*โฆษกรัฐบาลตอกนักการเมืองความจำสั้น หยุดให้ร้ายประเทศชาติ*

24 พฤษภาคม 2559, 17:29น.


หลังอดีต ส.ส. พรรคเพื่อไทยเดินหน้าออกมาโจมตีว่า เศรษฐกิจไทยเติบโตน้อยที่สุดในอาเซียน พลตรีสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า น่าเสียใจที่ประเทศไทยยังคงมีกลุ่มนักการเมือง ที่พยายามทำลายความเชื่อมั่นของประเทศตัวเองในสายตาชาวโลก และนักลงทุน เพื่อหวังผลทางการเมือง ด้วยการจงใจกล่าวความเท็จ โดยอยากเตือนความจำ นักการเมืองที่อาจจะแกล้งความจำสั้น ว่า ในปี 2556 ที่รัฐบาลเพื่อไทยบริหารประเทศ ต่างหากเป็นปีที่เศรษฐกิจไทยเติบโตน้อยที่สุดในอาเซียน  โดย ลาว เติบโตร้อยละ 7.8 กัมพูชา เติบโตร้อยละ 7.4  เมียนมาร์ เติบโตร้อยละ 6.4  อินโดนีเซีย เติบโตร้อยละ 5.6 เวียดนาม เติบโตร้อยละ 5.4   มาเลยเซียและสิงคโปร์ เติบโตเท่ากันที่ร้อยละ 4.7 ขณะที่ประเทศไทยเติบโตร้อยละ 2.7 ต่ำที่สุดในอาเซียน เพราะการบริหารงานที่ผิดพลาด การทุจริตคอร์รับชั่น ที่กลายเป็นคดีความมากมายในปัจจุบัน รวมทั้งไม่มีประเทศใดในอาเซียนต้องเจอเหตุการณ์นักการเมืองปลุกระดมผู้หลงเชื่อให้ออกมาเผาบ้านเผาเมืองเหมือนประเทศไทย



โดยในปี 2557 ประเทศไทยยังคงบอบช้ำต่อเนื่อง จากการกระทำของกลุ่มนักการเมืองบางกลุ่มที่ปลุกระดมให้เกิดความแตกแยกในสังคม และการทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างมหาศาล ส่งผลให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศตกต่ำต่อเนื่องเหลือเพียงร้อยละ 0.8 เทียบกับประเทศเมียนมาร์ที่เติบโตสูงสุดในอาเซียนที่ร้อยละ 8.7 ซึ่งประเทศไทยขณะนั้น เปรียบเหมือนคนป่วยไม่ใช่จากเชื้อโรคภายนอก  แต่เป็นโรคภูมิแพ้ตัวเองจากน้ำมือนักการเมืองบางคนบางพรรค โดยคสช. ต้องเข้ามาทำหน้าที่หยุดเลือดที่ไหล นำประเทศไทยที่เป็นคนป่วยในห้อง ICU มาดูแลบำบัดรักษา จนปัจจุบันลุกขึ้นนั่งได้ เดินได้ และเตรียมพร้อมที่จะออกวิ่ง เพื่อชดเชยกับเวลาที่สูญเสียไป และรัฐบาลก็ทำอย่างเต็มที่จนอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยเติบโตต่อเนื่องจนถูกจัดอันดับให้อยู่ในกลุ่ม 25 ประเทศแรกที่น่าลงทุนสำหรับนักลงทุนต่างชาติ



พลตรีสรรเสริญ กล่าวต่อว่า อยากเรียกร้องให้ ส.ส. พรรคเพื่อไทยหยุดพูดข้อมูลจริงปนข้อมูลเท็จ ให้ร้ายประเทศได้แล้ว เพราะยิ่งพูดก็ยิ่งเข้าเนื้อตนเอง และอยากขอความร่วมมือสื่อมวลชน หากพิจารณาแล้วพบว่า ข้อมูลบางอย่างไม่ถูกต้อง ก็ไม่ควรเผยแพร่ เพราะจะเป็นการสนับสนุนคนที่พูดจาไร้ความรับผิดชอบ  และอาจสร้างความสับสนให้แก่สังคม  มั่นใจว่าสื่อมวลชนตัดสินใจได้และเลือกที่จะอยู่เคียงข้างสังคมไทยและประเทศไทย

ข่าวทั้งหมด

X