การดำเนินคดีกับพระเทพญาณมหามุณี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย พันตำรวจเอกไพสิฐ วงษ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผย ถึงกระแสข่าวที่วัดพระธรรมกายเสนอเงินจำนวน 2 พันล้านบาท ให้ยุติการดำเนินคดีกับพระธัมมชโย ว่า ไม่ทราบเรื่องดังกล่าว โดยเพิ่งทราบจากสื่อมวลชน และระบุว่าขณะนี้ดีเอสไอและพนักงานสอบสวนได้ทำแผนรายละเอียดการปฏิบัติการเสร็จสิ้นแล้ว แต่อยู่ระหว่างการประเมินสถานการในการปฏิบัติตามขั้นต่อไป พร้อมกับได้ประสานหน่วยงานที่รับผิดชอบในการดำเนินการทั้งกรณีการใช้โดรน เฮลิคอปเตอร์ และกำลังพล แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าจะเข้าดำเนินการได้ภายในอาทิตย์นี้หรือไม่
ส่วนมื่อวันศุกร์ที่แล้วพนักงานสอบสวนได้เดินทางไปพบกับเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ที่วัดเขียนเขต ซึ่งเป็นไปตามการดำเนินการที่สงฆ์จะต้องรับทราบ เพราะตัวผู้ต้องหาอยู่ในสมณเพศ ซึ่งสงฆ์เองก็มีระเบียบการปกครองอยู่แล้ว ซึ่งจะใช้มาตรา29 ตามพรบ.การปกครองของสงฆ์ ว่า ด้วยการสละสมณเพศเพราะถูกจับโดยต้องหาว่ากระทำความผิดอาญา เข้าดำเนินการหรือไม่นั้น ทางดีเอสไอ ระบุว่าเป็นหน้าที่ของทางระเบียบสงฆ์ที่จะต้องพิจารณา
สำหรับการตั้งข้อสังเกตว่าดีเอสไอนั้นปฏิบัติหน้าที่ล่าช้า อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่าไม่ได้ล่าช้าเพราะทุกอย่างดำเนินการตามแผนมาโดยตลอด แต่ก็สามารถที่จะสรุปสำนวนคดีส่งอัยการสั่งฟ้องได้โดยไม่ต้องมีผู้ต้องหาตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้
ด้านกลุ่มประชาชนที่สนับสนุนพระธัมมชโยมาปักหลักภายในวัดถือว่าเป็นการขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานหรือไม่ อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยว่า สถานการณ์ตอนนี้ยังไม่ถือว่าเป็นการขัดขวางเจ้าหน้าที่ แต่ก็ได้มีการคอยตรวจสอบอยู่ตลอดเวลา ส่วนคดีของนายวิรพล สุขผล หรืออดีตหลวงปู่เณรคำ ผู้ต้องหาในข้อหายหลายคดี ที่กำลังหลบหนีอยู่ต่างประเทศนั้น อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษระบุว่าเรื่องดังกล่าวไม่ได้ล่าช้ายังคงดำเนินการตามกฎหมายอยู่เพราะคดีความยังไม่หมดอายุความส่วนการนำตัวมาดำเนินคดีได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับความร่วมมือของประเทศปลายทาง