สพฐ.ชี้หลอดไฟนีออนร้อนจัดเหตุไฟไหม้หอพัก/ดีเอสไอแจ้งข้อหาเพิ่มอดีตปธ.สหกรณ์ฯ/รองนายกฯยืนยันเศรษฐกิจฟื้น*

24 พฤษภาคม 2559, 08:29น.


ในวันนี้ ยังต้องติดตาม เหตุเพลิงไหม้หอพักนักเรียนหญิง รร.พิทักษ์เกียรติวิทยา อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ซึ่งม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้แทนนายกรัฐมนตรีเดินทางมาเยี่ยมครอบครัวของเด็กนักเรียนที่เสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุการณ์



ซึ่งก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แสดงความเสียใจกับครอบครัวของเด็กนักเรียนทุกคน และสั่งการให้ดูแลครอบครัวที่สูญเสีย ตลอดจนเด็กนักเรียน พร้อมให้เร่งสืบสวนหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ เพื่อให้ทุกสถานศึกษาจัดทำแนวทางการป้องกัน และฝากถึงคณะครู และเด็กนักเรียนทุกคนว่า ไฟอาจจะเผาไหม้ทำลายอาคารเรียนได้ แต่อย่าให้เผาไหม้กำลังใจของนักเรียนในการแสวงหาความรู้ อย่าเผาไหม้กำลังใจของคณะครูที่จะถ่ายทอดวิชาให้กับเด็กๆ



สำหรับ เหตุไฟไหม้อาคารพักหญิงของโรงเรียนพิทักษ์เกียรติวิทยา ภายในมูลนิธิพันธกิจสุขสันต์ที่ หมู่11 ต.เวียง อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกของวันที่ 22 พฤษภาคม 2559 ส่งผลให้นักเรียนหญิงอายุระหว่าง 5-12 ปี เสียชีวิต 17 ศพ และบาดเจ็บ 5 คน พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) สั่งการให้มีการตั้งคณะกรรมการภาค 5 รายงานผลความคืบหน้าภายใน 1 สัปดาห์



พล.ต.ต.สันติ์ สุขวัจน์ ผบก.ศพฐ.5 กล่าวว่า สาเหตุในการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้เกิดจากหลอดไฟนีออนในห้องสันทนาการมีความร้อนจัดจนหลอมละลาย หยดลงบนกองผ้าที่จะนำไปบริจาค จนติดเป็นเปลวไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว ในจุดที่เกิดเหตุพบคราบเขม่าควันเป็นจำนวนมาก คาดว่าเด็กนักเรียนที่เสียชีวิตอาจจะหมดสติจากการสูดดมควันเข้าไป ก่อนที่ไฟจะลุกไหม้ขึ้นไปบริเวณชั้น 2 ทำให้ฝ้าและเพดานหล่นลงมาคลอกเด็กนักเรียน แม้ระบบไฟฟ้าของอาคารจะมีเบรกเกอร์ไว้ควบคุมไฟฟ้า แต่เนื่องจากการเกิดเหตุครั้งนี้มาจากความร้อนของหลอดไฟนีออน เบรกเกอร์จึงไม่ทำงาน



วันนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ จะแจ้งข้อกล่าวหา สมคบกันฟอกเงินฯ (กรณีพระเทพญาณมหามุนี วัดพระธรรมกาย) กับนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์คลองจั่น ที่เรือนจำกลางบางขวาง นนทบุรี



ยังมีที่จังหวัดพังงา เกิดเหตุผู้ต้องขังคดีหลบหนีเข้าเมืองหลบหนี พล.ต.ต.วรวิทย์ ปานปรุง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพังงา เปิดเผยว่า ผู้ต้องขังชายชาวโรฮิงญาจำนวน 21 คน ใช้ใบเลื่อยเหล็กตัดตาข่ายเหล็กห้องควบคุมตัว หลบหนีออกไปจากห้องควบคุมตัวผู้ต้องขังคดีหลบหนีเข้าเมือง สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดพังงา ต.ถ้ำน้ำผุด อ.เมืองพังงา จากนั้นเจ้าหน้าที่กระจายกำลังกันออกติดตามจับกุมกลับมา ซึ่งมีเหตุกลุ่มผู้หลบหนีรุมทำร้ายเจ้าหน้าที่และพยายามผลักตำรวจให้ตกเหว ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องยิงเพื่อป้องกันตัว กระสุนถูกผู้หลบหนีเสียชีวิต 1 ราย



สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ระบุว่า บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือของญี่ปุ่น คือ เรตติงแอนด์อินเวสต์เมนต์อินฟอร์เมชัน (อาร์แอนด์ไอ) ยืนยันอันดับความน่าเชื่อถือในระดับเดิม ทั้งตราสารหนี้รัฐบาลสกุลเงินต่างประเทศ ที่ระดับ BBB+ และสกุลเงินบาท ที่ระดับ A- และคงอันดับความน่าเชื่อถือหนี้รัฐบาลระยะสั้นสกุลเงินต่างประเทศที่ระดับ A-2 รวมทั้งคงสถานะแนวโน้มความน่าเชื่อถือของประเทศไทยไว้ที่ระดับเป็นลบ เนื่องจากเศรษฐกิจของไทยยังคงขยายตัวได้ในระดับปานกลาง และมีการดำเนินนโยบายการคลังอย่างรอบคอบ ทำให้รัฐบาลสามารถใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยไม่มีผลกระทบต่อหนี้สาธารณะ แต่อาร์แอนด์ไอเห็นว่า แม้ดุลบัญชีเดินสะพัดจะเกินดุล สัดส่วนหนี้ต่างประเทศอยู่ที่ร้อยละ 30 ของจีดีพี และมีทุนสำรองระหว่างประเทศถึง 3 เท่าของหนี้ต่างประเทศระยะสั้น แต่การที่เศรษฐกิจต่างประเทศยังคงฟื้นตัวช้าและเศรษฐกิจไทยยังพึ่งพาการขยายตัวภายในประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะการลงทุนของภาครัฐทำให้ต้องติดตามฐานะการคลังของภาครัฐอย่างใกล้ชิด



ส่วนกรณีที่มีรายงานว่าเศรษฐกิจเติบโตต่ำสุดในอาเซียนติดต่อกัน 2 ปีนั้น นายพรชัย ธีระเวช รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวว่ารายงานนี้ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง โดยในปี 2558 เศรษฐกิจไทยขยายตัวที่ร้อยละ 2.8 ต่อปี ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 0.8  ขณะที่ในกลุ่มอาเซียน เศรษฐกิจบรูไนมีการขยายตัวติดลบร้อยละ 0.6 และเศรษฐกิจสิงคโปร์ขยายตัวร้อยละ 2 และเศรษฐกิจไตรมาสแรกของปีนี้ ขยายตัวร้อยละ 3.2 ดีที่สุดในกลุ่มอาเซียน+6 ทั้งยังมีแนวโน้มที่ดี ทั้งการส่งออกสินค้า การท่องเที่ยว โดยเฉพาะการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในปี 2558 มีเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศสุทธิ (FDI) อยู่ที่ 8,030 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 115.8 จากปีก่อน



นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า ขณะนี้ภาวะเศรษฐกิจไทยปรับดีขึ้น จากเมื่อ 2 ปีที่แล้ว GDP อยู่ที่ร้อยละ 0.8 มาถึงปีที่แล้ว GDP ขยับเป็นร้อยละ 2.8 ส่วนไตรมาส 1/59 ขยับมาอยู่ที่ร้อยละ 3.2 ขณะที่เศรษฐกิจโลกที่มีแต่ทรงกับทรุด ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำตามราคาน้ำมัน ซึ่งไทยส่งออกสินค้าเกษตรเป็นหลักด้วย แต่ที่ยังมีความไม่พอใจ รัฐบาลมีความเข้าใจและรับฟังหมด ไม่โกรธ ไม่น้อยใจ และขอให้เอกชนไทยเชื่อมั่นและกล้าลงทุน ร่วมมือกันมองอนาคตมากกว่ามองระยะสั้นๆ



นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว ฉบับที่ 3 ว่า จากภาวะเศรษฐกิจไตรมาสแรกของไทยเติบโตร้อยละ 3.2 ถือว่าอยู่ในระดับสูง ซึ่งรายได้จากภาคการท่องเที่ยวเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนอย่างมาก เพราะมีสัดส่วนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ถึงร้อยละ 16.5 เป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติร้อยละ 16 คิดเป็นเงิน 680,000 ล้านบาท



นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร แถลงข่าวจับกุมสินค้านำเข้าประเภทส้ม สำแดงเมืองกำเนิดเท็จ มูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจกว่า 4 ล้านบาท ณ บริเวณลานจอดรถยนต์หน้าส่วนของกลาง กรมศุลกากร คลองเตย



นายสมเกียรติ มรรคยาธร นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย เปิดเผยว่า ในราวเดือนสิงหาคม-กันยายน หากผลผลิตข้าวเปลือกยังไม่ออกสู่ตลาดหรือมีไม่เพียงพอ ผู้ประกอบการข้าวถุงอาจมีความจำเป็นต้องปรับราคาขายปลีก ปัจจุบันข้าวถุงขนาดบรรจุ 5 กิโลกรัม (กก.) ข้าวขาวราคา 70-80 บาทต่อถุง ข้าวหอมมะลิ 170-180 บาทต่อถุง โดยข้าวถุงทรงตัวมาตั้งแต่ต้นปี แม้ต้นทุนวัตถุดิบเพิ่มขึ้นแล้ว ข้าวเปลือกเจ้าเพิ่มจาก กก.ละ 12-12.50 บาท เป็น กก.ละ 14 บาท แนวโน้มราคาวัตถุดิบอาจขึ้นถึงช่วงข้าวใหม่ออก ซึ่งขณะนี้ผู้ประกอบการยังมีสต๊อกข้าวและสามารถแบกรับราคาขายเท่าเดิมไม่เกินเดือนกันยายนปีนี้



นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (พณ.) กล่าวว่า ได้สั่งการกรมการค้าภายในติดตามดูสถานการณ์ตลาดและราคาข้าวเปลือก ข้าวถุงอย่างใกล้ชิด ขณะนี้ยังไม่มีข้าวถุงขอปรับขึ้นราคา ส่วนภาพรวมราคาข้าวยังทรงตัว เพราะผลผลิตข้าวนาปรังออกเกือบหมดแล้ว



ด้านสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ระบุว่าตามที่ กำหนดให้ผู้ประกอบทีวีดิจิตอลทั้ง 22 ช่องรายการ ต้องนำเงินมาชำระค่าในอนุญาตงวดที่ 3 ปรากฏว่า มี 17 ช่องรายการนำเงินมาชำระ ขณะที่อีก 5 ช่องรายการ ต้องการรอฟังคำสั่งศาลปกครอง ซึ่งได้ฟ้องร้อง กสทช.ไว้ก่อนหน้านี้ นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า สถานีโทรทัศน์ที่เดินทางมาชำระเงินรวมทั้งสิ้น 17 ช่อง เป็นการชำระครบเต็มจำนวนทุกรายรวมเป็นเงิน 6,485 ล้าน 9 แสน 1 หมื่น 2 พันบาท ซึ่งกสทช.จะเร่งนำส่งยังกระทรวงการคลังเพื่อให้เป็นรายได้แผ่นดินโดยเร็วที่สุด



*-*

ข่าวทั้งหมด

X