*ผอ.สนพ. จะไม่ใช่กองทุนน้ำมันพยุงราคาน้ำมันอีก ชี้ต้องสะท้อนกลไกตลาด*

18 พฤษภาคม 2559, 12:20น.


ภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) เปิดเผยว่า กบง.ได้รับทราบสถานการณ์ราคาพลังงาน โดยแนวโน้มราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศมีทิศทางจะเป็นขาขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันดิบตลาดโลกที่กลับมาเคลื่อนไหวเพิ่มขึ้น เนื่องจากปัญหาการเมืองของประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ทั้งอิรัก เวเนซูเอลา ประเมินว่าราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยปี 2559 จะอยู่ระดับ 45 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาก๊าซจะอยู่ในช่วงขาลงโดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์(เอ็นจีวี) มีทิศทางปรับลดลง เนื่องจากโครงสร้างเนื้อก๊าซสะท้อนต้นทุนน้ำมันย้อนหลัง 6-12 เดือน ดังนั้นคาดว่าราคาเอ็นจีวีเดือนพฤศจิกายน จะลดลง 0.70 บาทต่อกก. จากปัจจุบันราคาขายปลีกอยู่ที่ 12.63 บาทต่อกก. กระทรวงพลังงานจะปล่อยให้ราคาขายปลีกน้ำมันสะท้อนกลไกตลาด โดยกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะไม่เข้ามาดูแลเพื่อตรึงราคาขายปลีก



นอกจากนั้น กบง.เห็นชอบแนวทางการเพิ่มสัดส่วนการใช้น้ำมันไบโอดีเซล ที่ปัจจุบันมีการกำหนดสัดส่วนผสมไบโอดีเซล(บี100)ในดีเซล ไม่เกิน 7% หรือ บี7 โดยให้นำร่องการใช้บี 10 ในหน่วยงานราชการและทหารในปี 2560 เพื่อที่จะกำหนดกรอบเวลาในการขายเชิงพาณิชย์ให้เป็นทางเลือกของประชาชนได้ภายในปี 2561 ซึ่งจะต้องมีการนำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.)ต่อไป  และ ยังเห็นชอบยกเว้นค่าธรรมเนียมในการตรวจสอบด้านเครื่องวัดไฟฟ้า(มิเตอร์)สำหรับโครงการนำร่อง การส่งเสริมการติดตั้งโซลาร์รูฟเสรี จำนวน 100 เมกะวัตต์เพื่อจูงใจเข้าร่วมโครงการโดยให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) และการไฟฟ้านควรหลวง(กฟน.)รับภาระซึ่งบ้านอาศัยค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 10,000 บาทต่อราย อาคารธุรกิจหรือโรงงานอยู่ที่ 15,000 บาทต่อรายคิดเป็นค่าใช้จ่ายรวม 50 ล้านบาท

ข่าวทั้งหมด

X