ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.
+++มาตามนัด สำหรับฝนในประเทศไทย นายสุเทพ น้อยไพโรจน์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากที่เวลานี้เริ่มมีฝนตกในหลายพื้นที่ แต่สถานการณ์น้ำเติมในเขื่อนทั่วประเทศภาพรวมยังไม่ดีขึ้น โดยยังมีการระบายน้ำเพื่อช่วยเหลือประชาชนมากกว่าน้ำที่ไหลเข้าอ่าง ปัจจุบันการระบายน้ำของเขื่อนทั่วประเทศเฉลี่ยที่ 50-60 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน ขณะที่มีน้ำไหลเข้าเฉลี่ย 11 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน ในจำนวนนี้มีการระบายน้ำของ 4 เขื่อนหลักลุ่มเจ้าพระยา (ภูมิพล, สิริกิติ์,แควน้อยบำรุงแดน, ป่าสักชลสิทธิ์) ประมาณ 18 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน แต่มีน้ำไหลเข้า ราว 4 ล้านลูกบาศก์เมตร/วันล่าสุดมีข้าวนาปรังที่รอเก็บเกี่ยวทั่วประเทศอีกไม่เกิน 1 แสนไร่ ในจำนวนนี้อยู่ในเขตชลประทานลุ่มน้ำเจ้าพระยาประมาณ 2 หมื่นไร่ ต้องรอดูว่าจะได้รับผลกระทบจากภัยแล้งมากน้อยแค่ไหน
+++สำหรับฤดูแล้งที่เริ่มต้นมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2558 จนถึง ณ ปัจจุบัน (พฤษภาคม 59) ได้ผ่านพ้นมาเกือบ 7 เดือนแล้ว ซึ่งถือเป็นวิกฤติภัยแล้งครั้งรุนแรงในรอบ 20 ปี นายเกรียงศักดิ์ ตาปนานนท์ เลขาธิการสมาคมโรงสีข้าวไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ผลผลิตข้าวนาปรังในแต่ละภาคของไทยเหลือไม่มากนัก ราคาข้าวเปลือกช่วงนี้เกษตรกรขายได้ราคาค่อนข้างดี และโรงสีรับซื้อในราคาค่อนข้างสูง เพราะของในตลาดน้อย และมีการแย่งซื้อ แต่ปัญหาคือเกษตรกรไม่มีข้าวขาย ส่วนที่มีชาวนาไปร้องนายกรัฐมนตรีเมื่อหลายวันก่อนว่า ขายข้าวเปลือกเจ้าได้แค่ตันละแค่ 6-7 พันบาทถือเป็นราคาต่ำกว่าปกติ ซึ่งมีข้อสงสัยว่าราคาข้าวดังกล่าวมีคุณภาพอย่างไร เป็นข้าวลีบหรือไม่
+++นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า จากสถิติการส่งออกข้าวตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-3 พ.ค. 2559 ปรากฏว่าไทยสามารถส่งออกข้าวได้สูงถึง 3.75 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 30.75% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเป็นปริมาณการส่งออกข้าวที่สูงที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลก สูงกว่าอินเดียที่ส่งออกได้ 3.23 ล้านตัน ลดลง 20.78% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนเวียดนามส่งออกข้าวได้ 2.16 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 14% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และปากีสถาน ส่งออกได้ 1.72 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 14.94% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คาดว่าทั้งปีไทยจะส่งออกข้าวได้ 9.5 ล้านตัน ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือกลับมาเป็นผู้ส่งออกข้าวเบอร์ 1 ของโลกอีกครั้ง ส่วนภาพรวมราคาข้าวในตลาดขณะนี้ถือว่าสูงสุดในรอบ 2 ปี เนื่องจากผลผลิตข้าวนาปรังลดลงจากภัยแล้ง ราคาข้าวเกือบทุกชนิดจึงปรับตัวสูงขึ้น ส่วนกรณีราคาข้าวเปลือกเหนียวที่ปรับตัวสูงขึ้นกว่าข้าวเปลือกหอมมะลิ 2,000 บาท/ตัน เป็นผลจากตลาดมีความต้องการข้าวเหนียวเพิ่มขึ้นทั้งตลาดจีน อินโดนีเซีย และมาเลเซีย
+++ส่วนยางพารา นายหลักชัย กิตติพล นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมยางพาราไทยกล่าวว่า ขณะนี้ราคายางพาราดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยในส่วนของน้ำยางสด และยางแผ่นรมควันชั้น 3 เฉลี่ยประมาณ 60 บาท/กิโลกรัม เป็นผลจาก 3 ปัจจัยหลักคือ 1.มาตรการความร่วมมือลดการส่งออกยางพาราของ 3 ประเทศ (ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย) ปริมาณ 6.15 แสนตัน(มี.ค.ส.ค.59) ได้เริ่มดำเนินการแล้ว 2.เป็นวัฏจักรของยางพาราที่ราคาตกต่ำไปมากๆ ก็จะปรับตัวสูงขึ้น และ 3.ในช่วงตั้งแต่เดือนมีนาคม-เมษายนเกษตรกรได้หยุดกรีดยางจากเป็นช่วงยางผลัดใบ ขณะนี้เริ่มเปิดกรีดใหม่ แต่จากภัยแล้ง ทำให้ยางออกยังไม่เต็มที่
+++ขณะที่นายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เผยว่า ขณะนี้ราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยที่ 76 บาท/กิโลกรัม บวก-ลบ ถือเป็นราคาที่เกษตรกรพอใจ และพออยู่ได้ โดยมีกำไรเฉลี่ย 7- 8 บาท/กิโลกรัม ด้านนายอรรณพ อัครนิธิยานนท์ นายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ กล่าวว่า ขณะนี้ราคาไข่คละหน้าฟาร์มที่ผู้เลี้ยงขายได้เฉลี่ยที่ 2.90 บาท/ฟอง สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ถือเป็นราคาที่เกษตรกรพออยู่ได้ ขณะที่ผลผลิตไข่ไก่ช่วงนี้ถือว่ามีความผันผวนมาก
+++นายพจน์ เทียมตะวัน นายกสมาคมผู้ประกอบการพืชผัก ผลไม้ไทย กล่าวว่า ขณะนี้ราคาพืชผักผลไม้ในภาพรวมปรับตัวสูงขึ้น จากผลกระทบภัยแล้งทำให้ผลผลิตลดลง ประกอบกับราคาผลไม้บางรายการ เช่น ทุเรียน เงาะ ราคาสูงในช่วงนี้เนื่องจากเป็นช่วงผลผลิตต้นฤดูกาล ของยังมีน้อย และมีการแย่งซื้อของผู้ประกอบการค้าผลไม้ อาทิ ทุเรียนหมอนทองช่วงนี้ขึ้นไปถึง 120 บาท/กิโลกรัมก็มีคนแย่งซื้อ ช่วงนี้คงกระทบกับผู้บริโภคบ้าง แต่เมื่อผลผลิตทยอยออกมามาก ราคาก็จะปรับตัวลดลง ในภาพรวมส่งผลดีต่อเกษตรกรที่มีผลผลิตแน่นอน
+++ผู้ต้องหาคดีราชประสงค์ ร้องขอความเป็นที่ธรรม ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ทหาร ได้นำตัว นายอาเดม คาราดัก จำเลยที่ 1 และนายไมไรลี ยูซุฟู จำเลยที่ 2 ผู้ต้องหาในคดีลอบวางระเบิด บริเวณแยกราชประสงค์ และท่าเรือสาทร มาจากเรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครชัยศรี มณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) มายังศาลทหารกรุงเทพ เนื่องจากคณะตุลาการศาลทหารฯ ได้นัดตรวจพยานหลักฐานเป็นนัดที่ 5 ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังนำตัว นายอาเดมได้แสดงอาการหวาดวิตก มีสีหน้าเคร่งเครียด พร้อมแสดงพฤติกรรมขัดขืน การนำตัวมาภายในศาลทหารฯ จนต้องให้เจ้าหน้าที่มาช่วยจับประคองตัวผู้ต้องหา เข้ามาส่งภายในห้องพิจารณาคดี รายงานข่าว แจ้งว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าในวันนี้ (17 พ.ค.) นายอาเดมได้มีปฎิกิริยาขัดขืนเจ้าหน้าที่ ทั้งที่ออกมาจากเรือนจำชั่วคราว ก็เดินมาด้วยท่าทางปกติ แต่เมื่อเห็นสื่อมวลชนต่างประเทศ และกลุ่มที่มาให้กำลังใจก็แสดงท่าทีขัดขืนไม่ยอมลงจากรถควบคุมผู้ต้องหา จนเจ้าหน้าที่ต้องไปนำตัวลงมาจากรถ ก่อนที่จะเข้าไปยังศาลทหารฯ ท่าทีจองนายอาเดมจึงเปลี่ยนไปเป็นปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น.
+++พระธัมมชโย ไม่รอดเป็นหนที่ 2 ศาลอาญาอนุมัติหมายจับตามคำร้องขอของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ข้อหา สมคบกันฟอกเงิน-รับของโจร โดยวันที่ 18 พฤษภาคม จะนำเรื่องผลการออกหมายจับเสนอที่ประชุมคณะกรรมการดีเอสไอ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า ยหลังศาลอนุมัติหมายจับพระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ทางดีเอสไอจะทำหนังสือแจ้งให้รับทราบข้อกล่าวภายใน 7 ถึง 15 วัน ทั้งนี้ เพื่อให้เวลาพระธัมมชโย ตามที่ระบุถึงอาการเจ็บป่วย และไม่ต้องการให้เกิดการปะทะหรือขัดแย้งกัน ส่วนเวชระเบียนและผู้รับรองเกี่ยวกับเอกสารพระธัมมชโย ทางพนักงานสอบสวนดูแล้วไม่สอดรับกัน อีกทั้ง สถานออกใบรับรองแพทย์เป็นสหคลินิกรัตนเวชภายในวัดพระธรรมกาย
+++ด้านพระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย ชี้แจงภาพถ่ายพระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย กำลังปล่อยนก ว่าเป็นเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม โดยพระธัมมชโยได้โดยสารรถตู้ในการปล่อยนกที่กุฏิใกล้ๆ ภายในวัด ไม่ใช่การนั่งรถไปปล่อยนกที่บ้านของลูกศิษย์ โดยเตรียมเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษผู้นำภาพดังกล่าวไปเผยแพร่จนเกิดความเสียหายอาการอาพาธของพระธัมมชโย ขณะนี้ภาวะร่างกายโดยรวมอ่อนแอมาก มีโรคแทรกซ้อนทั้งเบาหวานและภูมิแพ้ ทำให้อาการทรุดลงอย่างต่อเนื่อง แพทย์จึงให้พักรักษาเป็นเวลา 2 เดือน
+++ส่วนกระทรวงการคลังมีแนวคิดทบทวนนโยบายการจ่ายสวัสดิการเบี้ยยังชีพ ผู้สูงอายุคนละ 600 บาท/เดือน โดยจะยกเลิกจ่ายเบี้ยยังชีพให้ผู้สูงอายุที่มีรายได้เกินเดือนละ 9,000 บาท หรือมีสินทรัพย์สูงเกิน 3 ล้านบาท โดยจ่ายเฉพาะคนจนจริงๆ เพื่อลดภาระงบประมาณด้านสวัสดิการภาครัฐ นางชุลีพร ด้วงฉิม เครือข่ายประชาชนเพื่อสวัสดิการ กทม. แถลงว่า เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุควรยกระดับให้เป็นบำนาญพื้นฐานของทุกคน เป็นหลักประกันเมื่อเข้าสู่วัยผู้สูงอายุ การจะยกเลิกเช่นนี้โดยอ้างเรื่องเป็นภาระงบประมาณเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะถ้าประเทศไทยมีการจัดการบูรณาการระบบงบประมาณที่ดี สามารถจัดการได้แน่นอน แต่ทุกวันนี้ประเทศไทยมีการจัดการงบประมาณแบบกระจัดกระจายและไปไม่ถึงประชาชนอย่างแท้จริง
+++นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) มีความกังวลที่ไทยกำลังก้าวสู่สังคมคนชรา ดังนั้นกำลังคิดแพคเกจดูแลสังคมผู้สูงอายุที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อลดภาระของรัฐ ซึ่งเรื่องการจำกัดผู้ที่จะรับเบี้ยว่าต้องมีรายได้ 9,000 บาท มีทรัพย์สินไม่เกิน 3 ล้านบาทนั้นเป็นเพียงแนวคิดหนึ่งที่ยังไม่มีการสรุปออกมาว่าจะทำอย่างนั้นหรือไม่
+++กสทช.ชี้ประมูล 4จี เหลือเอไอเอสรายเดียว เริ่มเคาะ 7.5 หมื่นล้าน ส่วนทรูถอนตัว ชี้มีศักยภาพครอบคลุมแล้ว ดีแทคไม่ร่วม อ้างมีคลื่นเพียงพอ นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 18 พฤษภาคม ที่เป็นวันยื่นเอกสารแสดงความจำนงเข้าประมูลคลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์ กสทช.จึงคาดว่าจะมีผู้ประกอบการมายื่นเอกสารเพียงรายเดียว แม้ทางเอไอเอสยังไม่ได้แจ้งมายัง กสทช.ก็ตาม หากมีผู้เข้าประมูลเพียงรายเดียวจริงในการเคาะราคาวันที่ 27 พฤษภาคม ผู้ประกอบการที่เข้าประมูลต้องเข้าห้องประมูลไปเคาะยืนยันราคาเท่ากับราคาตั้งต้นการประมูล คือ 75,654 ล้านบาท ก็จะถือเป็นผู้ชนะการประมูล แต่ในการเคาะราคาตามกติกาหากผู้ประกอบการอยากเคาะราคาเพิ่มอีกรอบละ 152 ล้านบาทก็สามารถทำได้เช่นกัน เบื้องต้น กสทช.คาดการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์รอบใหม่ จะใช้เวลาประมูลเพียง 20 นาที ซึ่งตามขั้นตอนหากเสร็จสิ้นการประมูล รวมทั้งมีการรับรองผลการประมูลอย่างเป็นทางการแล้ว ทาง กสทช.จะให้เวลา 90 วันในการชำระเงินค่าประมูลงวดที่ 1 และหนังสือรับรองจากสถาบันการเงิน (แบงก์การันตี) ในงวดที่เหลือ ซึ่ง กสทช.คาดผู้ประกอบการจะมาชำระเงินไม่เกินวันที่ 30 มิถุนายน ที่เป็นวันสิ้นสุดการคุ้มครองการใช้งานของลูกค้าในระบบ 2จี ของเอไอเอส ตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
+++ปิดฉากเรียกมอเตอร์ไซด์ผ่านแอพ นายณันทพงศ์ เชิดชู รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ระบุว่า จากการหารือร่วมกันสรุปว่าการให้บริการแอพพลิเคชั่นเรียกรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล Grab Bike และ Uber MOTO นั้นผิดกฎหมาย โดยผู้ให้บริการทั้งสองอ้างว่าไม่ทราบมาก่อนว่าการให้บริการรถจักรยานยนต์เพื่อสาธารณะในประเทศไทยจะเป็นการให้บริการที่ผิดกฎหมาย แม้ภาครัฐจะมีมาตรการจับกุม ปราบปราม ผู้ให้บริการทั้ง 2 บริษัทกลับดำเนินการประชาสัมพันธ์เปิดรับสมัครผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลมาเป็นสมาชิกอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีพฤติกรรมแก่งแย่งผู้โดยสารจากวินจักรยานยนต์สาธารณะที่ถูกต้อง ซึ่งสร้างผลกระทบให้เกิดความไม่สงบ และอาจเข้าข่ายเป็นผู้มีอิทธิพลเรียกรับผลประโยชน์ ตัวแทนเอกชน ทั้งสองขอไปหารือกับบริษัทก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไร พบการฝ่าฝืนและสามารถจับกุมได้แล้วทั้งสิ้น 66 ราย ซึ่งขนส่งฯได้บันทึกประวัติไว้ที่ศูนย์ข้อมูลประวัติผู้ขับรถสาธารณะ หากพบความผิดซ้ำจะพักใช้หรือ เพิกถอนใบอนุญาตขับรถต่อไป
+++เชียร์กันต่อ ทีมวอลเล่ย์บอลสาวไทย ทีมอันดับ 13 โลก ต้านเนเธอร์แลนด์ ทีมอันดับ 14 โลกไม่ไหวพ่าย 0-3 เซต 14-25, 16-25 และ 20-25 ในศึกวอลเลย์บอลหญิง รอบคัดเลือก โอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ส่งผลให้ตบสาวไทยลงแข่งไป 3 เกม ชนะ 1 แพ้ 2 มีเพียง 3 คะแนน อยู่อันดับ 6 ของตาราง นัดต่อไปเจอกับญี่ปุ่น วันนี้ (18 พฤษภาคม) เวลา 17.10 น. และวันที่ 20 พฤษภาคม พบ คาซักสถาน เวลา 08.00 น.ลังแข่งขัน "โค้ชอ๊อต" นายเกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร เฮดโค้ชตบสาวไทย กล่าวว่า วันนี้ลูกทีมเล่นไม่ได้ตามที่วางแผนเอาไว้ เล่นกันผิดฟอร์มไปหมด ผิดพลาดเองค่อนข้างมาก ขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง จนไม่สามารถเก็บเซตได้แม้แต่เซตเดียว ส่วนนักหน้าการเจอกับญี่ปุ่นไม่ใช่งานง่าย เป็นเกมที่หนัก ซึ่ง 2 เกมที่ผ่านมาได้เห็นจุดอ่อนของตัวเองแล้ว ต้องแก้ไขให้เร็ว ยอมรับว่า โอกาสไปโอลิมปิกเกมส์ยากขึ้นถ้ามองตามสถิติ แต่ถ้าทุกคนไม่กดดันมาก ก็จะผ่านพ้นไปได้ แต่ตอนนี้ขอดูทีละเกม ผ่านญี่ปุ่นให้ได้เสียก่อน