*สรุปข่าว 19.35น*
+++ฝนตกอย่างหนักในพื้นที่ ต.เขาท่าพระและตำบลใกล้เคียงของ อ.เมืองชัยนาท เป็นเวลานานกว่า1ชั่วโมง ทำให้ในพื้นที่มีความชุ่มฉ่ำในหลายๆจุดมีน้ำขังเป็นแอ่ง ซึ่งการที่มีฝนตกลงมาครั้งนี้ได้ส่งผลดีกับสวนผลไม้ของชาวบ้านที่ปลุกไว้ โดยเฉพาะสวนส้มโอขาวแตงกวา พืชเศรษฐกิจประจำถิ่น ของจังหวัดชัยนาทที่หลายๆสวนเริ่มแห้งเฉาจากการขาดน้ำ หลังพื้นที่แถบนี้ไม่มีฝนตกลงมาพอที่จะใช้ประโยชน์ได้มานานกว่า 6 เดือนแล้ว ทำให้ต้นส้มโอที่ปลูกไว้หลายร้อยต้นภายในสวนต้องประสบภาวะขาดน้ำเริ่มแห้งเฉา ต้องลงทุนเจาะบ่อบาดาลน้ำลึกด้วยค่าใช้จ่ายกว่า1แสนบาทเพื่อนำน้ำขึ้นมารดต้นส้มโอ เพื่อยืดชีวิต ซึ่งฝนที่ตกลงมาวันนี้เหมือนน้ำทิพย์ชุบชีวิตสวนผลไม้และเจ้าของสวนในเวลาเดียวกันที่มีโอกาสรอดจากการขาดทุนด้วย
+++นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ยืนยันว่า ไม่เคยให้สัมภาษณ์ว่า ให้รับร่างรัฐธรรมนูญไปก่อน แล้วค่อยแก้ไขทีหลัง และว่า รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายที่ใช้ระยะยาว หากในอนาคตสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป ต้องการจะแก้ไข ก็สามารถทำได้ ในสถานการณ์ขณะนี้ กรธ.ได้พยายามร่างอย่างดีที่สุดแล้ว แต่มีความพยายามบิดเบือน และแปลด้วยเจตนาที่ไม่สุจริต ดังนั้น อยากขอให้ผู้ที่บิดเบือนนึกถึงบ้านเมือง และมีความละอายใจต่อบาป หรือ มีหิริโอตัปปะบ้าง และการตีความใด ๆ ควรต้องเคารพเนื้อหาตามตัวอักษร และยืนอยู่บนเหตุผล โดยกรธ.ไม่กังวลกรณีที่มีกลุ่มใส่เสื้อโหวตโน และจะเผยแพร่ข้อเสียของร่างรัฐธรรมนูญ เพราะแต่ละคนอาจมีทัศนคติที่ต่างกัน คงไปแก้ไขอะไรไม่ได้ แต่สิ่งสำคัญต้องไม่ทำผิดกฎหมาย หรือให้ข้อมูลที่บิดเบือน ซึ่งเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่จะต้องติดตาม หากพบก็คงดำเนินการ แต่ก็น่าเห็นใจที่คงตามติดทุกคนไม่ไหว ส่วนที่กลุ่มประชาธิปไตยใหม่ท้าให้ประธาน กรธ. ส่ง กรธ.ร่วมดีเบตเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญนั้น นายมีชัย กล่าวว่า คงไม่ส่ง เพราะจะคุยกับคนที่มีเหตุมีผล และอ่านรัฐธรรมนูญจบแล้วเท่านั้น ไม่ใช่อ่านเพียงแค่ 2-3 หน้า แล้วมาแสดงความเห็น
+++นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้ ขอให้ก้าวข้ามในเรื่องนี้ กรณี นายเกล็น เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน โดยข้อห่วงใยต่อสถานการณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศ ยอมรับว่า ทูตสหรัฐ ไม่มีข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับเมืองไทยมาก่อนเลยเป็นเรื่องธรรมดาต้องมาเรียนรู้ ต้องใช้เวลาหน่อย ไม่อยากให้พวกเราไปติดใจอะไรมาก ข้ามๆกันไป ทั้งนี้คงไม่ถึงกับต้องทำความเข้าใจกับประชาชนที่เกิดความไม่พอใจในการกระทำดังกล่าวของทูตสหรัฐฯ เชื่อว่าอีกสักพักเรื่องอาจจะเบาบางลงไป และส่วนประเด็นกฎหมายมาตรา 112 นายดอนกล่าวว่า เรื่องนี้พูดกันมาเยอะแล้ว ว่าทุกประเทศก็มีกฎหมายภายในที่จำเป็นสำหรับเงื่อนไขของแต่ละสังคม กฎหมายมาตรา 112 ก็เป็นของเรา ของเขาก็มีอย่างกรณีมีเด็กหนุ่มไปปรามาสประธานาธิบดีเขาก็ยังโดน ก็เช่นเดียวกัน นายดอนกล่าวว่า ทุกเหตุการณ์ล้วนเป็นบทเรียนของทุกเรื่องราว และเป็นบทเรียนของทุกคนด้วย รวมถึงตนด้วยและทูตสหรัฐฯด้วยที่จะรู้ว่าคนไทยให้อภัยง่าย และหวังว่าจะเข้าใจคนไทยดีขึ้น การจะให้อภัยหมายความว่าต้องเข้าใจคนไทยดีขึ้นอีกประมาณ 300 เปอร์เซ็นต์
+++หลังตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ จีดีพีไตรมาสแรกปี 2559 ขยายตัวร้อยละ 3.2 เป็นอัตราการเติบโตสูงที่สุดในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า นับเป็นจุดพลิกผันสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยว่า ขณะนี้เศรษฐกิจเริ่มพลิกฟื้นแล้ว โดยมีแรงส่งสำคัญ คือ การใช้จ่ายของรัฐโดยเฉพาะโครงการประชารัฐได้เน้นการสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานรากเริ่มถึงมือประชาชนและการลงทุนภาครัฐต่าง ๆ การท่องเที่ยวขยายตัวต่อเนื่อง การลงทุนภาคเอกชนขยายตัวดีขึ้น โดยเฉพาะการก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ แม้รายได้ภาคเกษตรยังไม่ดีเพราะราคาตกตํ่า แต่ยังมีรายได้เสริมจากโครงการของรัฐที่ลงสู่ชนบทฐานราก
+++นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า จีดีพีไตรมาสแรกที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น ได้รับแรงหนุนจากการลงทุนภาครัฐ เมื่อภาคเอกชนเห็นว่าสัญญาเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้นแล้ว จะทำให้ตัดสินใจลงทุนได้มากขึ้น ในส่วนภาคเกษตรแม้ยังมีปัญหา แต่เมื่อฝนตกลงมาจะทำให้ภาคเกษตรดีขึ้น และรัฐบาลพร้อมเตรียมมาตรการช่วยเหลือในด้านต่างๆที่มีปัญหา เพื่อดูแลเศรษฐกิจให้ขยายตัวในระดับปัจจุบัน
+++ด้านนายจาตุรงค์ จันทรังษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ตัวเลขดังกล่าวถือเป็นข่าวดี และเป็นสัญญาณดีที่ตัวเลขไม่ได้ต่ำกว่าที่ธปทคาดการณ์ไว้ ส่วนทั้งปีจะได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ร้อยละ 3.1 หรือไม่นั้น คงต้องติดตามปัจจัยต่างๆในช่วงครึ่งปีหลัง น.ส.พรเพ็ญ สดศรีชัย ผู้อำนวยการ สำนักเศรษฐกิจมหภาค ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธปท. ชี้แจงว่า ในระยะต่อไป ยังคงต้องติดตามพัฒนาการความเสี่ยงด้านต่างๆ จากทั้งในและนอกประเทศ โดยเฉพาะภาคส่งออกที่ยังอ่อนแอและมีความเสี่ยงต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ในขณะที่การใช้จ่ายในประเทศของภาคเอกชนยังอยู่ในระดับต่ำ
+++นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า “ขณะนี้ ธุรกิจแฟรนไชส์ของไทยกำลังได้รับความนิยมจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะธุรกิจประเภทอาหารและเครื่องดื่มที่สามารถขยายธุรกิจไปต่างประเทศได้แล้วกว่า 12 บริษัท 19 ประเทศ ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จในระดับที่สูง เช่น แบล็คแคนยอน,เชสเตอร์กริลล์,แมงโก้ทรี, ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยแม่ศรีวรรณ, โชคดีติ่มซำ, เดอะวอฟเฟิล, เย็นตาโฟทรงเครื่องมัลลิกา และ เอ็น แอนด์ บี พิซซ่าเครป ล่าสุด กระทรวงพาณิชย์ ได้พาผู้ประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ไทย จำนวน 21 ราย ในจำนวนนี้เป็นธุรกิจแฟรนไชส์ไทยประเภทอาหารและเครื่องดื่ม จำนวน 11 ราย ร่วมงานเจรจาธุรกิจ ณ กรุงย่างกุ้ง สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ปรากฏว่ามีนักธุรกิจชาวเมียนมา เข้าร่วมเจรจาธุรกิจกว่า 300 ราย และมีโครงการการร่วมมือกันดำเนินธุรกิจในอนาคตอันใกล้ เตรียมพาผู้ประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ไทย เข้าร่วมงานแสดงธุรกิจและเจรจาธุรกิจ ณ กรุงมะนิลา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์
+++ส่วนการจัดงานมหกรรมการเงิน Money Expo เปิดเผยว่า งานมหกรรมการเงิน ครั้งที่ 16 Money Expo 2016 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-15 พฤษภาคม 2559 มีประชาชนเข้าชมงานมากกว่า 900,000 คน พบว่า ลูกค้าใช้บริการสินเชื่อบ้านมากเป็นอันดับ 1 วงเงิน 52,000 ล้านบาท เนื่องจากธนาคารพาณิชย์และธนาคารรัฐแข่งขันกันอย่างหนักในด้านอัตราดอกเบี้ย อันดับ 2 เป็นสินเชื่อเอสเอ็มอี รวมวงเงินกู้และยอดค้ำประกันสินเชื่อกว่า 19,200 ล้านบาท อันดับ 3 เป็นเงินฝาก ปีนี้ทำสถิติยอดเงินฝากทะลุ 5,100 ล้านบาท เป็นครั้งแรก จากโปรโมชั่นเงินฝากดอกเบี้ยสูงของธนาคารต่างๆ ที่นำมาแข่งขันกันในงาน โดยเฉพาะธนาคารออมสิน มีโปรโมชั่นเงินฝาก 103 วัน ดอกเบี้ย 4.25% ต่อปี ส่งผลให้มีประชาชนมาเข้าคิวตั้งแต่เช้าทุกวัน
+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไทยปิดที่ 1,397.63 จุด เพิ่มขึ้น 2.94 จุด มูลค่าการซื้อขาย 48,213.30 ล้านบาท
+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดบวกในวันนี้ เพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นอาจจะเลื่อนการปรับขึ้นภาษีการบริโภคดัชนีนิกเกอิปิดบวก 54.19 จุด ที่ 16,466.40 จุด
+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดพุ่งขึ้นในวันนี้ เช่นเดียวกับตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาคที่เคลื่อนไหวในแดนบวก หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบ 1 ปี ชดเชยแรงกดดันจากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแรงลงของจีน ขณะเดียวกับภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นฮ่องกงได้ปัจจัยหนุนจากกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับการเปิดซื้อขายหุ้นกับตลาดเซินเจิ้นของจีน ปิดตลาด ดัชนีฮั่งเส็งปรับตัวขึ้น 164.66 จุด ปิดที่ 19,883.95 จุด
+++นายไพโรจน์ กวียานันท์ ประธานกรรมการ บริหาร บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ได้เข้ารายงานปลัดกระทรวงพลังงานถึงแผนปรับลดพนักงานเชฟรอนในไทย ร้อยละ 20 หรือ 800 ตำแหน่ง จาก 2,200 คน และบริษัทผู้รับเหมา 1,700 คน ซึ่งได้แจ้งอย่างเป็นทางการวันนี้ โดยจะจ่ายค่าชดเชยไม่น้อยกว่ากฎหมายกำหนด เนื่องจากบริษัทมีแผนลดต้นทุนตามบริษัทแม่ หลังราคาน้ำมันตกต่ำต่อเนื่อง และความต้องการใช้ก๊าซธรรม ชาติลดลง
+++กรณีผู้ต้องขังเรือนจำแม่สอด จ.ตาก ทำร้ายนายมงคลชัย นาควรรณ อายุ 42 ปี ตำแหน่งเจ้าหน้าที่พนักงานราชทัณฑ์ ชำนาญงาน เรือนจำอำเภอแม่สอด ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต เมื่อวันที่ 14 พ.ค.พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ได้สั่งการให้ให้ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแล้ว เช่น ผู้ต้องขังที่ก่อเหตุดังกล่าว นำอาวุธมาจากไหน รวมถึงผู้ต้องขังได้ผูกคอเสียชีวิตในเรือนจำเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ เชื่อว่า เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องของการทุจริต แต่มองว่าเป็นความหละหลวมในการปฏิบัติงาน ความบกพร่องมันเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เพื่อนร่วมงานเสียชีวิต