สหรัฐสังหารหนึ่งในผู้นำกลุ่มตอลิบันในปากีสถาน

กองกำลังปฏิบัติการพิเศษของสหรัฐฯ ใช้เครื่องบินไร้พลขับ หรือ โดรนปฏิบัติการโจมตีพื้นที่ห่างไกลของปากีสถาน บริเวณรอยต่อแนวชายแดนอัฟกานิสถาน คาดว่า นายมุลเลาะห์ อัคตาร์ แมนซาวร์ ผู้นำกลุ่มตอลิบัน ซึ่งตกเป็นเป้าหมายในปฏิบัติการครั้งนี้ อาจเสียชีวิตแล้ว 



โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ ซึ่งได้รับการอนุมัติจากประธานาธิบดีบารัค โอบามา เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 06.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือประมาณ 17.00 น.วานนี้ตามเวลาประเทศไทย โดยมีเป้าหมายคือ นายแมนซาวร์ ซึ่งได้รับแต่งตั้งเป็นผู้นำกลุ่มตอลิบันเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้วต่อจากนายมุลเลาะห์ โอมาร์ที่เสียชีวิตเมื่อ 2 ปีก่อน โดยนายแมนซาวร์ หลบเลี่ยงการปรากฏตัวต่อสาธารณชน เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการวางแผนการโจมตีสิ่งอำนวยความสะดวกในกรุงคาบูลและพื้นที่ต่างๆ ทั่วอัฟกานิสถาน และถือเป็นภัยคุกคามพลเรือนและกองกำลังรักษาความมั่นคงอัฟกันและพันธมิตร อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์สถาบันวิชาการบรู๊คกิ้งส์ของสหรัฐฯ เห็นว่า ถึงแม้นายแมนซาวร์จะเสียชีวิต แต่การทำสงครามปราบปรามกลุ่มตอลิบันยังไม่ยุติและคงต้องใช้ระยะเวลานาน เนื่องจากกลุ่มตอลิบันมีผู้นำจำนวนมากและยังมีขีดความสามารถในการปฏิบัติการระดับพื้นที่ อย่างไรก็ดี สมาชิกฝ่ายนิติบัญญัติสหรัฐฯ แสดงความยินดีกับความสำเร็จของประธานาธิบดีโอบามาในครั้งนี้ ยกตัวอย่างเช่น นายลินซีย์ เกรแฮม สมาชิกวุฒิสภาพรรครีพับลิกันที่กล่าวกระตุ้นให้รัฐบาลสหรัฐฯ อย่าได้ถอนทหารออกจากอัฟกานิสถานจนกว่าสถานการณ์ในภาคพื้นดินจะคืนสู่ภาวะปกติ ขณะที่นายจอห์น แม็คเคน ประธานคณะกรรมาธิการด้านการทหารของวุฒิสภาหวังว่า ปฏิบัติการปราบปรามผู้นำกลุ่มตอลิบันครั้งนี้จะนำไปสู่การทบทวนนโยบายสั่งห้ามกองกำลังสหรัฐฯ จากการมุ่งเป้าโจมตีกลุ่มตอลิบัน ทั้งนี้ นายแมนซาวร์ ซึ่งใช้ชีวิตอยู่ในปากีสถานเช่นเดียวกับชาวอัฟกันนับล้านคนที่อพยพหนีการยึดครองของอดีตสหภาพโซเวียต เป็นอุปสรรคสำคัญในการทำข้อตกลงสันติภาพระหว่างรัฐบาลอัฟกันกับกลุ่มตอลิบัน ด้วยการสั่งห้ามผู้นำกลุ่มตอลิบันเข้าร่วมการเจรจาสันติภาพกับรัฐบาลอัฟกานิสถาน เพื่อนำไปสู่การยุติความขัดแย้ง

..

(0845 F171)