*นปช.มาครบร่วมซักถามร่างรธร.พร้อมเปิดศ.จับโกงประชามติ*

การประชุมชี้แจงหัวหน้าพรรคการเมืองเกี่ยวกับการออกเสียงประชามติ ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดี นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) พร้อมด้วย นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. และนางธิดา ถาวรเศรษฐ์ แกนนำ นปช. เดินทางเข้าร่วมรับฟังการชี้แจงจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และตัวแทนจากแม่น้ำ 5 สาย  นายจตุพร กล่าวว่า นปช. ได้รับคำเชิญจาก กกต. เมื่อวานนี้ จึงได้มาเข้าร่วม โดยจะเสนอแนวทางของ นปช.ในการทำประชามติ โดยเฉพาะอุปสรรคในการไม่เท่าเทียมการรับและไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งปัจจุบันมีการเปิดพื้นที่ให้กับฝ่ายรับร่างรัฐธรรมนูญเท่านั้น ส่วนฝ่ายที่คัดค้านไม่มีสิทธิ์พูดหรือแสดงความคิดเห็น โดยในระหว่างนี้ นปช. ก็จะเชิญชวนประชาชนให้ออกมาใช้สิทธิในการลงประชามติวันที่ 7 ส.ค. 2559 ซึ่งกลุ่ม นปช.จะเปิดศูนย์จับโกงประชามติ ในวันที่ 5 มิ.ย. 2559 เวลา 10.00 น. ที่อิมพีเรียลลาดพร้าว และจะแจ้งไปยังพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ให้ตรวจสอบ และมีการจับโกง จะมีทีมทนายความทุกจังหวัดคอยดำเนินการตรวจสอบ

สำหรับประเด็นที่ห่วงใยในการลงประชามติวันที่ 7 ส.ค. นี้ ก็กังวลว่า จะมีประชาชนมาใช้สิทธิน้อย รวมถึงอาจจะเกิดการล้มเองด้วย เพราะฉะนั้นจึงต้องการความมั่นใจจากรัฐบาลว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น การทำประชามติวันที่ 7 ส.ค. จะต้องดำเนินการต่อ

ด้านนายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เวทีนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่ถือเป็นสัญญานที่ดี สำหรับการเปิดกว้างให้ทุกฝ่ายแสดงความเห็นด้วยเสรีภาพ ด้วยความตรงไปตรงมา ไม่ว่าจะฝ่ายรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ แต่มองว่า ถ้ารัฐบาลจะใช้เวทีนี้ เพื่ออธิบายกับต่างชาติว่าได้เปิดกว้างในการทำประชามาติแล้ว ส่วนตัวมองว่ายังไม่ใช่ เพราะเวทีนี้คงไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เนื่องจากฝ่ายรัฐบาลเป็นฝ่ายชี้แจง โดยการรับฟังความเห็นของประชาชน ควรเปิดพื้นที่นอกเหนือจากสโมสรทหารบก ให้ได้แสดงความคิดเห็นด้วย เพราะการมาวันนี้ตัวเองยังไม่ได้รู้สึกถึงความมีเสรีภาพเท่าที่ควร และมองว่า ควรปรับแก้สาระของ พ.ร.บ. การออกเสียงประชามติ เพื่อให้เปิดพื้นที่ให้กับผู้ที่เห็นต่าง ในการแสดงความคิดเห็น พร้อมทั้งมั่นใจว่ารัฐบาลสามารถทำได้ ถ้าตั้งใจจะทำ  ส่วนนางธิดา กล่าวว่า แม้เวทีนี้จะเป็นเพียงการแสดง แต่ตัวเองก็จะมาร่วม เพื่อแสดงให้เห็นว่าเราเต็มใจที่จะมาร่วมมือกับรัฐบาล ไม่ได้ต้องการขัดขวางการทำประชามติ