การค้นหาMr.Jason Robert Pawell นักท่องเที่ยวอังกฤษที่สูญหายจากเหตุเรือสปีดโบ๊ทพลิกคว่ำบริเวณแหลมกากี อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ตั้งแต่เมื่อวันพฤหัสบดี พ.ต.ท.อัคราวัส สีห์ธนบุญอุบล สว. สถานีตำรวจน้ำเกาะสมุย เปิดเผยกับ จส.100 ถึงความคืบหน้าว่า เมื่อเช้านี้เจ้าหน้าที่ได้นำเรือออกไปค้นหาร่วมกับเรือของกองทัพเรือ ต.91 แต่คลื่นลมแรงมากจนต้องนำเรือกลับเข้าฝั่ง เรื่องจาก การค้นหามีอุปสรรค การค้นหาได้ค้นหาไกลออกไปจากจุดที่เรือเกิดเหตุด้วย เพราะเป็นไปได้ว่า ลักษณะคลื่นลมที่แปรปรวน อาจพัดร่างผู้สูญหายไปไกลจากจุดที่เรือเกิดเหตุพลิกคว่ำ มีการสั่งการให้คุมเข้มเรื่องความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยา เตือนว่าในช่วงนี้คลื่นสูงเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
ส่วนความคืบหน้าการดำเนินคดี เจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำพยาน 12 ปากแล้ว โดยพยานส่วนใหญ่ให้การว่าคนขับเรือขับด้วยความเร็วสูง และได้ควบคุมตัวนายสนั่น สีตาแก้ว อายุ 47 ปี ชาว จ.ร้อยเอ็ด คนขับเรือสปีดโบ๊ทลำดังกล่าวไว้แล้ว ซึ่งมีใบอนุญาตนายท้ายเรือชั้น 1 ขนาดหกสิบตันกรอส ของกรมเจ้าท่า ในเบื้องต้นแจ้งข้อหากระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิตและได้รับอันตราย ส่วนการชดใช้ค่าเสียหายทางบริษัทเรือมีประกันความเสียหายให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งหมดเกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาลต่อคน 5 แสนบาท เสียชีวิตต่อคน 1 ล้านบาท ทั้งนี้ไม่มีประกันความเสียหายของทรัพย์สิน
พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผบช.ภ.8 สั่งการ พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ให้กำชับ ผกก.สภ. เกาะสมุย ในการสอบสวนเกี่ยวกับสาเหตุที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด เพราะผู้เสียชีวิตเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ อาจส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวได้
พล.ต.เกื้อกูล อินนาจักร รองแม่ทัพภาคที่ 4 เดินทางไปยัง อ.เกาะสมุย เพื่อเยี่ยมอาการของนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ 2 คน คือ น.ส.ซาแมนธา เชลเจนบาร์ธเลทท์ อายุ36 ปี และ น.ส.ซาร่า ซามฮามเมอร์ อายุ 31 ปี ที่พักรักษาตัวในโรงพยาบาลกรุงเทพ
ส่วนเหตุเรือล่มบริเวณแหลมหน้าร้านวังทรายซีฟู้ด ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ พ.ต.ต.สนทรรศ วรรธนะวลัญช์ สารวัตรหัวหน้าสถานีตำรวจภูธรอ่าวนาง ระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้แจ้งเตือนแล้วว่า ในช่วงนี้ไม่ควรออกทะเล เนื่องจากมีคลื่นลมแรง ส่วนนายบำรุง ปาหนัน อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23/6 ม.6 ต.ไสไทย อ.เมืองกระบี่ คนขับเรือได้เดินทางเข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ แล้ว เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหา กระทำการโดยประมาททำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและทรัพย์สินเสียหาย บรรทุกเกินกว่าใบอนุญาตกำหนด และใช้เรือที่ใบอนุญาตสิ้นอายุ เรือลำเกิดเหตุชื่อเรือมารีน๊ะ 2 เจ้าหน้าที่ตรวจสอบทะเบียนเรือพบว่า เป็นเรือขนาดกว้าง 2.20 เมตรยาว 10.30 เมตร บรรทุกผู้โดยสารไม่เกิน 8 คน และสิ้นสุดอนุญาต 12 มีนาคม 2559 นายบำรุง กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุได้บรรทุกผู้โดยสารเป็นนักท่องเที่ยวมาจากอ่าวไร่เลย์ มาขึ้นที่ท่าเรือคลองยิงเสือแต่ได้มีนักท่องเที่ยว 3 คน ไปนั่งที่หัวเรือ ซึ่งได้ห้ามแล้วแต่ไม่ยอมฟัง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเป็นจังหวะที่จะต้องเลี้ยวเข้าไปในคลองผ่านบริเวณแหลมของเนินเขา และมีคลื่นแรงทำให้เรือพลิกคว่ำทันที
CR:ภาพเรือสปีดโบ๊ทคว่ำที่แหลมกากี boonson