*รองนายกฯประวิตร เผย 2 ปี คสช.ยังไม่พอใจงานปฎิรูปปท./ย้ำไม่ปลดผบ.ตร.*

หลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พลเอกประวิตรวงษ์สุวรรณรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เปิดเผยถึง การทำงานครบรอบ 2 ปีของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยระบุว่า ขณะนี้เศรษฐกิจของประเทศไทยก็ดีขึ้นเยอะ โดยไตรมาสนี้ก็ดีที่สุดพร้อมกับเชื่อว่าขณะนี้ทุกคนพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดี เพื่อให้ประเทศชาติได้เดินหน้าต่อไป โดยส่วนตัวแล้วไม่ได้มีความกังวลอะไร โดยเฉพาะคะแนนนิยมของประชาชนที่อาจจะลดลง แต่ว่าผลงานของรัฐบาลกลับดีขึ้นเรื่อยๆ ส่วนประชาชนจะประเมินอย่างไรนั้น ส่วนตัวแล้วไม่ทราบ เพราะไม่รู้ว่าโพลที่ออกมาจากหลายๆ ที่นั้นจริงหรือไม่ โดยตัวเองก็ได้ลงพื้นที่ไปตรวจเยี่ยมประชาชน ก็พบว่า ประชาชนมีความอยู่ดีกินดี สามารถแก้ปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ตัวเองได้เป็นอย่างดี

ส่วนประเด็นที่ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ คือ การเดินหน้าปฏิรูปประเทศ ที่ยังไม่เข้ารูปเข้ารอย และปัญหาความขัดแย้ง ที่อยากให้ทุกคนหันหน้าเข้าคุยกัน อยากให้ประเทศชาติเกิดความสามัคคี ขออย่าให้ทุกคนอย่าต่อต้าน เพราะขณะนี้ดำลังเป็นไปด้วยดี ขณะที่มีกระแสจ่าวออกมาว่ารายการของนายกรัฐมนตรี มีเรทติ้งลดลงนั้น เชื่อว่าไม่จริงและไม่มีน้อยลงแน่นอน โดยก่อนการเลือกตั้ง สังคม เศรษฐกิจ การเมือง จะต้องดีขึ้นมากกว่านี้

ส่วนข่าวจะยุบสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เนื่องจากคสช. ไม่พอใจการทำงาน พลเอกประวิตร กล่าวว่า ไม่เป็นความจริง ส่วนตัวเจ้าใจการทำงานของสปท. เพราะต้องใช้ความคิด และแต่ละคนมีความคิดเห็นที่ไม่เหมือนกัน รวมทั้งกระแสข่าวที่จะมีการปลดพล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ตัวเองเป็นผู้ดูแลโดยตรง ก็จะยังไม่มีการปลดออกจากตำแหน่งเช่นเดียวกัน สำหรับประเด็นการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจที่ล่าช้านั้น เป็นเพราะบัญชีรายชื่อมีเป็นจำนวนมาก จะต้องล่าช้าเป็นธรรมดา และไม่เกี่ยวกับตำรวจมะเขือเทศ

ส่วนกระแสการต่อต้านทูตอเมริกา พลเอกประวิตร ระบุว่า ขออย่าออกมาต่อต้าน  ต้องมีการระมัดระวัง เพราะเป็นมารยาททางการทูต โดยพลเอกประวิตรก็ยืนยันว่าไม่สามารถส่งตัวทูตอเมริกากลับได้

ขณะที่ประเด็นการสั่งปิดศูนย์ประวัติศาสตร์ หรือ “ปราสาทเขาพระวิหาร จำลอง” บนผามออีแดง อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ พลเอกประวิตร ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับผู้บัญชาการทหารบก และคิดว่าการก่อสร้างปราสาทไม่กระทบความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา เพราะเป็นการก่อสร้างภายในประเทศไทย และกัมพูชาก็ไม่ได้มีการส่งหนังสือมายังไทยด้วย