*พฐ.ประชุมอีกครั้งพรุ่งนี้หาสาเหตุไฟไหม้หอพักรร./จับได้บ้างแล้วผู้ต้องขังหนีที่พังงา/ตั้งข้อหาชาวเวียดนามขายน้ำส้มผสมน้ำ*

+++การพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลเด็กๆที่เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้โรงเรียนพิทักษ์เกียรติวิทยา อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย และการชดเชยเยียวยารวมถึงให้กำลังใจครอบครัวที่สูญเสีย เป็นเรื่องสำคัญรวมถึงการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงสาเหตุที่เกิดเหตุ ทำให้มีนักเรียนหญิงเสียชีวิตจำนวน 17 ศพ และบาดเจ็บ 5 คน นายโคษิต อบสุวรรณ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ศพนักเรียน 17 ศพ สามารถระบุตัวตนได้แล้ว 5 ศพ ซึ่งได้ติดต่อญาตินำศพไปบำเพ็ญกุศลต่อไป สำหรับ 12 ศพที่เหลือได้เก็บตัวอย่าง DNA เพื่อส่งไปยัง รพ.มหาราช จ.เชียงใหม่ เพื่อตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล ใช้เวลา 2 สัปดาห์จะทราบผล จากการตรวจสอบสภาพศพการเสียชีวิตเกิดจากสำลักควันขณะหลับ และถูกไฟคลอก

+++เมื่อช่วงบ่ายจส.100 ตรวจสอบไปที่โรงพยาบาลเวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ทราบว่า มีผู้เสียชีวิต 17ศพ บาดเจ็บ 19 คน กลับบ้านไปแล้ว 14 คน  เหลือรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจำนวน 3 คน อีก 2 คน อาการสาหัส ส่งต่อไปที่โรงพยาบาลเชียงราย

+++ ขณะที่ นายเรวัตร วาสนา ผู้จัดการโรงเรียน กล่าวว่า ตามปกติ หอพักของโรงเรียนจะมีผู้ดูแล 5 คน คือ ผู้จัดการหอพัก 1 คน ครูพี่เลี้ยง 2 คน และแม่บ้าน 2 คน ในเวลาเกิดเหตุ ผู้จัดการหอพักได้ไปอาบน้ำที่บ้านที่อยู่ใกล้หอพัก ส่วนแม่บ้านหลังเลิกงานก็กลับบ้าน ครูพี่เลี้ยงลา 1 คน จึงเหลือครูพี่เลี้ยง 1 คนในช่วงเกิดเหตุ คือ น.ส.สุชาดา แซ่มั่ว อายุ 23 ปี นอนอยู่ในหอพัก ซึ่งครูได้ช่วยเหลือนักเรียน นำเชือกไนลอน และผ้ามาผูกกัน พาดหน้าต่างสองจุดเพื่อให้นักเรียนโรยตัวลงมา โดยให้นักเรียนลงไปที่กันสาดแล้วกระโดดลง ส่วนครูได้ตามลงมาหลังจากช่วยเด็กนักเรียนได้จำนวนหนึ่ง และพลัดตกได้รับบาดเจ็บด้วย

+++พล.ต.ต.พล วิทยานนท์ ที่ปรึกษา ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 5 ระบุว่า ยังสรุปไม่ได้ว่าสาเหตุเกิดจากเรื่องใด พรุ่งนี้จะมีการประชุมกันอีกครั้ง ยังไม่ยืนยันถึงสาเหตุ ต้องรอประชุมกันพรุ่งนี้ ถึงจะสรุปผลได้

+++กระบวนการจัดทำประชามติ นายศุภชัย สมเจริญ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กำชับเจ้าหน้าที่ให้วางตัวเป็นกลาง หากไม่ดำเนินการก็จะมีความผิดตามกฎหมาย พร้อมกับยืนยันว่าไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องการโกงประชามติ

+++ด้านนายธนิศร์ ศรีประเทศ รองเลขาธิการกกต. ในฐานะตัวแทน กกต. พาสื่อมวลชนไปดูการจัดพิมพ์ร่างรัฐธรรมนูญและเอกสารที่เกี่ยวข้องสำหรับการเผยแพร่  นายธนิศร์ กล่าวว่า โรงพิมพ์ดังกล่าว กกต.ใช้วิธีกรณีพิเศษในการจัดจ้าง สำหรับจัดพิมพ์ร่างรัฐธรรมนูญและเอกสารที่เกี่ยวข้อง โดยใช้งบประมาณ 58 ล้านบาท ในการพิมพ์ประกอบด้วยร่างรัฐธรรมนูญ 1 ล้านเล่ม สรุปสาระสำคัญร่างรัฐธรรมนูญทั้งเล่ม 1 เล่ม 2 อย่างละ 4 ล้านเล่ม และคำอธิบายคำถามพ่วงประชามติอีก 4 ล้านเล่ม ซึ่งจะจัดเป็นชุด โดย 1 ชุด ประกอบด้วยร่างรัฐธรรมนูญ 1 เล่ม สรุปสาระสำคัญร่างรัฐธรรมนูญเล่ม 1 เล่ม 2  และคำอธิบายคำถามพ่วงประชามติ อย่างละ 4 เล่ม แจกไปยังครัวเรือนต่างๆ พร้อมกับหนังสือแจ้งเจ้าบ้านก่อนวันออกเสียงประชามติ 15 วัน  

+++นายธนิศร์ กล่าวว่า การส่งมอบร่างรัฐธรรมนูญและเอกสารประกอบล็อตแรกในวันที่ 25 พ.ค.นี้ ซึ่งเป็นวันที่กกต.จัดงาน คิกออฟ 7 สิงหา ประชามติร่วมใจประชาธิปไตยมั่นคง  ซึ่งจะเชิญปลัดกระทรวงทุกกระทรวง ผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ และภาคประชาชน กว่า 1,000 คน เข้าร่วมงาน รวมถึงจะเปิดตัวมาสคอตที่เป็นหนุมาน และเพลงที่ใช้ในการรณรงค์ประชามติด้วยโดยล็อตแรกจะจัดส่ง 100,000 ชุด ซึ่งขณะนี้จัดพิมพ์แล้วเสร็จ และพร้อมที่จะจัดส่งให้กับคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) อย่างละ 50,000 ชุด ส่วนที่เหลือและจะจัดพิมพ์เพิ่มจนแล้วเสร็จในวันที่ 22 มิ.ย.นี้ อีก 900,000 ชุด ไปรษณีย์จะจัดส่งไปยังส่วนราชการ สถานศึกษาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และศูนย์ศึกษาประชาธิปไตยระดับตำบลของแต่ละจังหวัดทั่วประเทศ ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 26 มิ.ย.

+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ปิดตลาดที่ 1,381.69 จุด ลดลง 4.17จุด หรือ มูลค่าการซื้อขาย 36,561.35 ล้านบาท น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดผันผวนจากปัจจัยภายนอก ส่วนปัจจัยในประเทศก็ไม่ได้มีประเด็นใหม่เข้ามาช่วยหนุน

+++ดัชนีชีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 43.17 จุด  ปิดวันนี้ที่ 19,809.03 จุด นักลงทุน ระมัดระวังการซื้อขายขณะจับตาดูสัญญาณบ่งชี้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อใด นักลงทุนต่างรอดูการประชุมสุดยอด G7 ที่จะจัดขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่นในวันที่ 26-27 พ.ค. รวมทั้งท่าทีของทางการญี่ปุ่นว่าจะประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติมหรือไม่ ส่วนดัชนินิเคอิ ตลาดหุ้นโตเกียวญี่ปุ่น ลดลง 81.75 จุด 16,654.60 จุด

+++การติดตามผู้ต้องขังคดีหลบหนีเข้าเมือง ผู้ต้องขังชายชาวโรฮิงญาจำนวน 21 คน ได้ใช้ใบเลื่อยเหล็กตัดตาข่ายเหล็กห้องควบคุมตัวบริเวณชั้น 2 ก่อนจะแยกย้ายหลบหนีไป ล่าสุดจับกุมตัวได้แล้ว 3 คน เสียชีวิต 1 ศพ เนื่องจากทำร้ายเจ้าหน้าที่ๆ จึงต้องยิงปืนป้องกันตัว พล.ต.ต.วรวิทย์ ปานปรุง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพังงา พร้อมด้วย พ.ต.อ.จิรภัทร โพธิ์ชนะพันธุ์ ผกก.สภ.เมืองพังงา เข้าตรวจสอบห้องควบคุมตัวผู้ต้องขัง พร้อมๆกับสนธิกำลังเจ้าหน้าตำรวจ และทุกฝ่ายติดตามค้นหาพื้นที่ใกล้เคียงพร้อมกับประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านที่พบเห็นให้รีบแจ้ง 191 โดยเร็วจากการสอบสวนเบื้องต้น พบว่า ชาวโรฮิงญาได้อาศัยจังหวะตอนย่ำรุ่ง ใช้ใบเลื่อยเหล็กตัดตาข่ายเหล็กของห้องขัง ก่อนที่จะมุดตัวออกมาด้านนอก แล้วโรยตัวลงมาด้านล่าง ก่อนที่จะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม แยกย้ายกันหลบหนีไป โดยกลุ่มที่ 1 มีจำนวน 15 คน ได้กระจายหลบหนี กลุ่มที่ 2 จำนวน 6 คนได้หลบหนีไปบนภูเขา 

+++หลังจากสมาชิกเฟซบุ๊กได้แชร์ภาพชายหญิงคู่หนึ่ง ขณะกำลังผสมน้ำส้ม บรรจุลงในขวดพลาสติก โดยระบุข้อความประกอบว่า ชาวเวียดนามกำลังทำการผสมน้ำส้มปลอมกับน้ำประปา โดยมีการแต่งรสหวานจากสารขัณฑสกรหรือสารใช้แทนน้ำตาลและสีส้ม บรรทุกใส่รถเข็นออกเร่ขายไปทั่วเมือง อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ล่าสุด พ.ต.อ.สามารถ แก้วมณี ผกก.สภ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบห้องเช่าแห่งหนึ่ง ในต.มิตรภาพ อ.มวกเหล็ก พบสามีภรรยาชาวเวียดนามคู่หนึ่ง ช่วยกันกรอกน้ำส้มคั้นบรรจุใส่ขวด จึงเข้าจับกุมพร้อมของกลางผลส้มจำนวนหลายถุง หัวเชื้อน้ำส้มขวดบรรจุ นำตัวไปสอบสวน ทั้งคู่รับสารภาพ เข้ามาอยู่เมืองไทยนานพอสมควร ฝ่ายหญิงอายุ 42 ปี อ้างว่ามีพาสปอร์ตแต่ขาดอายุ ส่วนฝ่ายชายอายุ 45 ปี อ้างว่าทำพาสปอร์ตสูญหาย ได้ช่วยกันทำน้ำส้มคั้นปลอมกันเอง ไม่มีใครว่าจ้าง ซึ่งจะนำไปวางขายบนรถเข็น ในราคาขวดละ 20 บาท แจ้งข้อหา เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาอยู่อาศัยในประเทศไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต และห้ามมิให้ประกอบอาชีพต้องห้าม เนื่องจากเป็นบุคคลต่างด้าวไว้ก่อน ส่วนข้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับกรณีการผลิตน้ำส้มคั้น ต้องรอสาธารณสุขจังหวัดตรวจสอบผลว่าถูกต้องตามมาตรฐานหรือไม่

+++สถานการณ์ในเยเมน เกิดเหตุระเบิดรถยนต์ ขณะที่คนรุ่นหนุ่ม กลุ่มหนึ่งอยู่ระหว่างการเข้าแถวสมัครเข้าร่วมงานกับกองทัพเยเมนที่ด้านนอกฐานทัพบัดร์ อำเภอคอร์มักซาร์ เมืองเอเดนทางภาคใต้ ของประเทศ  มีคนเสียชีวิตหลายสิบศพ เบื้องต้นนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถจะให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตอย่างแน่ชัดและยังไม่มีกลุ่มใดอ้างความรับผิดชอบ

CR:พ่อน้องแพร