*กต.เผยยุโรปรับฟังความเห็นไทย/รพ.ค่ายภาณุรังษีดำเนินดคีใบรับรองแพทย์ธัมมชโย/หุ้น- น้ำมันร่วงกังวลเฟดอาจขึ้นดอกเบี้ย*

+++ที่สนามหลวง พุทธศาสนิกชน ร่วมทำบุญตักบาตรเนื่องในวันวิสาขบูชา โดยนายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 234 รูป เนื่องในเทศกาลวันวิสาขบูชา ประจำปี 2559 ที่จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 14-20 พฤษภาคม ที่จัดโดยกรุงเทพมหานคร ศูนน์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย ในสังฆราชูปถัมภ์ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงมหาดไทย สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ บรรยากาศในช่วงเช้าตั้งแต่เวลา 6.00น. มีประชาชน ข้าราชการ เจ้าหน้าที่สำนักงานเขต  ส่วนมากประชาชนเดินทางมาเป็นครอบครัว โดยพร้อมใจกันใส่เสื้อสีขาว และเตรียมข้าวสารอาหารแห้งมาร่วมใส่บาตรเป็นจำนวนมาก

 +++ประเด็นเรื่องสิทธิมนุษยชน นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึง การแถลงข่าวของคณะสมาชิกสภายุโรปกลุ่มความสัมพันธ์กับประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอาเซียน และคณะอนุกรรมการด้านสิทธิมนุษยชนที่เดินทางเยือนไทย ระหว่างวันที่ 16-19 พ.ค. ว่า จะเห็นได้ว่าข้อห่วงกังวลของคณะดังกล่าว เป็นการแสดงความห่วงกังวลตามแนวทางเดิมของสภายุโรป ไทยก็พร้อมรับฟังข้อเสนอแนะที่สร้างสรรค์ และอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลที่ถูกต้องของฝ่ายสหภาพยุโรป มาโดยตลอด การเยือนครั้งนี้จึงเป็นโอกาสให้คณะได้รับฟังการชี้แจงรายละเอียดจากภาคส่วนต่างๆ ของไทย เป็นการเพิ่มความเข้าใจสถานการณ์ของไทยและการทำงานของไทยมากขึ้น ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี การเยือนครั้งนี้ยังแสดงให้เห็นว่าไทยก็พร้อมที่จะร่วมมือและเปิดกว้างกับสหภาพยุโรปในทุกมิติและทุกระดับ

+++กรณีมีข่าวว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) จะเข้าจับกุมพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ซึ่งศาลอาญาออกหมายจับข้อหาสมคบกันฟอกเงิน, ร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร พร้อมทั้งหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมภายในวัดพระธรรมกาย พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่าไม่เป็นความจริง ยืนยันว่า ยังไม่มีการเดินทางไปยังวัดพระธรรมกาย ต้องรอให้ถึงวันที่ 26 พ.ค.นี้ก่อน ซึ่งกำหนดให้พระธัมมชโยมาพบพนักงานสอบสวน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา หากไม่มาพบในวันดังกล่าว คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วยอัยการ และที่ปรึกษาคดีพิเศษ จะประชุมหารือร่วมกันอีกครั้ง

+++ขณะเดียวกัน มีการตรวจสอบเรื่องใบรับรองแพทย์ที่ระบุว่า พระธัมมชโย อาพาธ ไม่สามารถที่จะเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาให้พนักงานสอบสวนเดินทางมาที่วัดแทน คณะพนักงานสอบสวนพิจารณาแล้วเห็นว่า การที่โรงพยาบาลค่ายภาณุรังสี ออกใบรับรองแพทย์พระธัมมชโยได้นั้น หมายว่าพระธัมมชโยจะต้องเดินทางไปตรวจอาการที่โรงพยาบาล ดังกล่าวจริง ขัดแย้งกับหนังสือจากทีมทนายความที่ต้องการเปลี่ยนสถานที่รับทราบข้อกล่าวหา เนื่องจากระบุว่าพระธัมมชโยป่วยหนัก ไม่สามารถเดินทางออกจากวัดพระธรรมกายได้ จึงเห็นว่าหลักฐานเวชระเบียนของพระธัมมชโย ไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง จึงพิจารณาเสนอขอศาลอนุมัติหมายจับ และต่อมาศาลได้อนุมัติหมายจับ

+++ขณะที่  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลค่ายภาณุรังษี จ.ราชบุรี ได้ทำหนังสือแจ้งมายังดีเอสไอ ระบุว่าใบรับรองแพทย์ที่ทางวัดพระธรรมกายได้ใช้เป็นหลักฐานในการขอเลื่อนการเดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหา มี พ.ท.สิริพงศ์ พัฒธนาวิสุทธิ์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลค่ายภาณุรังษี เป็นผู้เซ็นรับรอง ระบุว่าพระธัมมชโยมีอาการอาพาธจนไม่สามารถเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนได้นั้นถือเป็นเอกสารที่มิชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากตรวจสอบแล้วพบว่าพระธัมมชโยไม่เคยเดินทางมาเข้ารับการรักษายังโรงพยาบาลดังกล่าวเลย โรงพยาบาลจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้เกี่ยวข้องและตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงรองผู้อำนวยการรายดังกล่าว

+++เรื่องข้าว  นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า หลังเปิดให้ผู้สนใจเข้ายื่นซองเสนอราคาซื้อขายข้าวในสต็อก ของรัฐปริมาณ 1.19 ล้านตัน มีผู้มายื่นซองเสนอซื้อขายปริมาณ 1.17 ล้านตัน จาก 118 คลัง หากขายได้ทั้งหมดคาดว่าทำรายได้เกือบ 1 หมื่นล้านบาท ราคาเฉลี่ยข้าวขาว 5% อยู่ที่ 11,267 บาทต่อตัน, ข้าวขาว 10% ราคา 10,550 บาทต่อตัน และปลายข้าวเอวันเลิศ 7,879 บาทต่อตัน ถือว่าได้ราคาค่อนข้างดีเพราะเป็นข้าวเก่า          คณะทำงานระบายข้าวสต็อกรัฐบาล จะประชุมในวันที่ 23 พ.ค.เพื่อหารือถึงราคาที่ภาคเอกชนเสนอมาก่อนสรุปผล และจะเสนอประธานคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) อนุมัติต่อไป หากขายข้าวได้ในจำนวนทั้งหมดนี้จะทำให้ข้าวสต็อกรัฐบาลเหลืออีกประมาณ 10 ล้านตัน จากปัจจุบันที่มีอยู่ 11.4 ล้านตัน โดยการประมูลรอบต่อไปคาดว่าจะดำเนินการได้ในเดือนมิ.ย.

+++สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 3 เซนต์ ปิดที่ 48.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 12 เซนต์ ปิดที่ 48.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น หลังแรงคาดหมายที่มากขึ้นเรื่อยๆว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.หรือก.ค. ทำให้เกิดแรงกดดันทางลบเกี่ยวกับราคาน้ำมัน ที่ซื้อขายกันในรูปแบบดอลลาร์ 

+++ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบพอสมควร โดยเอสแอนด์พี500 แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม ด้วยวอลล์สตรีทเริ่มมีความกังวลมากขึ้นว่าเฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยเร็วที่สุดในเดือนมิถุนายน ดาวโจนส์ ลดลง 91.22 จุด ปิด 17,435.40 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 7.59 จุด ปิดที่ 2,040.04 จุด แนสแดค ลดลง 26.59 จุด ปิดที่ 4,712.53 จุด

+++ส่วนราคาทองคำ ร่วงลงแรงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 19.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,254.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์

+++หุ้นไทย เมื่อวานนี้ ปิดตลาดก่อนหยุดยาว ลดลง 14.64 จุด ปิดที่ 1,385.86 จุด  นักวิเคราะห์มองว่า เป็นผลมาจากความกังวลของนักลงทุนว่าเฟดมีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ย เนื่องจากตัวเลขสำคัญของสหรัฐฯ ออกมาดี ความกังวลเรื่องดังกล่าวอาจจะเป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่แรงกดดันหุ้นไทยหลักๆน่าจะเป็นเรื่องเงินดอลลาร์ที่กลับมาแข็งค่าขึ้น แต่เชื่อว่าตลาดหุ้นไทยไม่น่าจะปรับตัวลงแรงมากนัก เนื่องจากตัวเลขการเติบโตจีดีพีไตรมาสที่ 1 ของไทย ออกมาดีกว่าคาด น่าจะช่วยประคองตลาดหุ้นไทยได้