เมื่อประเทศไทยเริ่มเข้าสู่ฤดูฝน และอุุตุนิยมวิทยาคาดว่าตลอดสัปดาห์หน้า จะมีฝนตกเพิ่มมากขึ้นอีก พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากปริมาณฝนโดยรวมยังไม่มากพอที่จะทำให้ปริมาณน้ำในเขื่อนหรืออ่างเก็บน้ำเพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับที่สามารถวางใจ หรือสามารถปล่อยน้ำให้ใช้เพื่ออุปโภคบริโภคหรือทำการเกษตรได้อย่างไม่จำกัด เพราะที่ผ่านมาต้องเจอกับสภาพแห้งแล้งมายาวนาน ล่าสุดมีปริมาณน้ำใช้การได้ในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลาง รวมกันเพียงร้อยละ 17-18 เท่านั้น
ดังนั้นรัฐบาลขอว่าอย่าชะล่าใจ และขอใช้โอกาสที่ฝนตกลงมาในช่วงนี้ เก็บน้ำไว้ใช้ยามฉุกเฉิน โดยการขุดบ่อหรือเตรียมพื้นที่รองรับน้ำให้เพียงพอกับที่ดินของตนเอง รวมทั้งวางแผนการเพาะปลูกให้ดี
ส่วนบางพื้นที่ซึ่งเร่งทำนาในช่วงต้นฤดูฝนอาจมีความเสี่ยงที่ฝนจะทิ้งช่วง ต้นข้าวจะได้รับความเสียหาย ซึ่งภาวะฝนทิ้งช่วงมักเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนมิถุนยน-กรกฎาคมของทุกปี
พลตรีสรรเสริญ กล่าวอีกว่า หลังจากที่นายกรัฐมนตรีกลับจากรัสเซียมาถึงประเทศไทย ก็แสดงความเป็นห่วงเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะหลายจังหวัดที่ต้องประสบกับพายุไซโคลนและฝนตกหนัก จึงขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารจากทางการพร้อมกำชับหน่วยราชการ ทหาร ฝ่ายปกครอง ให้ดูแลช่วยเหลือประชาชนอย่างใกล้ชิด
พร้อมกันนี้ยังฝากเตือนเรื่องใช้น้ำอย่างประหยัดและรู้คุณค่า ขณะที่รัฐบาลก็ยังคงเดินหน้ามาตรการขุด ลอก คูคลองหนองบึงที่ตื้นเขิน เพื่อเพิ่มปริมาตรแหล่งเก็บกักน้ำ ทั่วประเทศ และช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งอย่างต่อเนื่อง ตามที่ได้อนุมัติไว้ก่อนหน้านี้
โดยในวันที่ 25 พฤษภาคมนี้ นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการเดินทางลงพื้นที่ เพื่อติดตามการแก้ปัญหาภัยแล้ง และมอบหนังสืออนุญาตให้ราษฎรทำกินในที่ดินของรัฐ ที่ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา
..
ผสข.ปิยะธิดา เพชรดี