จี7เตือนอังกฤษออกจากยูโร/นักศึกษาเวเนฯประท้วง/สหรัฐไม่ขายระเบิดดาวกระจาย*

ที่ประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศอุตสาหกรรม 7 ประเทศ หรือ จี 7 ออกปฏิญญาระบุว่า การลงประชามติให้อังกฤษออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป หรืออียู จะเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ เพราะจะทำให้การค้า การลงทุนที่มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นกลับตกต่ำลงอีกครั้ง และอาจส่งผลให้อัตราว่างงานสูงขึ้น โดยอังกฤษเตรียมจัดการลงประชามติว่า จะออกจากการเป็นสมาชิกอียูหรือไม่ในวันที่ 23 มิถุนายนนี้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ผู้นำอังกฤษเป็นผู้นำในการรณรงค์ให้ชาวอังกฤษออกเสียงให้อังกฤษยังอยู่ในอียูต่อไป

นักศึกษาเวเนซุเอลาร่วมเดินขบวนประท้วงเรียกร้องให้รัฐบาลรีบแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ที่ส่งผลกระทบต่อระบบการศึกษาในประเทศ โดยเฉพาะในระดับอุดมศึกษา แต่การเดินขบวนไปที่หน้าอาคารของกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อนำเสนอข้อเรียกร้องต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ถูกตำรวจปราบจลาจลสกัดไว้ก่อนที่จะเดินทางไปถึง ทั้งนี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ  คาดว่า ปัญหาเงินเฟ้อในเวเนซุเอลาจะทวีความรุนแรงมากขึ้นอีกในปีนี้ โดยอาจจะขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 7 เท่า

รัฐบาลเนเปาลเปิดเผยงบประมาณในการบูรณะประเทศที่ได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.8 เมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว ซึ่งจะใช้งบประมาณทั้งหมด 9,780 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในจำนวนนี้ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐจะใช้สำหรับการก่อสร้างอาคารต่าง ๆ รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและภาคเกษตรกรรม นอกจากนี้จะประกาศให้เงินกู้ปลอดภาษีวงเงิน 3,000 ดอลลาร์สหรัฐสำหรับผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่ต้องการสร้างบ้านใหม่

รัฐบาลประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ คัดค้านการขายระเบิดดาวกระจายให้แก่ซาอุดีอาระเบีย เพื่อใช้ในการทำสงครามที่เยเมน ซึ่งเป็นสาเหตุให้มีพลเรือนเสียชีวิตจำนวนมาก

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์  ปูติน  ผู้นำรัสเซีย เตือนโรมาเนียและโปแลนด์ว่า สองประเทศยุโรปตะวันออก อาจตกเป็นเป้าหมายของขีปนาวุธรัสเซีย เพราะการที่ให้สหรัฐติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธในประเทศ ซึ่งรัสเซียมองว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงและรัสเซียก็เคยเตือนไว้แล้ว แต่สหรัฐอเมริกาอ้างว่าระบบป้องกันขีปนาวุธนี้ มีขึ้นเพื่อป้องกันการโจมตีจากอิหร่าน และไม่ได้คุกคามรัสเซีย

สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ แสดงความกังวลว่า จากอุบัติเหตุทางเรือที่เกิดขึ้นหลายครั้งในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน นอกชายฝั่งประเทศลิเบียในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา อาจทำให้มีผู้อพยพเสียชีวิตมากถึง 700 ราย เฉพาะในสัปดาห์ที่แล้วเกิดเหตุขึ้น 3 ครั้งมีผู้สูญหายเกือบ 100 คน ขณะที่องค์กรแพทย์ไร้พรมแดน คาดว่า จำนวนผู้เสียชีวิตอาจสูงถึง 900 คน

ส่วนเจ้าหน้าที่ของประเทศอิตาลีเปิดเผยว่า พวกเขาสามารถช่วยเหลือผู้อพยพกว่า 600 คนจากเรือที่เดินทางออกจากประเทศลิเบียเมื่อวันเสาร์ ทำให้จำนวนผู้อพยพที่ได้รับการช่วยเหลือในช่วงสัปดาห์นี้เพิ่มเป็นอย่างน้อย 13,000 คนแล้ว

นายซาร์ตัจ อาซิซ ประธานด้านนโยบายต่างประเทศของปากีสถาน เผยว่า การสังหารนายมุลลาห์ อัคตาร์ มานซูร์ ผู้นำตอลีบันเป็นการบ่อนทำลายกระบวนการสันติภาพอัฟกานิสถาน ทำให้ความขัดแย้งในพื้นที่มีความยุ่งยากและซับซ้อนมากขึ้น ทั้งที่เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ที่ผ่านมา อัฟกานิสถาน, ปากีสถาน, สหรัฐฯ และจีน ในนามกลุ่มประสานงาน 4 ฝ่าย หรือคิวซีจี มีความเห็นชอบร่วมกันว่า การแก้ปัญหาทางการเมืองด้วยการเจรจานั้นเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แต่ความเห็นชอบนี้ไม่ได้รับความเคารพนำไปปฏิบัติ

ตำรวจฟิลิปปินส์สังหารผู้ต้องสงสัยเป็นสมาชิกแก๊งค้ายาเสพติด 3 ศพ หลังจากที่นายโรดริโก ดูเตร์เต ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของฟิลิปปินส์ ชนะการเลือกตั้ง พร้อมประกาศกวาดล้างขบวนการค้ายาเสพติด โดยจุดที่มีการปะทะ เป็นบ้านของพ่อค้ายาเสพติดรายหนึ่งที่เกาะบานาคอน ทางตอนกลางของประเทศ 

ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ผู้นำของอินโดนีเซียลงนามเห็นชอบกฎหมายที่กำหนดโทษประหารชีวิตคือโทษขั้นสูงสุดของผู้ต้องหาคดีข่มขืนเด็ก หลังเกิดกรณีแก๊งรุมโทรมเหยื่ออย่างโหดร้ายทารุณหลายคดี ที่จุดชนวนความโกรธแค้นในหมู่ประชาชน

ตำรวจบราซิลจับกุมหนึ่งในกลุ่มผู้ต้องสงสัยกว่า 30 คนซึ่งร่วมกันรุมโทรมเด็กหญิงเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ในเหตุที่เกิดขึ้นที่นครริโอ เดอ จาเนโร จากนั้นผู้ต้องสงสัยก็นำคลิปที่ถ่ายไว้โพสต์ลงเครือข่ายสังคมออนไลน์ ซึ่งก็ทำให้เกิดเสียงประณามผู้ก่อเหตุไปทั่วประเทศ

เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านพักผู้สูงอายุ 2 ชั้นในหมู่บ้านลิโตชกี ห่างจากกรุงเคียฟไปทางเหนือราว 50 กม.เมื่อช่วงเช้ามืดวันอาทิตย์ ซึ่งหน่วยบริการฉุกเฉินแห่งชาติยูเครน พบร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมด 17 ราย และช่วยผู้สูงวัยออกมาได้ 18 คน โดย 5 คนได้รับบาดเจ็บส่งเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล

นายอาลี จันนาตี รัฐมนตรีวัฒนธรรมอิหร่าน แถลงว่าผู้จาริกแสวงบุญชาวอิหร่านจะไม่เข้าร่วมในพิธีฮัจญ์ที่นครมักกะฮ์ในปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มในเดือนกันยายน โดยมีการเจรจากันแล้ว 2 ครั้ง และซาอุดีอาระเบียตัดสัมพันธ์ทางการทูตอิหร่าน เมื่อเดือนมกราคมหลังผู้ประท้วงชาวอิหร่านบุกเผาสถานทูตและสถานกงสุลของซาอุฯ เนื่องจากโกรธแค้นที่ซาอุฯ ประหารชีวิตนักบวชนิกายชีอะห์ชื่อดัง

..