*ปปช.ไม่ถอนฟ้องคดีสลายการชุมนุมพธม./ก.คลังปสง.ปปง.อสส.รื้อคดีคลองด่าน/หุ้นพุ่งทั่วโลกหมดยุคน้ำมันล้นตลาด*

*สรุปข่าว 19.35น*

+++นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการ ป.ป.ช. ในฐานะประธานคณะทำงานพิจารณาเรื่องดังกล่าว กล่าวถึงกรณีที่พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตั้งคณะทำงานพิจารณากรณีการถอนฟ้องคดีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรปี 2551 ที่มีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีต ผบช.น. หนึ่งในจำเลยคดีดังกล่าวร้องเข้ามา ว่า ที่ประชุมของคณะทำงานในวันนี้ (17 พฤษภาคม) ได้ข้อสรุปแล้วว่า จะเสนอแนวทางอย่างไร โดยให้เลขานุการของคณะทำงานฯ สรุปรายละเอียดและเรียบเรียงจัดทำเอกสาร เพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะทำงานฯลงนามในมติดังกล่าวอีกครั้งในวันที่ 24 พ.ค.59 ก่อนเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในวันที่ 26 พฤษภาคมนี้แหล่งข่าวจากป.ป.ช. ระบุว่า คณะทำงานมีมติไม่ถอนฟ้องในคดีสั่งสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตร เนื่องจากเห็นว่า พยานหลักฐานที่ผู้ร้องยื่นเข้ามาเป็นเรื่องเก่า นอกจากนี้ได้ชี้แจงเหตุผลต่อข้อร้องเรียนเป็นข้อๆ จนเสร็จสิ้นข้อสงสัยแล้ว

+++ นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) กล่าวว่า ในการประชุม สปท.การเมือง เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ที่ประชุมมีมติให้ส่งข้อเสนอแนะไปยังประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อให้ข้อเสนอเรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการแสดงความคิดเห็นในการออกเสียงประชามติ พ.ศ.2559 เนื่องจากสปท.การเมืองเห็นว่าหลักเกณฑ์ดังกล่าวของ กกต.อาจเกิดปัญหาในทางปฏิบัติ จึงให้ข้อเสนอแนะ เช่น กกต.ควรให้ประชาชนเข้าใจและมีเสรีภาพในการเสนอความเห็นและเผยแพร่ความเห็นโดยสุจริตและไม่ผิดกฎหมาย  ควรให้คำแนะนำว่า หากบุคคลใดมีข้อสงสัยเรื่องที่อยู่นอกเหนือหลักเกณฑ์ที่ กกต.กำหนด ขอให้ผู้นั้นทำหนังสือสอบถามไปยัง กกต. เพื่อความชัดเจน ไม่ให้มีการทำผิดกฎหมาย   และหาก กกต.เห็นว่ามีบุคคลใดน่าจะกระทำความผิดต่อกฎหมายประชามติ ให้ กกต.ยื่นใบเหลืองเตือนก่อน โดยมีหนังสือแจ้งเตือนมิให้บุคคลนั้นกระทำผิดต่อกฎหมายประชามติ

+++การรื้อคดีคลองด่านต่อศาลปกครองนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เตรียมหารือ กับ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) อัยการสูงสุด เกี่ยวกับข้อมูลใหม่ ที่ ตรวจพบข้อมูลเพิ่มว่าบริษัทเอกชนผู้รับเหมาก่อสร้างมีส่วนร่วมในการกระทำความผิด เพื่อจัดเตรียมคำร้องต่อศาลตามมติ ครม. ในส่วนของการจ่ายเงินงวดที่ 2, 3 วันที่ 21 พฤษภาคม และ 21 พศจิกายน 2559 ปปง.ได้มีคำสั่งอายัดไว้แล้ว จึงยังไม่ต้องนำส่งให้กับภาคเอกชน

++++ส่วนกรณีการปรับระบบสวัสดิการของประชาชนนั้น ขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการศึกษายังไม่ได้มีข้อสรุปออกมาแต่อย่างใด จึงไม่มีการตัดสิทธิ์เบี้ยยังชีพคนชราทั้งหมด เพียงแต่ต้องการปรับระบบสวัสดิการให้เหมาะสม ขณะที่คนชราผู้มีรายได้น้อยส่วนใหญ่จำเป็นต้องรับเงินดังกล่าวเพิ่มจากยอด 600-800 บาทต่อเดือนจะได้จัดสรรเพิ่มเติม ส่วนจะเป็นคนชรากลุ่มใดจะถูกตัดสิทธิ์หรือกลุ่มใดจะได้รับเพิ่มยังไม่ได้ข้อสรุปในช่วงนี้ เพราะกำลังศึกษาการดูแลคนชราทั้งระบบ เช่น การสร้างที่อยู่อาศัยคนชรา โดยใช้ที่ราชพัสดุ รวมถึงบริษัทเอกชนที่รับผู้เกษียณอายุเข้าทำงาน เพราะคนอายุ 60 ยังแข็งแรงทำงานได้จะได้รับสิทธิ์ในการลดหย่อนภาษีเพิ่ม รวมถึงการส่งเสริมสะสมการออมผ่านกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ซึ่งยังมีอีกหลายมาตรการกำลังศึกษาดูแลผู้สูงอายุ

+++นายเวทิต โชควัฒนา กรรมการรองผู้อำนวยการ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ยอดขายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ของบริษัทผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว เนื่องจากเป็นสินค้าพื้นฐาน ประชาชนก็ยังบริโภคอยู่ โดยยอดขายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของบริษัท 4 เดือนแรกปีนี้ ขยายตัวร้อยละ 12  จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากการจัดโปรโมชั่นและการจัดสรรสินค้าให้พอความต้องการผู้บริโภค ซึ่งต่างจาก 1-2 ปีที่ผ่านมา ยอดขายทรงๆ ตัว ขณะนี้ภัยแล้งผ่านพ้นแล้ว และเชื่อว่าผู้บริโภคยังมีกำลังซื้ออยู่ เพียงแต่ยังไม่กล้าจับจ่าย ซึ่งภาครัฐต้องสร้างความมั่นใจเพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อ

+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,406.57 จุด เพิ่มขึ้น 8.94 จุด (+0.64%) มูลค่าการซื้อขาย 52,939.77 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยวันนี้ยืนในแดนบวกได้ จากปัจจัยหลักที่มาจากกลุ่มสื่อสาร และกลุ่มพลังงาน โดยกลุ่มสื่อสารมีแรงหนุนจากหุ้น ADVANC และ INTUCH เป็นหลัก หลังจากที่ทาง TRUE ประกาศว่าจะไม่เข้าร่วมประมูล 4G ทำให้ตลาดคลายกังวลลงจากที่คิดว่าจะมีการแข่งขันกันดุเดือดร้อนแรง ส่วนกลุ่มพลังงานก็ได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ทำจุดสุงสุดใหม่ในรอบราว 6 เดือน ทำให้หุ้นในกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นมาได้ดี

+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ในวันนี้ หลังจากการดีดตัวขึ้นของราคาน้ำมันช่วยหนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ พุ่งขึ้น 186.40 จุด ที่ 16,652.80 จุด

++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดทะยานขึ้นในวันนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้นกว่าร้อยละ3  หลังจากโกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า ตลาดน้ำมันได้สิ้นสุดภาวะอุปทานล้นตลาดแล้วดัชนีฮั่งเส็งเพิ่มขึ้น 234.85 จุด ปิดที่ 20,118.80 จุด

+++หลังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งกระทรวงศึกษาธิการ หรือ ศธ.ทำความเข้าใจกับประชาชนที่มีความเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานว่าจะลดการอุดหนุนจากเรียนฟรี 15 ปี เหลือ 12 ปี พร้อมทั้งสั่งการให้ ศธ.มาทำกฎหมายให้ชัดเจนว่ารัฐบาลสนับสนุนการศึกษาตั้งแต่ประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 เหมือนเดิมนั้น  นพ.กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ยกร่างประกาศ ศธ. เรื่องการจัดการศึกษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าจะเสนอให้ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการ ศธ.ลงนามภายในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ประกาศดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับลงประชามติ) แต่จัดทำขึ้นตามนโยบายของ ศธ. เพื่อยืนยันให้ประชาชนมั่นใจว่ารัฐบาลสนับสนุนงบประมาณการศึกษา 15 ปี ตั้งแต่ระดับปฐมวัยจนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 รวมประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ด้วย

+++ศาลทหารกรุงเทพ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ทหาร ได้นำตัว นายอาเดม คาราดัก จำเลยที่ 1 และนายไมไรลี ยูซุฟู จำเลยที่ 2 ผู้ต้องหาในคดีลอบวางระเบิด บริเวณแยกราชประสงค์ และท่าเรือสาทร มาจากเรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครชัยศรี มณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) มายังศาลทหารกรุงเทพ เนื่องจากคณะตุลาการศาลทหารฯ ได้นัดตรวจพยานหลักฐานเป็นนัดที่ 5 เป็นที่น่าสังเกตว่าในวันนี้ (17 พ.ค.) นายอาเดมได้มีปฎิกิริยาขัดขืนเจ้าหน้าที่ ทั้งที่ออกมาจากเรือนจำชั่วคราว ก็เดินมาด้วยท่าทางปกติ แต่เมื่อเห็นสื่อมวลชนต่างประเทศ และกลุ่มที่มาให้กำลังใจก็แสดงท่าทีขัดขืนไม่ยอมลงจากรถควบคุมผู้ต้องหา จนเจ้าหน้าที่ต้องไปนำตัวลงมาจากรถ ก่อนที่จะเข้าไปยังศาลทหารฯ ท่าทีของนายอาเดมจึงเปลี่ยนไปเป็นปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ขณะที่ผู้ต้องหาลงจากรถของเรือนจำ นายอาเด็ม คาราดัก ได้ดิ้นรนและตะโกนขึ้นว่า "ผมไม่ใช่สัตว์ ผมเป็นคน ผมเป็นคน" และเมื่ออยู่ต่อหน้าศาล นายอาเด็มซึ่งมีน้ำตาคลอเบ้า ได้เลิกเสื้อขึ้นให้ศาลดูรอยช้ำตามตัว และกล่าวผ่านล่ามว่า เฉพาะในเดือนนี้เขาถูกซ้อมทรมานถึงสองครั้งในเรือนจำ ด้านนายเมียไรลีได้กล่าวขอความช่วยเหลือก่อนขึ้นศาลว่า "พวกเราบริสุทธิ์ ช่วยเราด้วย สิทธิมนุษยชนอยู่ที่ไหน ด้านนายชูชาติ กันภัย ทนายความของนายอาเด็ม คาราดัก กล่าวว่า ศาลรับที่จะสอบสวนกรณีที่นายอาเด็มถูกซ้อม และจะพิจารณาเรื่องการย้ายเรือนจำ และว่าจะมีการเรียกพยานกว่า 250 รายมาให้การต่อศาล โดยหวังว่าการพิจารณาคดีจะสิ้นสุดลงภายในปีนี้ แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่าอาจยืดเยื้อออกไปอีก

+++การโอนย้ายผู้ประกันตนที่มีบัตรรับรองสิทธิรักษาพยาบาลโรงพยาบาลเดชาไปยังโรงพยาบาลราชวิถี  โรงพยาบาลเลิดสินและโรงพยาบาลตำรวจว่า นายโกวิท  สัจจวิเศษ   เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม(สปส.) กระทรวงแรงงาน กล่าวว่า หลังจากสปส.ได้โอนย้ายสิทธิการรักษาพยาบาลผู้ประกันตนโรงพยาบาลเดชาไปยังรพ.ทั้ง3แห่งรวม ภาพรวมยังไม่มีผู้ประกันตนร้องเรียน  เชื่อว่าไม่น่าจะยื่นขอเปลี่ยนโรงพยาบาลอีก  ซึ่งสปส.ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปประจำรพ.ทั้ง 3 แห่งจนถึงสิ้นเดือนพ.ค.นี้เพื่อช่วยประสานงานและให้ข้อมูลแก่ผู้ประกันตน นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ผอ.รพ.รามาธิบดี กล่าวถึงกรณีการแชร์ภาพข้อความ ชวนพยาบาล รพ.เดชา มาทำงานที่รพ.รามาธิบดี ทั้งในเฟสบุ๊ค และไลน์ เป็นเรื่องจริง เนื่องจากต้องยอมรับว่าทุกสถานพยาบาลมีการขาดแคลนวิชาชีพพยาบาลทั่วประเทศ  อีกทั้งทางรพ.รามาธิบดี ก็ต้องรับพยาบาลเพิ่ม เพื่อมาทำงานร่วมกัน  เพราะทราบว่าขณะนี้รพ.เดชามีการปิดสถานพยาบาลเป็นการชั่วคราว