*นายกฯชี้สังคมไทยได้บทเรียนจากเหตุปิดล้อมคนร้าย/กกต.ตั้งทีมที่ปรึกษากลั่นกรองร้องเรียนประชามติ/ฟ้องช่างภาพคดีกราดยิงฝรั่งเศส*

20 พฤษภาคม 2559, 18:20น.


*สรุปข่าว 19.35น*



+++กรณีการล้อมจับ ผู้ต้องหาในคดีฆ่าผู้อื่น  พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นเรื่องเศร้าสลด และไม่ควรเกิดขึ้นไม่ว่ากับบุคคลใด และขอให้ถือเอาเหตุการณ์นี้ เป็นบทเรียนครั้งสำคัญสำหรับทุกฝ่ายในสังคมไทย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าไประงับเหตุ ต้องมีการวางแผนรับสถานการณ์ในภาวะวิกฤตที่ดีในกรณีเกิดเหตุไม่คาดฝัน เพื่อช่วยลดโอกาสความสูญเสีย อาทิ การมีนักจิตวิทยาเข้าร่วมในการเจรจา หรือ การมีแผนสำรองกรณีการเจรจาไม่เป็นผล



++ นายกรัฐมนตรี แนะนำว่าจากเหตุการณ์นี้ต้องขอความร่วมมือจากสถาบันครอบครัว และสถาบันการศึกษาให้ก้าวเข้ามามีบทบาทในการช่วยอธิบายสร้างความเข้าใจให้เด็กเยาวชนที่อาจชมการเผยแพร่ข่าวจากสื่อ หรือผ่านช่องทางอื่นใน social media ให้รู้ว่า เป็นสิ่งที่อันตรายและไม่ควรเลียนแบบ ขณะที่คนไทยทุกคน ล้วนได้บทเรียนที่ควรมีสติเป็นเครื่องกำกับการกระทำของตน ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะผู้กระทำต่อผู้อื่น ที่ควรมีความเมตตาปรานี เห็นอกเห็นใจ ให้เกียรติ หรืออยู่ในฐานะผู้ถูกกระทำ ที่ควรมีสติรู้วิธีจัดการอารมณ์ ผ่องถ่ายความไม่พอใจ ความคับแค้นใจ ไปในทางที่สร้างสรรค์และไม่ทำร้ายตนเอง



+++กรณีการเชิญพรรคการเมืองเข้าชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับ ร่างรัฐธรรมนูญและการทำประชามติ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้งด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า ภาพรวมเป็นที่น่าพอใจ เป็นไปในทิศทางที่ดี แต่ละพรรคการเมืองส่งตัวแทนเข้ามาร่วมและให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ระยะเวลาก็มีเต็มที่เพื่อให้ตั้งคำถามและชี้แจง ดังนั้นจึงเป็นบรรยากาศค่อนข้างดี  ส่วนจะมีการเปิดเวทีลักษณะนี้อีกหรือไม่ กกต.ยังไม่หารือกัน อย่างไรก็ตาม กกต.มีโอกาสอธิบายเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายทำให้พรรคการเมืองผ่อนคลายความกังวลในเรื่องที่อะไรทำได้-ทำไม่ได้ และกกต.ได้ตั้งทีมที่ปรึกษากฎหมายเพื่อมากลั่นกรองเรื่องร้องเรียนที่อาจขัดกฎหมายในกรณีสำคัญๆ ที่ กกต.ไม่ชัดเจนว่าผิดหรือไม่ผิด เช่น กรณีการขายเสื้อของกลุ่มการเมือง เบื้องต้นได้ให้แนวคิดว่าการกระทำ ที่เชื่อมโยงรณรงค์ปลุกระดมให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง จะถือเป็นองค์ประกอบความผิดครบถ้วน ซึ่งกรณีดังกล่าวได้มีการรวบรวมหลักฐานไว้แล้ว เมื่อใดที่เชื่อมโยงว่า เป็นการรณรงค์ระดมให้เกิดความวุ่นวาย ก็สามารถดำเนินการได้ทันที ส่วนการแจกเสื้อ หรือแจกสติกเกอร์ทำไม่ได้ เพราะขัดต่อมาตรา 61 (2) เพราะมีลักษณะคล้ายกับการซื้อเสียง อะไรก็ตามที่คิดเป็นมูลค่าเงินถือเป็นความผิดได้ และไม่เกี่ยวว่ามีมูลค่ามากหรือน้อย เพราะเคยมีแนวทางการวินิจฉัยมาแล้ว เช่น การแจกปฏิทินปีใหม่ก็มีการแจกใบแดง ดังนั้นขอให้ระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการกระทำที่อาจเข้าข่ายกรณีดังกล่าว.



+++ หลังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่ารองผู้อำนวยการโรงพยาบาลค่ายภาณุรังษีออกใบรับรองแพทย์และเวชระเบียนให้พระเทพญาณมหามุนี (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย) หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย โดยมิชอบ นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภากล่าวว่า การออกใบรับรองแพทย์ไม่ว่าจะกรณีใดก็ต้องระบุตามความเป็นจริงหากให้ข้อมูลเท็จจะถือว่ามีความผิด ส่วนบทลงโทษนั้น มีตั้งแต่การพักใช้ใบอนุญาตไปจนถึงการเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพศิลปะ ซึ่งต้องพิจารณาเป็นรายกรณี ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าใบรับรองแพทย์ของพระธัมมชโยมีความผิดปกตินั้น เนื่องจากยังไม่ทราบข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร แพทยสภาจึงไม่สามารถไปดำเนินการอะไรได้แต่หากมีการร้องเรียนเข้ามา แพทยสภาก็ยินดีเข้าไปตรวจสอบ



+++22-29 พฤษภาคมนี้  ปิดอุทยานราชภักดิ์ ชั่วคราว  พล.ต.ดนัย กฤตเมธาวี ผบ.ศร.ค่ายธนะรัชต์ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประธานคณะกรรมการบริหารงานอุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน เปิดเผยว่า การปิดอุทยานฯ เพื่อบำรุงรักษา หลังเปิดอุทยานมาตั้งแต่ เดือนกรกฎาคม 2558 มีประชาชนนักท่องเที่ยวจำนวนมากทั้งชาวไทยและต่างชาติเดินทางมาเที่ยวชมอุทยานราชภักดิ์ เพื่อกราบสักการะ สมเด็จพระบูรพกษัตริย์แห่งสยามทั้ง 7 พระองค์ อย่างต่อเนื่อง ทำให้พื้นที่บางส่วน โดยเฉพาะลานจอดรถที่มีปริมาณรถยนต์จำนวนมากในแต่ละวันเป็นสาเหตุจากควันท่อไอเสีย น้ำมันเครื่องที่หยดและฝุ่นจากยางรถยนต์ทำให้พื้นเกิดความสกปรก ทางกองทัพบกจึงกำหนดทำความสะอาดและดูแลปรับปรุงภูมิทัศน์ทั่วพื้นที่อุทยาน รวมถึงดูแลบำรุงรักษาพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระบูรพกษัตริย์เป็นครั้งแรกตั้งแต่อัญเชิญรูปหล่อทั้ง 7 พระองค์มาประดิษฐาน โดยทางโรงหล่อจะเข้ามาดำเนินการพ่นสีกันสนิมภายในพระบรมราชานุสาวรีย์และเสริมความมั่นคงให้กับพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชและพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความสง่างามและสมพระเกียรติ



+++นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงการเยือนประเทศรัสเซียอย่างเป็นทางการของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ว่า การเดินทางเยือนรัสเซียของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ มีการหารือถึงการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าเกษตรกับยุทโธปกรณ์ ซึ่งผู้นำไทยและรัสเซียเห็นชอบในหลักการ โดยจะซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าที่ตัวเองมี คือรัสเซียมีอาวุธยุทโธปกรณ์ ส่วนไทยมีสินค้าเกษตร ซึ่งรัสเซียต้องการซื้อยางพาราจากไทย จำนวน 80,000 ตัน และข้าวอีกบางส่วน ขณะที่ฝ่ายไทยต้องการซื้อเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ดับไฟป่า เนื่องจากขณะนี้ไทยมีปัญหาไฟป่า ส่วนจำนวนจะมากน้อยแค่ไหนนั้น เป็นเรื่องที่คณะทำงานของทั้ง 2 ประเทศจะไปพูดคุยกัน นอกจากนี้ฝ่ายรัสเซียจะสนับสนุนให้ไทยเข้าร่วมเป็นสมาชิกสหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย(อีอียู) ที่มีสมาชิก 5 ประเทศ คือเบลารุส คาซัคสถาน คีร์กีซสถาน อาร์มีเนีย และรัสเซีย โดยหลังจากนี้แต่ละฝ่ายจะต้องกลับไปเตรียมความพร้อม เพื่อยื่นคำขอสมัครเข้าเป็นสมาชิกของอีอียู ผ่านทางคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจยูเรเซีย ซึ่งถือเป็นฝ่ายบริหารกำกับดูแลการทำการของอีอียู  สำหรับการเข้าร่วมเป็นอีอียูจะทำให้เป้าหมายการเพิ่มปริมาณการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับรัสเซีย ให้เป็น 5 เท่า หรือ 3.2 แสนล้านบาท ภายใน 5 ปี สำเร็จได้ง่ายขึ้น เนื่องจากจะไม่ถูกกีดกันทางการค้าด้วยมาตรการทางภาษี



+++ญาติเหยื่อโศกนาฏกรรมปารีส ฟ้องช่างภาพหญิง-นิตยสารฝรั่งเศส เหตุตีพิมพ์ภาพผู้เสียชีวิตจากการกราดยิงที่โรงละครบาตาคล็องโดยไม่เบลอภาพ เรียกเงินค่าชดเชยทำให้หายทางจิตใจ 1.35 ล้านไม่รวมค่าทนายอีก 4 แสนบาท  มายา วิดอน ไวท์ (Maya Vidon-White) ซึ่งถ่ายภาพดังกล่าว และถูกนำไปเผยแพร่ในนิตยสารรายสัปดาห์ของฝรั่งเศสที่ชื่อ VSD โดยระบุว่าภาพดังกล่าวก่อให้เกิดความเสียหายทางจิตใจ โดยเธอได้ขายภาพต่อให้กับสำนักข่าวยูไอพีของสหรัฐฯ ก่อนที่นิตยสาร VSD ในฝรั่งเศสจะซื้อภาพมาตีพิมพ์ และวางแผงในวันที่ 17 พฤศจิกายน โดยในการเผยแพร่นิตยสารระบุถึงบนสัมภาษณ์ของชายวัย 41 ผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ด้วยการคลานข้ามศพเหยื่อคนอื่นออกจากโรงละคร แต่กลับลงรูปเซดริก จี ที่เสียชีวิตตั้งแต่วันเกิดเหตุ  ทนายของฝรั่งนิตยสาร VSD และช่างภาพหญิงได้เรียกร้องให้ศาลฝรั่งเศสยกคำร้องคดีดังกล่าว โดยโต้แย้งว่าการฟ้องร้องภายใต้กฎหมายกิกูนั้นต้องให้ผู้รอดชีวิตเป็นผู้ฟ้องคดี ขณะที่กลุ่มผู้สื่อข่าวของฝรั่งเศสได้เผยแพร่แถลงการณ์เชื่อว่ามายา วิดอน ไวท์ไม่ได้ทำผิดกฎหมาย เพราะเธอถ่ายภาพเหยื่อของการโจมตี และไม่ได้เผยแพร่ภาพนี้ในฝรั่งเศส เธอไม่ได้ขายภาพนี้ให้กับสื่อฝรั่งเศส เธอขายให้กับสำนักข่าวยูพีไอของสหรัฐฯ และหลังจากนั้นเธอก็ไม่สามารถที่จะกำหนดได้ว่าสำนักข่าวสหรัฐฯ จะขายภาพต่อหรือเผยแพร่ยังไง



++++ข้อตกลงใหม่ในสหภาพยุโรประบุว่าจะเตรียมแบนบุหรี่เย็นกลิ่นมิ้นต์หรือเมนทอลอย่างเป็นทางการภายในวันที่ 20 พ.ค. 2020 หรืออีกภายใน 4 ปีข้างหน้า เนื่องจากมีหลักฐานข้อมูลบ่งชี้ว่าบุหรี่กลิ่นมิ้นต์ทำให้วัยรุ่นและนักสูบหน้าใหม่หันมาติดบุหรี่มากขึ้น ทั้งยังเป็นอันตรายต่อร่างกายมากกว่าการสูบบุหรี่กลิ่นปกติกว่าร้อยละ 29 ภายใต้ข้อตกลงใหม่นั้นระบุว่า ซองบุหรี่จะต้องมีข้อความเตือนขนาดใหญ่เกินร้อยละ 65 ของขนาดกล่องทั้งด้านหน้าและด้านหลัง    กฎหมายใหม่นี้มุ่งหวังจะสามารถลดจำนวนนักสูบภายในยุโรปลงได้ 2.4 ล้ายราย โดยขณะนี้มีคนเฉลี่ยกว่า 7 แสนรายในยุโรปที่เสียชีวิตโดยสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการติดบุหรี่



+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดบวกในวันนี้ ทำสถิติสูงสุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์ หลังเงินเยนอ่อนค่าจนส่งผลให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น แต่ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นในวงจำกัด เนื่องจากนักลงทุนจับตาดูการประชุมรัฐมนตรีกระทรวงการคลังของกลุ่ม G7 ซึ่งจะเปิดฉากภายในวันนี้ ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 89.69 จุด ที่ 16,736.35 จุด



+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในการซื้อขายที่ตลาดเอเชีย

ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 157.87 จุด ที่ 19,852.20 จุด

ข่าวทั้งหมด

X