได้ตามปกติ ยกเว้นผู้ที่มีคดีความที่ต้องได้รับการอนุญาตจากศาลนั้นก็เพราะ คสช.พิจารณาแล้วว่า ขณะนี้เป็นห้วงเวลาที่เหมาะสม ส่วนการเชิญบุคคล หรือกลุ่มต่างๆ มาพูดคุยและหารือเกี่ยวกับประเด็นที่เกิดขึ้นในสังคม เช่น การเคลื่อนไหวทางด้านการเมือง ปัญหาผู้มีอิทธิพล ปัญหาการจัดระเบียบสังคม การบังคับใช้กฎหมาย ที่ได้ดำเนินการมาเป็นระยะๆ โดยใช้พื้นที่ในค่ายทหารนั้น ในห้วงต่อไปการพูดคุยในลักษณะดังกล่าวจะพิจารณาจัดให้มีขึ้นในสถานที่ราชการอื่นๆ เช่น ศาลากลางจังหวัด สถานีตำรวจ เป็นต้น เพื่อให้เกิดความสะดวกกับทุกฝ่าย และสร้างบรรยากาศของการพูดคุยให้ดียิ่งขึ้น

+++พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  กล่าวว่า จะเป็นที่ไหนก็ได้ที่เป็นสถานที่ แล้วแต่บุคคลว่าเป็นใคร ยืนยันว่ายังคงใช้เจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปพูดคุย พร้อมถามกลับผู้สื่อข่าวว่า ทำไมถึงรังเกียจทหารเหลือเกิน ทหารไม่เคยทำอะไรเลย ซึ่งที่ทำทุกอย่างนี้ก็เพื่อต้องการให้ทุกอย่างเบาลง  ส่วนจะปล่อยให้ทุกคนสามารถออกมาแสดงความคิดเห็นอย่างเสรีหรือไม่นั้น พล.อ.ประวิตร ยืนยันว่า ยังทำไม่ได้ เพราะตอนนี้อยู่ในช่วงเป็นรัฏฐาธิปัตย์และกำลังปรับอยู่ ส่วนแรงกดดันจากต่างชาติหรือไม่ รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า  ไม่มีแรงกดดันอะไรทั้งสิ้น  ส่วนกลุ่มคนเสื่อแดงจะเดินทางไปดูไบนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็แล้วแต่ถ้าเห็นว่าดีก็ทำ ประชาชนเห็นว่าสิ่งนั้นและถูกต้องก็เชิญเลย ส่วนตัวคงไม่ว่าอะไร เพราะขณะนี้ได้มีการปลดล็อคไปแล้ว แต่คิดว่าบุคคลที่อยู่มานานแล้วเรื่องอะไรที่เป็นประโยนชน์ต่อประเทศหรือประชาชนคงไม่ต้องบอก  ส่วนข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยมีชื่อนายทหารชั้นผุ้ใหญ่อักษร ย่อ ก กับ ธ จะมาเข้าร่วมนั้น พล.อ.ประวิตร  กล่าวว่า ขอให้ไปถามสื่อที่นำเสนอดู พร้อมยืนยันยังไม่มีการปรับย้ายอะไร รวมถึงไม่มีคนชื่อ ก หรือ ธ เข้ามาทั้งสิ้น ขณะที่การโยกย้ายผู้บัญชาการเหล่าทัพครั้งนี้ ยืนยันว่าเป็นไปตามขั้นตอนทุกอย่าง

+++นางรุ่ง มัลลิกะมาส  ผอ.อาวุโส ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธปท.เผยเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2/59 ยังมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องจากไตรมาสแรกของปี โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการท่องเที่ยวและการลงทุนภาครัฐ ขณะที่ความผันผวนของเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจจีน และการส่งออกที่ยังไม่ฟื้นตัว ส่งผลให้ ธปท.ต้องมีการปรับประมาณการณ์จีดีพีปี 2559 ใหม่ในการประชุม กนง.วันที่ 22 มิ.ย.นี้ จากเดิมคาดจะขยายตัว ร้อยละ  3.1

+++หลังสถาบันระหว่างประเทศ  เพื่อพัฒนาการจัดการ International Institute  for management  Development  (ไอเอ็มดี)  ประกาศเลื่อนอันดับขีดความสามารถการแข่งขันของโลก ประจำปี 2016  ให้อันดับประเทศไทยดีขึ้น 2 อันดับ มาอยู่ที่อันดับที่ 28   นางสาวผ่องพรรณ  เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า  กล่าวว่า จะทำให้นักธุรกิจเกิดความเชื่อมั่นเข้ามาทำธุรกิจและลงทุนในไทย เนื่องจาก ได้มีการปรับปรุงขั้นตอนการขออนุญาตจดทะเบียนการทำธุรกิจในไทยให้รวดเร็วขึ้น เช่น การจดทะเบียนธุรกิจทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้การทำธุรกิจง่ายขึ้นและลดค่าใช้จ่าย

+++นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานศูนย์การพัฒนาความสามารถในการแข่งขัน TMA และประธานคณะอนุกรรมการด้านการจัดการข้อมูลและสื่อสารประชาสัมพันธ์ กพข. กล่าวว่า ผลการจัดอันดับครั้งนี้นับเป็นข่าวดีของประเทศไทย ที่มีอันดับดีขึ้น จาก 2 ปีที่แล้วโดยขึ้นมาอยู่อันดับที่ 28 จาก 61 ประเทศทั่วโลก สะท้อนให้เห็นว่ามาตรการที่รัฐดำเนินการ ทั้งเรื่องภาษีและการลงทุน ได้รับการยอมรับจากผู้ตอบผลสำรวจของผู้บริหาร ด้านประสิทธิภาพของภาคธุรกิจ จากอันดับ 24 ลดลงไปอยู่อันดับที่ 25 ซึ่งจุดเด่นในด้านนี้ คือ สัดส่วนของกำลังแรงงานต่อประชากร กฏระเบียบเกี่ยวกับสถาบันการเงิน และบทบาทของตลาดทุนในการเป็นแหล่งเงินทุนให้ธุรกิจ แต่สิ่งที่ต้องปรับปรุงคือด้านการผลิตที่ยังอยู่ในระดับต่ำ และสุดท้ายด้านโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ การคมนาคม เทคโนโลยี การวิจัยและการพัฒนา สถานพยาบาล สถานศึกษา ซึ่งเป็นด้านที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากมีอันดับที่ลดลง และจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการพัฒนา ซึ่งแม้ภาพรวมประเทศไทยจะมีอันดับที่ดีขึ้น แต่ก็ต้องดูจุดอ่อนและเร่งแก้ไขต่อไป

+++ มติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบตามที่กระทรวงการคลัง เสนอปรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ในการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ ให้ได้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี  โดยจากเดิมที่ต้องเป็นการลงทุนให้แล้วเสร็จภายในปี 2559 เป็นโครงการที่เริ่มลงทุนในปีนี้ โดยไม่ต้องแล้วเสร็จภายในปีเดียว ก็สามารถลดหย่อนภาษีได้ คณะรัฐมนตรี ยังมีมติ อนุมัติงบกลางกว่า217 ล้านบาท ช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบปัญหาภัยแล้ง ในจังหวัดน่าน และเพชรบูรณ์ ที่ตกหล่นจากการช่วยเหลือในครั้งที่แล้ว และยังไม่ได้รับความช่วยเหลือจากโครงการอื่นๆ รวมทั้งสิ้น 14,413 ราย

+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดพุ่งขึ้นในวันนี้ ทำสถิติปิดลบติดต่อกัน 5 วันทำการ และเป็นการปิดแดนบวกที่มีระยะเวลานานที่สุดในปีนี้ เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินเยนช่วยกระตุ้นภาวะการซื้อขายให้เป็นไปอย่างคึกคักปิดพุ่งขึ้น 166.96 จุด ที่ 17,234.98 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน

+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,424.28 จุด เพิ่มขึ้น 0.16 จุด  มูลค่าการซื้อขาย 67,210.28 ล้านบาท

+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันนี้ 185.70 จุด ปิดวันนี้ที่ 20,815.09 จุดตามทิศทางตลาดหุ้นจีนที่พุ่งแรง จากกระแสคาดการณ์ที่ว่า MSCI เตรียมรวมดัชนีตลาดหุ้นจีนเข้าไว้ในดัชนี MSCI Emerging Markets Index ในเร็วๆนี้

+++ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในคืนนี้ตามเวลาไทย ได้แก่ การใช้จ่าย-รายได้ส่วนบุคคลเดือนเม.ย., ดัชนีราคาบ้านเดือนมี.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค.

+++ศาลจังหวัดเชียงใหม่ อ่านคำพิพากษาคดี จำคุกนักศึกษาสาวก่อเหตุเมาแล้วขับชนจักรยาน มีผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นเวลา 4 ปี แต่จำเลยให้การรับสารภาพและให้การเป็นประโยชน์เห็นควรลดโทษเหลือกึ่งหนึ่ง เหลือจำคุกเป็นเวลา 2 ปี โดยไม่รอลงอาญาและให้ชดใช้ค่าเสียหายให้กับญาติผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นเงินกว่า 2 ล้านบาท

+++เว็บไซต์หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนของอังกฤษ รายงานอ้างสำนักงานข้อมูลสารสนเทศของรัฐบาลอียิปต์ว่า ทางการอียิปต์ยืนยันว่า เที่ยวบิน 804 ของอียิปต์แอร์ได้ส่งสัญญาณแจ้งเหตุฉุกเฉินให้ทราบ ก่อนตกในทะเลเมดิเตอเรเนียนหลังหายไปจากจอเรดาร์เมื่อเวลา 02.29 น.วันที่ 19 พฤษภาคม ขณะบินจากกรุงปารีส ฝรั่งเศสไปยังกรุงไคโร พร้อมคนบนเครื่อง 66 คน ระบุว่า พนักงานสอบสวนอียิปต์ได้รับข้อมูลสัญญาณจากดาวเทียม 5 ดวง บ่งชี้ว่าได้รับแจ้งเหตุฉุกเฉินทางอิเลคทรอนิกส์จากระบบส่งสัญญาณแจ้งตำแหน่งฉุกเฉิน(อีแอลที)ของเครื่องบินดังกล่าว ทำให้มีการส่งต่อข้อมูลเรื่องนี้ให้สถานีรับสัญญาณดาวเทียมทางภาคพื้นดินในไซปรัสและยืนยันว่าเป็นเครื่องบินแอร์บัสรุ่นเอ320 ของอียิปต์แอร์ สำหรับการประสานข้อมูลดาวเทียมครั้งนี้จะช่วยให้ทีมค้นหาสามารถจำกัดพื้นที่ค้นหาให้แคบลงเหลือ 3 ไมล์ นอกจากนี้พนักงานสอบสวนอียิปต์คาดว่า ทีมค้นหาอาจจะใช้เวลาอีกกว่า 1 สัปดาห์ จึงจะค้นพบกล่องดำของเที่ยวบิน หลังเรือที่เชี่ยวชาญการค้นหาซากใต้ทะเล2 ลำของฝรั่งเศสได้ร่วมค้นหาในทะเลเมดิเตอเรเนียนในขณะนี้ โดยขณะนี้ทีมค้นหาเร่งทำการค้นหาซากเครื่องบินดังกล่าว ก่อนที่แบตเตอรี่ของกล่องดำจะหมดอายุในอีก 4-5 สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งจะทำให้การค้นหาสัญญาณจากกล่องดำทำได้ยากมากขึ้น

+++นายฮุสเซน นาวัซ ลูกชายของนายกรัฐมนตรีนาวาซ ชาริฟ เปิดเผยว่า ผู้นำวัย 66 ปีของปากีสถานเข้ารับการผ่าตัดหัวใจแบบเปิดที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งใจกลางกรุงลอนดอน อังกฤษเมื่อเวลา 08.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันนี้ คาดว่าจะใช้เวลาผ่าตัด 90 นาที หลังจากนั้นจะพักอยู่ในห้องผู้ป่วยฉุกเฉินอีกราว 5-6 ชั่วโมง ระบุว่านายชาริฟ มีกำลังใจดีมากในช่วงที่ถูกนำเข้ายังห้องผ่าตัด ก่อนหน้านี้ ผู้นำปากีสถานเดินทางไปยังกรุงลอนดอน เมื่อต้นสัปดาห์นี้เพื่อตรวจร่างกาย ซึ่งคณะแพทย์แนะนำให้ทำการผ่าตัด