ข่าวเที่ยงครึ่ง
+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวถึงผลการเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการว่าการมาเยือนรัสเซียครั้งนี้ ไม่ใช่การเลือกข้าง หรือ เปลี่ยนนโยบายทางการทูต เราไม่เคยเลือกข้าง เราเป็นประเทศเสรี การมาครั้งนี้ ก็เป็นคำตอบหนึ่ง เพราะเราคุยเรื่องเดียวกันกับประเทศต่าง ๆ ทั้งหมดจึงเป็นทางเลือกของเรา การแข่งขันต้องเสรี แต่ความสัมพันธ์ที่ดีก็ต้องมีด้วย โดยการเดินทางครั้งนี้ ไม่มีการเจรจาซื้อเฮลิคอปเตอร์หรืออาวุธตามที่มีหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกต แต่ยอมรับว่าเป็นหนึ่งในเรื่องการพูดคุยเกี่ยวกับความมั่นคง ที่กองทัพจะต้องไปพิจารณาในรายละเอียด ทั้งเรื่องของงบประมาณ ความจำเป็น และความคุ้มค่า ที่จะต้องสามารถใช้ร่วมกันได้ในหลายหน่วยงาน และหากจะมีการซื้ออาวุธ ก็จะทำแบบรัฐต่อรัฐ ไม่มีเรื่องเงินใต้โต๊ะ จึงอย่าตั้งธงว่าจะมีการทุจริตเกิดขึ้น นอกจากนี้ เรายังจะใช้เรื่องของการค้าตอบแทนเข้ามาดำเนินการด้วย การมาครั้งนี้มีการลงนามมากกว่า 10 ฉบับ แต่ไม่ได้เสียเงินเลยสักบาท
+++ส่วนการเปิดให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดสัมมนาเปิดให้ตัวแทนพรรคการเมือง และกลุ่มการเมือง มาแสดงความเห็นเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญวันนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เป็นเรื่องที่คิดไว้นานแล้ว แต่รอเวลาที่เหมาะสม จึงค่อยดำเนินการ ไม่จำเป็นต้องพูดล่วงหน้า ไม่ได้บิดบัง ซ้อนเร้น การเปิดโอกาสให้พูดได้ในทุกเรื่อง ทั้งเรื่องการเมือง ความขัดแย้ง คดีความ เพื่อที่จะได้รู้แนวคิดของแต่ละคน รับฟังไว้และแก้ปัญหา แต่ต้องฟังความเห็นของคนส่วนใหญ่ของประเทศด้วย เพราะคนที่เดือดร้อนและมีคดีความมีไม่กี่คน แต่มาทำให้คนทั้งประเทศสับสน เอาคนมาบิดเบือนเนื้อหา ค้านกับกฎหมาย ซึ่งทำไม่ได้ จะต้องใช้กฎหมายตัดสิน และส่วนตัวไม่เคยสั่งว่า ร่างรัฐธรรมนูญจะต้องผ่านหรือไม่ผ่านประชามติ
+++นายกรัฐมนตรี ยังให้กำลังใจนักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ที่พ่ายให้กับทีมชาติญี่ปุ่น ในการแข่งขันรอบคัดเลือกเพื่อคว้าสิทธิไปแข่งขันโอลิมปิกว่า การแข่งขันย่อมมีแพ้และชนะ บางครั้งก็อาจพลาดบ้าง เป็นธรรมดาของกีฬา ที่ผ่านมาได้ติดตามและให้กำลังใจมาโดยตลอด แพ้วันนี้ ก็ชนะได้ในวันหน้า แต่เมื่อแพ้มาแล้ว ก็ควรกลับมาทบทวนว่าแพ้เพราะอะไร อาจต้องไปดูเรื่องวิทยาศาสตร์การกีฬา จิตวิทยา หรือ อาจจะต้องหานักกีฬาที่มีสรีระเหมาะสมกับประเภทของกีฬา และว่า การรักษาแชมป์ยากกว่าการได้แชมป์
+++สำหรับการแข่งขันวอลเล่ย์บอลสาวไทย รอบคัดเลือกโอลิมปิก ยังมีการแข่งขันต่อ ในวันที่ 20 พ.ค. ไทยจะพบ กับ คาซัคสถาน และวันที่ 21 พ.ค. เจอกับ เกาหลีใต้ เริ่มในเวลา 8.00 น. ส่วนวันที่22 เจอกับ เปรู แข่งในเวลา14.30 น.
+++ความคืบหน้าความมุ่งมั่นที่จะพิชิตเอเวอร์เรสต์ ล่าสุด ในเฟซบุ๊กของทีม ThaiEveres 2016 ล่าสุดหมออีม ทันตแพทย์หญิง นภัสพร ชำนาญสิทธิ์ ได้ปีนถึงยอดเขาสำเร็จแล้ว เมื่อเวลา 09.45 น. ตามเวลาเนปาล นับเป็นผู้หญิงไทยคนแรกบนยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก แต่ภารกิจยังไม่จบ การกลับลงมาอย่างปลอดภัยจากยอดเขาเอเวอเรสต์ หลายครั้งเป็นเรื่องยากกว่าการปีนขึ้น เชื่อว่า เมื่อหมออีมเดินทางถึง EBC คงจะมีภาพและเรื่องเล่าจากการเดินทางครั้งนี้มาให้ติดตามอย่างแน่นอน สำหรับ ทีมพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ เหลือเเพียงหนึ่งเดียว คือหมออีม ทันตแพทย์หญิง นภัสพร ชำนาญสิทธิ์ ส่วนป๋าคมรัฐ นายคมรัฐ พิชิตเดช ขอถอนตัวหลังจาก Camp3 เนื่องจากสภาพร่างกายรับภาระหนักติดต่อกันมานานจนเริ่มอ่อนล้ามาก ทีมงานประเมินแล้วเกรงว่าอาจจะอันตรายเกินไปถ้าให้ฝืนขึ้นต่อไป ขณะนี้ ป๋าคมรัฐกลับลงมาที่ Base Camp แล้ว และปลอดภัยดี และคอยร่วมลุ้นหมออีมอยู่กับทีมงานด้านล่าง
+++ศาลทหารกรุงเทพ พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ได้เดินทางมายื่นคำร้องขอฝากขังผัดสอง น.ส.พัฒน์นรี หรือ หนึ่งนุช ชาญกิจ ผู้ต้องหาตามความผิดประมวลกฎหมายมาตรา 112 ซึ่งเป็นมารดาของนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว แกนนำกลุ่มพลเมืองโต้กลับ แต่ก่อนหน้านี้ศาลทหารฯได้อนุญาตให้ประกันตัวน.ส.พัฒน์นรี ดังนั้นในวันนี้น.ส.พัฒน์นรีจึงได้เดินทางมารายงานตัวต่อศาลทหารด้วย
+++ความคืบหน้าเหตุสายการบินอียิปต์แอร์ สูญหายไปจากจอเรดาร์ระหว่างจากกรุงปารีส ฝรั่งเศส มุ่งหน้ากรุงไคโรของอียิปต์ ทางสายการบินรายงานเพิ่มเติมว่า เที่ยวบิน MS804 มีผู้โดยสาร 59 คน ลูกเรือ 10 คน เป็นเครื่องบินแอร์บัส เอ320 ออกเดินทางจากกรุงปารีสในวันพุธเวลา 23.09 น.และถึงกรุงไคโรในเวลา 3.00 น.แต่ขาดการติดต่อในเวลา 2.45 น.ระหว่างที่มีเพดานการบินที่ 37,000 ฟุตอยู่ทางตะวันออกของทะเลเมดิเตอเรเนียน หรือห่างจากน่านฟ้าของอียิปต์ประมาณ 16 กิโลเมตรเท่านั้น โดยในการค้นหายังได้รับความช่วยเหลือจากทางการกรีซด้วย เมื่อเดือนมีนาคมเกิดเหตุจี้เครื่องบินอียิปต์แอร์ และเปลี่ยนเส้นทางไปลงจอดที่ไซปรัส ต่อมาผู้ก่อเหตุยอมมอบตัวและตัวประกันปลอดภัยดีทั้งหมด แต่ในเดือนตุลาคมปีก่อน เครื่องบินของรัสเซียออกเดินทางจากชาร์ม เอลชีคประสบเหตุตกในคาบสมุทรไซนายทำให้ผู้ที่อยู่ในเครื่องบินเสียชีวิตทั้งหมด 224 คน ซึ่งต่อมาทางการรัสเซียรายงานว่า เครื่องบินถูกโจมตี และกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส ยอมรับว่าเป็นผู้ลอบวางระเบิดเครื่องบิน