โคลัมเบียและกบฎฟาร์คยอมรับการสืบสวนการใช้ความรุนแรงในระหว่างสงครามกลางเมือง

รัฐบาลโคลัมเบียและกลุ่มกบฎฟาร์คเห็นพ้องร่วมกันในการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมเพื่อพิสูจน์หาข้อเท็จจริงในเหตุการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในโคลัมเบียในรอบ 50 ปีที่ผ่านมา จนทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 220,000 คน นับเป็นก้าวย่างสำคัญในการนำสันติภาพกลับคืนสู่โคลัมเบีย ความคืบหน้าดังกล่าวเป็นผลจากการเจรจาสันติภาพที่จัดขึ้นในกรุงฮาวานาของคิวบา ที่เชิญผู้แทนจากทั้งสองฝ่ายมาหารือ แถลงการณ์ร่วมของรัฐบาลโคลัมเบียและกลุ่มกบฎฟาร์คว่า ทั้งสองฝ่ายเห็นด้วยที่จะรับฟังความต้องการของเหยื่อจากเหตุการณ์ความรุนแรง จึงได้มีการเชิญเหยื่อเข้าร่วมโต๊ะการเจรจาด้วย การเจรจาสันติภาพกำหนดกรอบการเจรจาไว้ 10 หัวข้อ ที่ผ่านมาที่ประชุมได้ข้อสรุปบ้างแล้วเกี่ยวกับเรื่องการปฏิรูปที่ดิน การส่งเสริมให้กลุ่มฟาร์คมีส่วนร่วมทางการเมือง และการค้ายาเสพติด ส่วนวาระที่กำลังพิจารณาในขณะนี้เน้นเรื่องการเยียวยาเหยื่อจากเหตุการณ์ความขัดแย้ง อย่างไรก็ตาม ทั้งฝ่ายกลุ่มกบฎฟาร์คและรัฐบาลโคลัมเบียต่างยังคงปฏิเสธในข้อกล่าวหาว่าได้มีการทารุณกรรมพลเรือนผู้บริสุทธิ์ โดยกล่าวหาอีกฝ่ายหนึ่งว่าเป็นผู้กระทำการรุนแรงจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก และยังทำให้พลเรือนอีกกว่า 3 ล้านคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือนเพื่อหนีความรุนแรง กระบวนการเจรจาสันติภาพระหว่างรัฐบาลโคลัมเบียและกลุ่มกบฎฟาร์คได้รับการผลักดันจากประธานาธิบดีฮวน มานูเอล ซานโตส แห่งโคลัมเบีย มาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2555 โดยเขาได้ประกาศเดินหน้าจัดการเจรจากับกลุ่มกบฎฟาร์คกลางเวทีหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสมัยที่ 2

<<917F174 >>