+++ผ่านมาครึ่งวันแล้ว ติดตามท่าทีของกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) และ วัดพระธรรมกาย ค่อนข้างชัดเจนด้านวัดพระธรรมกายที่แถลงยืนยันว่า พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย อาพาธ ต้องนอนพักรักษา ไม่เดินทางไป ขอหายก่อนจึงจะเข้ากระบวนการยุติธรรมยึดหลักกฎหมาย
+++ขณะที่ ดีเอสไอ เตรียมแผนดำเนินการต่อ หากไม่มา หรือ หากมา ก็จะมีขั้นตอนต่างกันไป แต่ถ้าวัดแถลงเช่นนี้ก็ไม่น่าจะเดินทางมาแน่ ซึ่งกรณีไม่มา ดีเอสไอ ระบุก่อนหน้านี้ว่า จะมีการประชุมในวันพรุ่งนี้เพื่อพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป น่าจะชัดเจนหลัง 16.30น. ดีเอสไอปฏิเสธข่าวที่ระบุว่า พนักงานสอบสวนดีเอสไอ จะเดินทางไปแจ้งข้อกล่าวหาพระธัมมชโยที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง โดยยืนยันว่าไม่มีการนัดหมาย และจะไม่มีการเปลี่ยนสถานที่แจ้งข้อกล่าวหา
+++ด้านนายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 3 กล่าวในฐานะคณะพนักงานสอบสวนว่า หากพระธัมมชโยไม่เดินทางเข้ามอบตัว ตามขั้นตอนก็ต้องขอศาลออกหมายค้น และเข้าจับกุม กรณีที่เห็นว่าป่วย ก็จะส่งโรงพยาบาลของรัฐเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ในฐานะนักกฎหมาย เห็นว่าน่าจะมามอบตัวในวันนี้ เรื่องจะได้จบและเป็นประโยชน์กับพระธัมมชโย
+++การเตรียมการลงพื้นที่ชี้แจงคำถามพ่วงประชามติของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสนช. เปิดเผยว่า บ่ายวันนี้ จะประชุมคณะกรรมการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์คำถามพ่วงประชามติ ซึ่งเป็นการตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ ประกอบด้วย ประธานกรรมาธิการของสนช.และสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) ขณะเดียวกันจะกำชับให้ใช้งบประมาณการลงพื้นที่ของสนช.ผ่านโครงการ สนช.พบประชาชนอย่างคุ้มค่ามากที่สุด ส่วนการอบรมวิทยากรระดับจังหวัด หรือ ครู ก.จะเสร็จสิ้นในวันที่ 7 มิ.ย. จากนั้นจะเริ่มอบรมวิทยากรระดับอำเภอหรือครู ข.ต่อไป นายสุรชัย กล่าวว่า ไม่หนักใจเรื่องการชี้แจงคำถามพ่วงประชามติ เพราะสนช.มีหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ที่ต้องสร้างความเข้าใจให้กับประชาชน ยืนยันว่า จะไม่ชี้นำหรือรณรงค์ เพราะการตัดสินใจขึ้นอยู่กับประชาชน โดยการกำกับดูแลการแสดงความคิดเห็นเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ซึ่งการจัดเวทีที่ผ่านมา เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
+++นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง เปิดเผยว่า ตามที่ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2559 กำหนดให้มีการส่งหนังสือแจ้งรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงไปยังเจ้าบ้าน เพื่อเชิญชวนให้ออกไปใช้สิทธิออกเสียงประชามติ ในวันที่ 7 ส.ค. สำนักงาน กกต.จึงได้กำหนดรูปแบบหนังสือแจ้งรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงแตกต่างไปจากรูปแบบเดิม คือ รูปแบบใหม่ จะพิมพ์รายชื่อ พร้อมลำดับที่ในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงในช่องสี่เหลี่ยม ซึ่งผู้มีสิทธิออกเสียงสามารถตัดกระดาษรายชื่อ เฉพาะส่วนของตน ไปแสดงพร้อมบัตรประจำตัวประชาชนกับกรรมการประจำหน่วยในวันออกเสียงประชามติได้เลย โดยการออกแบบหนังสือแจ้งเจ้าบ้านรูปแบบใหม่นี้ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้การแสดงตนของผู้มีสิทธิออกเสียง ให้เป็นไปด้วยความรวดเร็ว ลดขั้นตอนในการตรวจบัญชีรายชื่อที่ป้ายประกาศหน้าหน่วยออกเสียง
+++การส่งออกเดือนเมษายนติดลบร้อยละ 8 นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ไม่ได้เป็นสิ่งที่ประหลาดใจกับตัวเลขที่ออกมา เพราะเดือนเม.ย.มีปัจจัยเฉพาะเป็นเดือนที่มีวันหยุดยาวหลายวัน ทำให้มีคำสั่งซื้อและผลิตล่วงหน้าไปแล้ว ประกอบกับมีการเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมันและปิดโรงกลั่นที่สำคัญหลายที่ ขณะที่ ภาคอุตสาหกรรมรถยนต์มีการปรับโครงสร้างการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ และการเปลี่ยนแปลงของราคาทองคำ จึงเป็นปัจจัยชั่วคราวที่ส่งผลถึงการส่งออกไปถึงเดือนพ.ค. ธปท.จะติดตามตัวเลขการส่งออกและตัวเลขเศรษฐกิจอื่น ๆ อย่างใกล้ชิดเพื่อทบทวนต่อไป แต่ยังยอมรับการส่งออกของไทยปีนี้ยังติดลบร้อยละ 2
+++ปัจจัยที่จะต้องระมัดระวังและมีผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนให้ผันผวน คือ แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่มีการคาดการณ์ว่าจะปรับขึ้นเดือนมิ.ย. ซึ่งเฟดจะพิจารณานโยบายการเงินจากข้อมูลเศรษฐกิจเป็นหลัก ดังนั้น ระหว่างนี้จะมีความผันผวนต่อตลาดเงินตลาดทุน ซึ่งผู้ประกอบการต้องปิดความเสี่ยง เพราะค่าเงินบาทมีโอกาสเคลื่อนไหว 2 ทิศทาง ทั้งอ่อนค่าและแข็งค่า แม้ว่าค่าเงินบาทในปัจจุบันยังเคลื่อนไหวอยู่ระดับเดียวกับสกุลเงินในภูมิภาค ยืนยันภาพรวมเศรษฐกิจไทยไม่น่ากังวล เนื่องจากไทยมีความแข็งแกร่งด้านต่างประเทศ โดยมีเงินกู้ยืมต่างประเทศจากรัฐและเอกชนระดับต่ำ สภาพคล่องในระบบมีสูงเพียงพอ หากนักลงทุนต่างชาติไถ่ถอนพันธบัตรหรือเงินทุนไหลออกก็ไม่มีปัญหา ยังเพียงพอต่อการสนับสนุนเศรษฐกิจไทยให้ขยายตัวต่อเนื่อง
+++กรณีที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แสดงความเป็นห่วงเรื่องการปล่อยสินเชื่อรายใหญ่ในอัตราดอกเบี้ยต่ำที่อาจเป็นความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ กนง.พร้อมติดตามใกล้ชิด ยอมรับว่าในสภาวะที่ประเทศมีสภาพคล่องส่วนเกินสูง อาจต้องนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงบ้าง ขณะที่ธนาคารพาณิชย์อาจปล่อยสินเชื่อโดยไม่มองความเสี่ยงลูกหนี้ระยะยาว ซึ่งอาจนำมาซึ่งความเสี่ยงที่ต้องระมัดระวัง
+++การติดตามจับกุมชาวโรฮิงญา 21 คน แหกห้องขังสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองพังงา โดยใช้ใบเลื่อยเหล็กตัดตาข่ายเหล็กห้องควบคุมตัวบริเวณชั้น 2 แล้วโรยตัวลงมาสู่พื้นดิน ประมาณ 03.00 น.วันที่ 23 พ.ค. ก่อนจะแยกย้ายหลบหนีไป ติดตามจับกุมได้แล้ว 14 คน ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญ 1 ศพ และยังหลบหนีอีก 6 คน ล่าสุดเมื่อคืนนี้ นายทรงยศ นาคฤทธิ์ กำนันตำบลถ้ำน้ำผุด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองพังงา และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านตำบลถ้ำน้ำผุด จับชาวโรฮิงญาได้เพิ่มอีก 2 คน บริเวณร้านขายของฝาก ริมถนนสายพังงา-ทับปุด ม.3 ต.ถ้ำน้ำผุด อ.เมือง จ.พังงา ก่อนนำตัวกลับไปห้องควบคุมตัวตรวจคนเข้าเมืองพังงา ทำให้ขณะนี้ยังคงเหลือผู้ที่หลบหนีอยู่อีก 4 คน
+++นายทรงยศ เปิดเผยว่า ปรับแผนการค้นหาเป็นแบบกระจายกำลังดักซุ่มในจุดที่น่าสงสัย เพราะคาดว่าชาวโรฮิงญาที่หลบหนีจะต้องออกมาหาอาหารกินอย่างแน่นอน และพบเห็นชายต้องสงสัย 2 คนแอบซุ่มอยู่ริมถนน จึงเรียกกำลังเสริม ก่อนทำการล้อมจับไว้ได้ ทราบว่าเป็น 2 คนที่หลบหนีขึ้นไปบนภูเขา ก่อนจะทนความหิวไม่ไหวจึงอาศัยความมืดลงมาหาอาหารกิน