*นายกฯลงพื้นที่นครราชสีมา อนุมัติโครงการแก้ภัยแล้ง เดินหน้าลดความเหลื่อมล้ำ*

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะ เดินทางลงพื้นที่ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง โดยมีนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมนักเรียนโรงเรียนลำพระเพลิงพิทยาคม ร่วมร้องเพลง ให้การต้อนรับ จากนั้น นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังที่ทำการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำพระเพลิง เพื่อรับฟังบรรยายสรุปภาพรวมการแก้ไขปัญหาภัยแล้งและการบริหารจัดการน้ำในภาพรวมของจังหวัด และ เห็นชอบหลักการตามที่ทางจังหวัด ขอรับการสนับสนุนงบประมาณ กว่า1,500 ล้านบาท เพื่อพัฒนาลุ่มน้ำ ลำเชียงไกร ตอนล่าง โครงการยกระดับการกักเก็บน้ำของอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรเพิ่มขึ้นอีก 1 เมตร เพื่อให้สามารถกักเก็บน้ำเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 10 ล้านลูกบาศก์เมตร งบประมาณ 310,000,000 บาท โครงการสร้างบรรเทาอุทกภัยและภัยแล้งลำเชียง เพื่อสร้างอาคารระบาย จำนวน 56 แห่ง งบประมาณ 995,000,000 บาท และ โครงการขุดลอกลำเชียงไกร ระยะทาง 122 กิโลเมตร งบประมาณ 260,000,000 บาท รวมเป็นงบประมาณ กว่า1,500 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นแหล่งกักเก็บน้ำและชะลอน้ำหลากในช่วงฤดูฝน และเพื่อเป็นแหล่งน้ำสำหรับอุปโภค บริโภค และการเกษตรกรรมของราษฎร  ช่วยบรรเทาปัญหาภัยแล้งของประชาชนในพื้นที่เขตอำเภอเทพารักษ์ อำเภอด่านขุนทุด อำเภอโนนไทย อำเภอโนนสูง และอำเภอเมืองนครราชสีมา

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ควรปรับแผนการดำเนินงาน ให้ดำเนินโครงการเห็นผลชัดเจนภายในปี 2560 สามารถตอบสนองความต้องการในการแก้ไขปัญหาได้ และให้ปรับระยะเวลาการดำเนินการให้สั้นลง พร้อมกับให้คำนึงถึงระบบน้ำเพื่อใช้อุปโภค บริโภค เพื่อการเกษตร และเพื่อรักษาระบบนิเวศ การดำเนินแผนการบริหารจัดการน้ำขอให้เร่งรัดดำเนินโครงการที่เร่งด่วน และให้ประโยชน์ต่อประชาชนเป็นอันดับแรก พร้อมกับกำหนดพื้นที่การเพาะปลูกให้เหมาะสม และใช้ข้อมูลทางเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาประยุกต์ใช้อย่างบูรณาการ

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า รัฐบาลพยายามทำเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทั่วทั้งประเทศ เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องทำเพื่อลดความขัดแย้ง และสร้างความมั่นคงในทุก ๆ ด้าน เพื่อการปฏิรูปประเทศ ตามแผนปฏิรูปประเทศคิดใหม่ทำใหม่ ตามกำหนดยุทธศาสตร์แห่งชาติ 20 ปี เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง และยังยืน ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง โดยทุกคนต้องเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน พร้อมกับขอฝากให้ข้าราชการต้องเข้าใจประชาชน โดยเฉพาะข้าราชการในพื้นที่จะต้องมีการเรียนรู้ สร้าง-ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาอย่างจริงจัง ทุกคนจะต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โดยตอนในท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่าที่ทำการทุกอย่างไว้เพราะมีหัวใจทำเพื่อประชาชนทุกคนในประเทศ