*สรุปข่าว 19.35น*
+++การผ่อนคลายมาตรการทางการเมือง นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีฝ่ายการเมืองเรียกร้องให้เพิ่มเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ว่า รับทราบ แต่ไม่รู้จะเป็นไปได้แค่ไหน เพราะเป็นเรื่องของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เขาคงพิจารณาแล้วอะไรผ่อนได้จะผ่อนให้ ต่อไปคงมีการผ่อนอีก แต่คงไม่มาบอกว่าจะผ่อนอะไร ใครจะเรียกร้องเพิ่มเติมให้เรียกร้องไป แต่คสช.คงพิจารณาตามจังหวะที่เหมาะสม ว่าจะมีผลกระทบหรือผลข้างเคียงอะไรอย่างไร ส่วนกรณีนักการเมืองเรียกร้องให้มีการประชุมพรรคเพื่อเตรียมการสำหรับการเลือกตั้ง นายวิษณุ กล่าวว่า การประชุมพรรคเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่อย่าเพิ่งเตรียมอะไรตั้งแต่ตอนนี้ เพราะต้องดูก่อนว่ารัฐธรรมนูญจะผ่านหรือไม่ แล้วค่อยมีกฎหมาย และการเลือกตั้ง ช่วงนั้นจะมีเวลาถึง 5 เดือนในการเตรียมการ ซึ่งการผ่อนปรนต่างๆ ต้องเกิดก่อน 5 เดือนก่อนเลือกตั้งอยู่แล้ว
+++นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงการลงพื้นที่ทำความเข้าใจร่างรัฐธรรมนูญ ว่า ไม่มีการขอกำลังเจ้าหน้าที่ให้ดูแลแต่อย่างใด ส่วนเนื้อหาก็เป็นไปตามที่อบรมวิทยากรระดับจังหวัด แต่หากในพื้นที่มีคำถามพิเศษถามขึ้นมา หากตอบได้ก็ตอบ แต่ถ้าตอบไม่ได้ก็ถามกลับมายัง กรธ. ไม่ได้เจาะจงพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง คาดว่าภายในสัปดาห์นี้จะมีการประเมินผลการลงพื้นที่อีกครั้ง
++นายบุญส่ง น้อยโสภณ กรรมการกกต.กล่าวว่า นับตั้งแต่เปิดตัวแอพพลิเคชั่นตาสับปะรด จนถึงวันที่ 16 พฤษภาคม มีการแจ้งเบาะแสผ่านแอพพลิเคชั่นตาสับปะรด จำนวน 2 เรื่อง โดยร้องว่านายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และดร.พิชญ์ พงษ์สวัสดิ์ อาจารย์ประจำภาควิชาการปกครองคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สวมเสื้อที่มีข้อความ “รับและไม่รับ” ซึ่งมีลักษณะชี้นำ โดยได้ส่งไปยัง กกต.กทม. ในฐานะเจ้าของพื้นที่ในการตรวจสอบว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดอาญาหรือไม่ แม้มาตรา 61 ของ พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ จะถูกมองว่าขัดรัฐธรรมนูญ แต่ส่วนตัวเห็นว่าไม่ขัดรัฐธรรมนูญ เพราะการกระทำที่จะถือว่าเข้าข่ายผิดมาตราดังกล่าวต้องมี 3 องค์ประกอบ คือ ต้องไม่บิดเบือนข้อเท็จจริง ต้องไม่ก้าวราว รุนแรง ข่มขู่ ปลุกระดม และ การกระทำนั้นมีเจตนามุ่งให้ประชาชนออกเสียงไปทางใดทาง ดังนั้นจึงไม่อยากให้ผู้ที่จะแสดงความคิดเห็นเกรงกลัวมากเกินไป เพราะตัวกฎหมายมีเจตนาแค่ปรามเท่านั้น
+++หลังค่าเงินบาทอ่อนค่าลงในช่วงนี้ นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. กล่าวว่า ค่าเงินบาทอ่อนค่าขณะนี้ เกิดจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วจากการดำเนินนโยบายของทางธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ซึ่งหากเปรียบเทียบค่าเงินบาทที่อ่อนค่ายังคงสอดคล้องกับทิศทางค่าเงินในภูมิภาค ส่วนการใช้ธนบัตรในปัจจุบันถือว่ามีจำนวนที่ลดลงมีสาเหตุมาจากพันธบัตรที่ใช้อยู่ในปัจจุบันมีอายุการใช้งานนานมากขึ้น รวมทั้งประชาชนหันมาจ่ายเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น ธนาคารแห่งประเทศไทยอยู่ในระหว่างการหารือร่วมกับธนาคารพาณิชย์ในการวางกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมให้มีความเหมาะสมทั้งในรูปแบบของเงินสดและระบบอี-เพย์เม้นท์
+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,424.12 จุด เพิ่มขึ้น 11.45 จุด มูลค่าการซื้อขาย 44,960.55 ล้านบาท
+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดทะยานขึ้นเหนือระดับ 17,000 จุดเป็นครั้งแรกในรอบ 1 เดือน ในวันนี้ เพราะได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินเยน และความเป็นไปได้ที่ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะเลื่อนการปรับขึ้นภาษีการอุปโภคบริโภคออกไปจากกำหนดการเดิมในปีหน้า ปิดพุ่งขึ้น 233.18 จุด ที่ 17,068.02 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน
+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดเพิ่มขึ้นในวันนี้ หลังจากที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ประธานเฟดมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งพอที่จะรับมือกับต้นทุนการกู้ยืมที่ปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต เพิ่มขึ้น 52.62 จุด ที่ 20,629.39 จุด
+++นายประดับ โพธิกาญจนวัตร รองโฆษก พศ.เปิดเผยภายหลังการประชุม มส.กว่า 1 ชั่วโมง ว่า ที่ประชุม มส.ไม่มีวาระการประชุมเกี่ยวกับคดีของพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ตามขั้นตอน หรือระเบียบของคณะสงฆ์ ไม่ได้กำหนดเรื่องที่ให้พระเถระช่วยเจรจากับพระธัมมชโย ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ของพระธัมมชโย และสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ที่มีผู้มองว่าเป็นศิษย์อาจารย์กันนั้น เป็นเหตุให้ดีเอสไอทำหนังสือขอให้สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ช่วยเจรจาไกล่เกลี่ย เพราะมองว่าท่านเป็นพระอุปัชฌาย์ของพระธัมมชโย ตามกฎแล้วไม่น่าเกี่ยวกัน เพราะหลังจากบวชได้ 5 ปีแล้วก็ไม่ถือว่าศิษย์จะอยู่ในความดูของพระอุปัชฌาย์ ส่วนกรณีที่มีผู้ร้องให้ใช้กฎ มส.ฉบับที่ 21 ว่าด้วยการให้พระภิกษุสละสมณเพศ กรณีนี้พระสงฆ์ที่ถูกร้องต้องทำผิดเป็นอาจิณและอยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง ในส่วนของพระธัมมชโยยังไม่เข้าข่าย อย่างไรก็ตาม คิดว่าคณะสงฆ์ต้องคุยกับพระธัมมชโยเป็นการภายในแล้ว
+++ด้านพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวถึงกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กล่าวว่า ดีเอสไอมีการร้องขอกำลังพลเข้ามาจริง ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้พิจารณาตามกรอบอำนาจหน้าที่ซึ่งสามารถทำได้อยู่แล้ว ในเนื้อหาเป็นการขอกำลังพลในการสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ แต่ไม่ได้ระบุมาว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ลักษณะใด ในการดำเนินการกับคดีพระธัมมชโย ต้องพิจารณาให้รอบคอบหลายด้าน โดยใช้หลักการทางนิติศาสตร์ควบคู่กับรัฐศาสตร์ด้วย ถ้าเลือกใช้วิธีใดวิธีหนึ่งอาจจะส่งผลกระทบได้
+++ในวันนี้ ศาลอาญา ศาลนัดพร้อมคู่ความ คดีที่พนักงานอัยการคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายธานัท ธนวัชรนนท์ หรือทอม ดันดี อายุ 57 ปี อดีตนักร้องเพลงเพื่อชีวิตชื่อดังวงซูซู เป็นจำเลย ฐานดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เมื่อถึงเวลานัด นายธานัท จำเลย แถลงต่อศาลขอเปลี่ยนคำให้การเดิมจากปฏิเสธ เป็นให้การรับสารภาพ ไม่ต่อสู้คดี ศาลจึงนัดฟังคำพิพากษาคดีนี้ในวันที่ 1 มิถุนายน เวลา 09.00 น
+++ศาลจังหวัดตลิ่งชันไต่สวนคำร้องที่ขอเพิกถอนคำสั่งอนุญาตให้ถอนฟ้องในคดีแพ่ง ที่นางประนอม แดงสุภา หรือ แม่ประนอม และ น.ส.ศิริวัลย์ แดงสุภา ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางศิริพร แดงสุภา บุตรสาวคนโต และนายสุชาติ ภาษาประเทศ สามีนางศิริพร เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดเรื่องเพิกถอนนิติกรรม ถือกรรมสิทธิ์แทนโดยคืนทรัพย์ และเรียกค่าเสียหายทุนทรัพย์รวม 561,950,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นายทวิชา หวังโภคา ทนายความของนางศิริพร กล่าวว่า การไกล่เกลี่ยมีเงื่อนไขตามข้อตกลง 4 ข้อ โดย วันที่ 29 เมษายน นาง ศิริพรได้เตรียมเช็คเงินสด 1 ล้านบาท ให้นางประนอม แต่วันเดียวกันนางประนอมได้ให้สัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์ ไม่ตรงตามข้อตกลง โดยต้องการเงินเพิ่มอีก 300 ล้านบาท ทำให้การมอบเช็คเงินสดต้องระงับไป ซึ่งศาลเห็นว่าข้อตกลงเปลี่ยนแปลงไปมากศาลจึงนัดไต่สวนคำร้องขอเพิกถอนคำสั่งอนุญาตถอนฟ้อง ในวันที่ 13 กรกฎาคม เวลา 09.00 น. โดยฝ่ายนางประนอมจะนำพยานเข้าไต่สวน 2 ปาก ขณะที่ฝ่ายจำเลยนางศิริพร เตรียมพยานไต่สวน รวม 9 ปาก
+++ที่ประชุมรัฐสภาฟิลิปปินส์ได้ประกาศอย่างเป็นทางการให้นายโรดริโก ดูเตร์เต วัย 71 ปี อดีตนายกเทศมนตรีเมืองดาเวาทางภาคใต้ของประเทศ เป็นว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของฟิลิปปินส์ พร้อมทั้งรับรองนางเลโอนอร์ หรือ เลนี่ โรเบรโด้ วัย 51 ปี เป็นว่าที่รองประธานาธิบดี ทั้งสองคนจะเข้าทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ ซึ่งเป็นวันครบวาระ 6 ปี สมัยเดียวตามรัฐธรรมนูญของผู้นำคนปัจจุบันคือนายเบนิญโญ อากีโน ที่ 3
+++นายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวเก็งผู้สมัครประธานาธิบดีสหรัฐฯได้วิจารณ์นายวิลเลียม คริสโตล บรรณาธิการนิตยสารแนวอนุรักษ์นิยมวีค ลี สแตนดาร์ดของสหรัฐฯ กรณีแสดงความเห็นทางทวิตเตอร์ว่า ข่าวพรรครีพับลิกันของสหรัฐฯจะเสนอชื่อผู้สมัครอิสระลงสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีจะมีขึ้นในเร็วๆนี้ โดยนายทรัมป์วิจารณ์นายคริสโตลทางทวิตเตอร์ว่า เป็นคนบ้าๆบอๆและมีนิสัยแพ้แล้วชวนทะเลาะ บ่งชี้ว่าไม่มีเอกภาพในพรรคฯ นายทรัมป์เพิ่มเติมว่าพรรครีพับลิกันจะต้องทันคนและเข้มแข็ง ถ้าหากต้องการจะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายนนี้ ไม่ควรให้ปล่อยให้คนนิสัยเช่นนั้นมาทำลายโอกาสของผู้สมัครที่มีโอกาสสูงกว่า ก่อนหน้านี้ นายคริสโตลระบุว่า เขาพบปะนายมิตต์ รอมนีย์ อดีตผู้สมัครประธานาธิบดีพรรครีพับลิกันเมื่อต้นเดือนนี้ เพื่อหาเรื่องทางเลือกอื่นๆรวมถึงการเสนอชื่อผู้สมัครอิสระลงสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปลายปีนี้