*มีชัยเชื่อคสช.เข็ดไม่สืบทอดอำนาจ/เยียวยาครอบครัวนร.ที่เสียชีวิตจากไฟไหม้/ฝนตกในอินเดีย*

*สรุปข่าว 19.35น*

+++ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. เป็นประธานการประชุมพิจารณาแผนการประชาสัมพันธ์ร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า มีบางจังหวัดที่ครู ก.ได้เริ่มลงพื้นที่ไปบ้างแล้ว เราได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปสังเกตการณ์เพื่อที่จะได้กลับมาเล่าให้ฟังว่า มีอะไรที่ขาดตกบกพร่องบ้าง จะได้แก้ไขและบอกไปถึงคนที่ยังไม่ได้ทำ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ยาก การอบรมไปเพียง 1-2 วัน แล้วจะให้รู้เรื่องหมด ก็หวังแต่เพียงว่าให้เขาไปบอกในจุดที่ชาวบ้านอยากรู้ก็เท่านั้น ขอให้รู้ว่า กำลังจะมีรัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนูญเกี่ยวกับประชาชนอย่างไร โดยบอกกล่าวเป็นประเด็นๆ ไป จะไปลงลึกในรายละเอียดคงไม่ได้ ส่วนการประเมินผลคงต้องทำไปเรื่อยๆ ถึงแม้ตนจะไม่ได้ลงไป แต่จะส่งคนไปเท่าที่พอจะส่งไปได้ เมื่อถามถึงกรณีที่มีครู ก.ในพื้นที่ภาคใต้สอบถามว่า หากร่างรัฐธรรมนูญและคำถามพ่วงประชามติได้รับความเห็นชอบ จะส่งผลให้ คสช.สามารถสืบทอดอำนาจได้ 12 ปี นายมีชัย กล่าวว่า คสช.ชุดนี้หมดอำนาจ เมื่อมีรัฐบาลใหม่มา    เมื่อถามว่า คสช.อาจจะเป็น ส.ว.และเป็นผู้มาเลือกนายกรัฐมนตรีได้ นายมีชัย กล่าวว่า "คสช.ก็มีแค่สิบกว่าคน เมื่อหมดยุคไปแล้วก็จะเหลือแต่เงา ส่วน คสช.บางคนอาจจะมาในรูปรัฐบาลใหม่ได้หรือไม่ อันนี้ไม่ทราบและเดาไม่ถูก แต่เขาน่าจะเข็ด คงไม่มีใครอยากมา ไม่รู้นะ แต่ถ้าเป็นผม ผมเข็ด

+++การจับกุมแรงงานต่างด้าวลักลอกทำน้ำส้มปลอมจำหน่าย พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ดูแลตั้งแต่แนวชายแดนว่าแรงงานต่างด้าว ลักลอบผ่านเข้าประเทศไทยได้อย่างไร หลังมีแรงงานชาวเวียดนาม ร่วมกันผลิตน้ำส้มปลอมที่กำลังระบาดอยุ่ในขณะนี้ว่า ซึ่งตามขั้นตอนแล้ว กลุ่มคนดังกล่าว ได้เข้ามาประเทศไทยอย่างถูกต้อง เพียงแต่หนังสือเดินทางได้หมดอายุ ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ที่มีอำนาจในการบังคับใช้กฎหมายจำเป็นต้อง ดำเนินการตามกฎหมายกับกลุ่มคนดังกล่าวอย่างเด็ดขาด ส่วนตัว ขอให้พี่น้องประชาชน ร่วมกันสอดส่องดูแลสิ่งผิดปกติ หากพบว่า มีแรงงานต่างด้าวอาศัยอยู่ในประเทศเป็นระยะเวลานาน ก็ให้ช่วยกันแจ้งเจ้าหน้าที่ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป เพราะการจะให้เจ้าหน้าที่ ตรวจค้นทุกจุดเป็นไปได้ยาก

+++ส่วนเหตุการณ์ไฟไหม้ที่โรงเรียนพิทักษ์เกียรติวิทยา จังหวัดเชียงราย พลเอกอนุพงษ์ ระบุว่า ได้สั่งการให้กรมโยธาธิการและผังเมือง ไปตรวจดูความเรียบร้อยของอาคารเรียน ว่า มีการขอใช้พื้นที่ถูกต้องตาม พ.ร.บ.การควบคุมอาคาร หรือไม่ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด และต้องมีหลักประกันว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก

+++มล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางมามอบเงินช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต จากกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุนักเรียนและกรมธรรม์ความรับผิดชอบของสถานศึกษาต่อนักเรียน จำนวน 17 ราย รายละ 200,000 บาท และเงินบริจาคอื่นๆจากนั้นหม่อมหลวงปนัดดาได้ไปพบปะพูดคุยกับญาติผู้เสียชีวิตท่ามกลางบรรยากาศที่เศร้าสลดใจ โดยทางรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้พยายามปลอบใจให้ญาติโดยเฉพาะมารดาของเด็กที่สูญเสียได้ทำใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ได้ โดยทุกฝ่ายเสียใจและพร้อมเป็นกำลังใจให้ ขณะเดียวกันทางหม่อมหลวงปนัดดาเองก็ทนกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหวโดยได้ร้องไห้ในบางช่วงที่ไปพูดคุยกับผู้สูญเสียโดยเฉพาะเมื่อทราบว่าบางคนสูญเสียลูกผู้หญิงไป 2 คนพร้อมๆ กันในเหตุการณ์นี้ด้วย จากนั้นได้เดินทางไปดูอาคารที่เกิดเหตุไฟไหม้ดังกล่าวพบว่าไฟไหม้หนักบริเวณห้องครัวและทางขึ้นบันไดเชื่อมจากชั้น 1 ขึ้นสู่ชั้น 2 ของบ้านพัก รายงานข่าวแจ้งอีกว่าวันเดียวกันโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ได้เคลื่อนย้ายศพเด็กหญิงจำนวน 4 คน ไปไว้ที่โรงพยาบาลเวียงป่าเป้าเพื่อเตรียมมอบให้ผู้ปกครองนำไปจัดการตามประเพณีที่ภูมิลำเนา ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 5 คน นอนพักที่โรงพยาบาลเวียงป่าเป้าจำนวน 3 คน

+++นายสุพจน์ เหล่าสุอาภา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักกฎหมาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปตท. ส่งเจ้าหน้าที่ดำเนินการคัดลอกคำสั่งศาลปกครอง กรณีผู้ตรวจการแผ่นดิน (คตง.) ยื่นฟ้องขอเพิกถอนการแบ่งแยกทรัพย์สินของ ปตท. เมื่อวันที่ 4 เม.ย. มา โดยพบว่าศาลฯ ยังไม่มีคำสั่งใดๆ ต่อผู้ถูกฟ้องทั้ง 3 หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน และ บมจ. ปตท.มีเพียงคำสั่งไม่รับคำฟ้องที่เกี่ยวข้องกับบุคคลธรรมดาทั้ง 8 รายเนื่องจากบุคคลเหล่านี้ พ้นจากตำแหน่งไป ที่ผ่านมาศาลปกครองมีคำสั่งถึง 5 ครั้ง เพื่อยืนยันว่า ปตท. ส่งคืนท่อก๊าซฯ ครบหมดแล้ว

+++วันนี้ พนักงานสอบสวน สน.พญาไท นำนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา อดีตนักเล่าข่าวชื่อดัง และ กก.ผจก.บจก.ไร่ส้ม, บจก.ไร่ส้ม จำกัด, น.ส.มณฑา ธีระเดช เจ้าหน้าที่ บจก.ไร่ส้ม และนางพิชชาภา เอี่ยมสะอาด หรือนางชนาภา บุญโต อดีตพนักงานจัดทำคิวโฆษณาของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฉ้อโกง, ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอมทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย และทำลายเอกสารของผู้อื่น พร้อมสำนวนและความเห็นสมควรสั่งฟ้อง ส่งให้อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 3 เพื่อมีความเห็นสั่งคดี กรณีบริษัท ไร่ส้ม จำกัด ของนายสรยุทธ แก้ไขเอกสารและไม่รายงานการโฆษณาเกินเวลา เป็นผลให้ บมจ.อสมท เสียหาย 138,790,000 บาทจากนี้ อัยการจะตรวจสำนวนและมีการประชุมคณะทำงานครั้งแรกในวันที่ 25 พ.ค. โดยพนักงานอัยการนัดให้ นายสรยุทธ กับพวก มาฟังคำสั่งในช่วงเช้าวันที่ 2 มิ.ย.นี้ ด้านทนายความนางพิชชาภา เอี่ยมสะอาด หนึ่งในผู้ต้องหากล่าวว่า ในส่วนของนางพิชชาภา ได้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่ออัยการให้พิจารณาแล้ว เนื่องจากคดีนี้เป็นการฟ้องซ้ำกับคดีอาญาที่มีคำพิพากษาไปก่อนหน้านี้ และคดีที่ศาลแขวงพระนครเหนือ

+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงลงในวันนี้ เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินเยน นอกจากนี้ การร่วงลงของตลาดหุ้นจีนยังส่งผลให้บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นโตเกียวเป็นไปอย่างซบเซา

ลดลง 155.84 จุด หรือ 0.94% แตะที่ 16,498.76 จุด

+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,384.26 จุด เพิ่มขึ้น 2.57 จุด มูลค่าการซื้อขาย 34,089.37 ล้านบาท

+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดบวกขึ้นในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนกว้านซื้อหุ้นที่ร่วงลงในช่วงเช้า จากความวิตกกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอีกไม่นานนี้ เพิ่มขึ้น 21.40 จุด หรือ 0.11% ปิดวันนี้ที่ 19,830.43 จุด

+++ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า การค้นหาเที่ยวบิน 804 ของอียิปต์แอร์ยังคงดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางรายงานที่ขัดแย้งเรื่องช่วงนาทีท้ายๆของเที่ยวบินนั้น นายปานอส คัมเมนอส รัฐมนตรีกลาโหมกรีซระบุว่าเครื่องบินหักเลี้ยว 90 องศา และหมุน 360 องศาอีกครั้งเพื่อเดินทางไปยังทิศทางเดิม ก่อนจะลดระดับความสูงลงอย่างรวดเร็วแต่นายโมฮีเอลดิน อัซมี ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัทนำรองทางอากาศแห่งชาติของอียิปต์ โต้แย้งรายงานนั้น ระบุว่าเครื่องบินไม่ได้เลี้ยวหักศอกหรือลดระดับความสูง ก่อนหายไปจากจอเรดาร์ ระบุว่าเครื่องบินทำการบินตามเส้นทางและระดับความสูงปกติคือ 37,000 ฟุต โดยไม่ได้เบี่ยงออกนอกเส้นทาง เครื่องบินหายไปจากจอเรดาร์หลังบินเข้าสู่น่านฟ้าอียิปต์ได้ไม่ถึง 1 นาที

+++ประธานาธิบดีบารัก โอบามาของสหรัฐฯบอกรัฐบาลเวียดนามในวันนี้ว่า สิทธิมนุษชนขั้นพื้นฐานจะไม่กระทบต่อความมั่นคงของเวียดนาม เป็นการโน้มน้าวให้เวียดนาม ซึ่งปกครองประเทศแบบพรรคการเมืองเดียวให้ยกเลิกแนวคิดการควบคุมอำนาจแบบเบ็ดเสร็จ ในสุนทรพจน์ซึ่งผู้นำสหรัฐฯได้พูดหลายประเด็น รวมถึงย้อนถึงบาดแผลในช่วงสงครามเวียดนาม สร้างความเจ็บปวดให้แก่ครอบครัวชาวเวียดนามหลายล้านคนและชาวอเมริกัน 6 หมื่นคนที่เสียชีวิตในช่วงสงคราม สหรัฐฯได้ยกเลิกมาตรการห้ามค้าอาวุธและกระชับสัมพันธ์ทางการค้าให้มากยิ่งขึ้น แต่ผู้นำสหรัฐฯก็แสดงท่าทีระมัดระวังโดยการไม่ตำหนิเจ้าภาพด้วยถ้อยคำรุนแรงเกินไปในประเด็นเรื่องสิทธิมนุษยชน

+++บีบีซีรายงานว่า ชาวอินเดียหลายคนได้ออกมาเดินตามท้องถนนด้วยความดีใจที่ฝนตกลงมาในหลายท้องที่ทั่วประเทศ รวมถึงกรุงเดลีในวันนี้ ช่วยคลายร้อนให้กับชาวบ้าน ช่วยให้อุณหภูมิลดจาก 42.7 องศาเซลเซียส มาอยู่ที่ 40.9 องซาเซลเซียส หลังเกิดคลื่นความร้อนต่อเนื่องมาหลายสัปดาห์ โดยเฉพาะเมื่อสัปดาห์ก่อน อุณหภูมิในอินเดียสร้างสถิติใหม่อยู่ที่ 51 องศาเซลเซียส หลายหมู่บ้านและเมืองขาดแคลนน้ำดื่มน้ำใช้ คาดว่ากระทบชาวบ้านอย่างน้อย 330 ล้านคน ในแต่ละปี ก่อนถึงฤดูลมมรสุมซึ่งจะเริ่มตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน ทุกปี มักจะมีแดดจัดและคลื่นความร้อนแผ่ปกคลุมทั่วอินเดีย แต่อุณหภูมิปีนี้สูงกว่าทุกปี คาดว่าภัยแล้งและคลื่นความร้อนในอินเดียจะคลี่คลายลงพอสมควรเมื่อถึงช่วงฤดูลมรสุม สำหรับกรุงเดลีในวันนี้สภาพอากาศเต็มไปด้วยหมอกและทราย หลังเกิดพายุฝนและฝุ่นคละคลุ้งไปทั่วเมืองหลวง