ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.
+++นายแฟรงก์-วอลเตอร์ สไตน์ไมเออร์ รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนีกล่าวว่าชาติมหาอำนาจระดับภูมิภาคและระดับโลก 21 ประเทศ รวมถึงสหรัฐฯ รัสเซีย อังกฤษ ซาอุดิอาระเบียและอิหร่าน ได้เริ่มการประชุมครั้งใหม่ในกรุงเวียนา ออสเตรียในวันนี้ เพื่อหารือแนวทางการฟื้นการเจรจาสันติภาพซีเรียให้มีผลต่อไปอีกระยะหนึ่ง พร้อมทั้งหารือเรื่องการช่วยเหลือด้านมนุษธรรมเพิ่มเติมให้แก่ชาวซีเรีย ในการประชุมครั้งนี้ทั้งฝ่ายรัฐบาลซีเรียและฝ่ายต่อต้านไม่ได้เข้าร่วม เพื่อประท้วงการที่กองกำลังรัฐบาลซีเรียละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ด้านนายสตาฟฟาน เดอ มิสตูรา ทูตพิเศษของสหประชาชาติ(ยูเอ็น) หวังว่า การเจรจารอบใหม่ระหว่างรัฐบาลซีเรียและฝ่ายต่อต้านจะจัดขึ้นในนครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ในช่วงปลายเดือนนี้ที่ผ่านมามีคนเสียชีวิตแล้วกว่า 2 แสน 5 หมื่นศพ ชาวบ้านไร้ที่อยู่อาศัย 11 ล้านคน นับตั้งแต่เกิดเหตุประท้วงต่อต้านรัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัลอัสซาด เมื่อต้นปี 2554
+++ทหารกองทัพของชาติสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) เริ่มเดินทางถึงโปแลนด์ โดยทางอากาศและทางทะเล เพื่อเข้าร่วมการฝึกซ้อมการเคลื่อนกำลังพลครั้งใหญ่ ทหาร 1,500 นาย จากสเปน อังกฤษ แอลเบเนีย และโปแลนด์ กำลังฝึกซ้อมขีดความสามารถในการเคลื่อนกำลังพลแบบรวดเร็ว เพื่อรับมือภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น ตามแนวเขตแดนฝั่งตะวันออกของพันธมิตรนาโต ความวิตกเกี่ยวกับการสำแดงแสนยานุภาพของรัสเซียประเทศเพื่อนบ้าน โปแลนด์ยืนยันต้องมีการรับประกันความมั่นคง และมีทหารชาติพันธมิตรนาโตในประเทศ ประเด็นนี้คาดว่าจะถูกบรรจุเป็นวาระหารือ ในที่ประชุมสุดยอดนาโต ที่โปแลนด์จะเป็นเจ้าภาพจัดในกรุงวอร์ซอ ในเดือน ก.ค. ที่จะถึง
+++สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงติเตียนมหาอำนาจตะวันตกที่พยายามยัดเยียดประชาธิปไตยแบบของตนให้แก่ชาติมุสลิมอย่างอิรักและลิเบีย โดยไม่เคารพวัฒนธรรมการเมืองท้องถิ่นหนังสือพิมพ์ ลา ครัวซ์ ซึ่งเป็นสื่อคาทอลิกในฝรั่งเศส ได้เผยแพร่พระดำรัสของโป๊ปฟรานซิส ซึ่งพระองค์ตรัสว่า ยุโรปควรจะมีมาตรการบูรณาการผู้อพยพที่ดียิ่งขึ้นกว่านี้ พร้อมทรงอ้างถึงกรณีที่ “ซาดิก ข่าน” นักการเมืองมุสลิม ได้รับเลือกเป็นนายกเทศมนตรีคนใหม่ของกรุงลอนดอน ว่าเป็นตัวอย่างของการหลอมรวมผู้คนที่ได้ผลสำเร็จจริง พระสันตะปาปามักจะทรงวิจารณ์ “การล่าอาณานิคมทางวัฒนธรรม” (cultural colonialism) ซึ่งหมายถึงการที่ชาติตะวันตกพยายามยัดเยียดค่านิยมให้แก่ประเทศกำลังพัฒนา เพื่อแลกกับการมอบความช่วยเหลือทางการเงิน
+++รัฐบาลสหรัฐอเมริกาประกาศผ่อนคลาย มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อเมียนมา เพื่อให้การสนับสนุนการปฏิรูปการเมือง และการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศ หลังจากเมียนมามีความคืบหน้าทางด้านประชาธิปไตย การถ่ายโอนอำนาจอย่างสันติ มาตรการคว่ำบาตรที่ถูกผ่อนคลาย รวมถึง การถอดถอนรายชื่อบริษัทการลงทุนของรัฐบาลเมียนมา 7 บริษัท และธนาคารของรัฐบาล 3 แห่ง ออกจากบัญชีดำ ซึ่งจะทำให้ไม่ผิดกฎหมายสำหรับชาวอเมริกัน ในการทำธุรกิจกับธนาคารทุกแห่งในเมียนมา และขยายมาตรการอนุญาตให้การขนส่งสินค้า สามารถผ่านเข้าออกท่าเรือและสนามบินต่างๆ ได้ตลอดไป หลังจากสหรัฐผ่อนคลายกฎนี้เป็นเวลา 6 เดือน นับตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2558 สหรัฐจะยังคงมาตรการคว่ำบาตรอื่นๆ ต่อเมียนมาไว้ เพื่อให้ปรับปรุงการละเมิดสิทธิมนุษยชน และยุติการค้าขายทางทหารกับเกาหลีเหนือ การตัดสินใจผ่อนคลายคว่ำบาตรในวันอังคาร มีขึ้นก่อนที่นายจอห์น แคร์รี รมว.ต่างประเทศสหรัฐ กำหนดเดินทางเยือนเมียนมา ในวันที่ 22 พ.ค.
+++ราคาพลังงานเคลื่อนไหวใกล้ระดับ 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในวันอังคาร(17พ.ค.) หลังไฟป่าลุกลามในดินแดนทรายน้ำมันของแคนาดา ทำให้ต้องอพยพเพิ่มเติม สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 59 เซนต์ ปิดที่ 48.31 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 31 เซนต์ ปิดที่ 49.28 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
+++เจ้าหน้าที่ต้องอพยพผู้คนราวๆ 8,000 คน จากค่ายที่พักและโรงงานต่างๆ ทางเหนือของเมืองฟอร์ต แมคเมอร์เรย์, รัฐแอลเบอร์ตา หลังจากก่อนหน้านี้ได้มีการอพยพชาวบ้านและคนงานน้ำมันราว 100,000 คน ออกจากฟอร์ต แมคเมอร์เรย์ และพื้นที่โดยรอบเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันอังคาร(17พ.ค.) ร่วงลงหนัก นักลงทุนบางส่วนมองว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง เพิ่มความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางอเมริกา(เฟด) จะเคลื่อนไหวขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 180.73 จุด (1.02 เปอร์เซ็นต์) ปิด 17,529.98 จุด ส่วนราคาทองคำในวันอังคาร(17พ.ค.) ปิดบวกเล็กน้อย โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 2.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,276.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์
+++นายมาร์ติน โดลัน ประธานสำนักงานความปลอดภัยด้านการขนส่งของออสเตรเลีย(เอทีเอสบี) แกนนำในการค้นหาเที่ยวบินเอ็มเอช 370 ที่สูญหายของมาเลเซียแอร์ไลน์ ระบุว่าโอกาสที่จะเจอซากเที่ยวบินเริ่มริบหรี่ลงทุกขณะ มาถึงวันที่ 11 พฤษภาคม ทีมค้นหานานาชาติได้ค้นหาใต้ทะเลครอบคลุมกว่า 105,000 ตารางกิโลเมตรทางตอนใต้ของมหาสมุทรอินเดีย เหลือเพียง 15,000 ตารางกิโลเมตรเท่านั้นที่ยังไม่ได้ทำการค้นหา แม้ว่ายังไม่สิ้นหวัง แต่เขายอมรับที่ว่า มีโอกาสเช่นกันที่ในที่สุดแล้วทีมค้นหาอาจจะไม่เจอซากเครื่องบินเลยก็ได้ ที่ผ่านมา มีการค้นพบเศษชิ้นส่วน 5 ชิ้นจากเที่ยวบินเอ็มเอช 370 จากจุดต่างๆในมหาสมุทรอินเดีย นับตั้งแต่เครื่องบินสูญหายเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2557 โดยเฉพาะ 2 ชิ้นหลังสุดพบว่าลอยไปเกยตื้นอยู่ในชายหาดของประเทศแอฟริกาใต้และประเทศมอริเชียส ได้รับการยืนยันจากเอทีเอสบีเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า มาจากเที่ยวบินเอ็มเอช 370
+++องค์การอนามัยโลก(WHO) จะจัดประชุมฉุกเฉินในวันพฤหัสบดี(19พ.ค.) เกี่ยวกับการแพร่ระบาดอย่างหนักหน่วงของไข้เหลืองในแองโกลา แต่เสี่ยงที่จะลุกลามไปไกลกว่านั้นหากไม่ยกระดับการเข้าถึงวัคซีน มาริค จาซาเรวิค โฆษกขององค์การอนามัยโลกบอกกับเอเอฟพีว่าการเรียกประชุมครั้งนี้ย้ำให้เห็นถึงความรุนแรงของการแพร่ระบาดของไข้เหลือง และเน้นอีกรอบให้เห็นถึงความจำเป็นที่ต้องมีวัคซีนจำนวนมากเพื่อรับมือกับโรคติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ จนถึงวันที่ 12 พฤษภาคม แองโกลา พบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อไข้เหลือง 2,267 ราย ในนั้นเสียชีวิตแล้ว 293 คน ในการแพร่ระบาดที่เริ่มมาตั้งแต่เดือนธันวาคม และพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุดคือกรุงลูอันดา เมืองหลวงของประเทศ สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก พบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อ 44 ราย จากทั้งการแพร่ระบาดในท้องถิ่นและจากคนไข้ที่นำไวรัสเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างแองโกลา เช่นเดียวกับยูกันดา ที่มีรายงานพบผู้ติดเชื้อหลายคน นอกจากนี้แล้วยังมีชาวบ้าน 8 คนในจีน ที่ผลตรวจหาเชื้อไข้เหลืองออกมาเป็นบวก หลังเดินทางกลับจากแองโกลา ย้ำถึงความเสี่ยงของการแพร่ระบาดระดับนานาชาติผ่านนักเดินทางที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน องค์การอนามัยโลกได้จัดส่งวัคซีนแก่แองโกลา 11.7 ล้านโดสและมีแผนจะจัดมอบวัคซีนแก่ผู้คน 2.2 ล้านคนในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก