*เตือนรัฐ ออกมาตรการ สั่งห้ามเผยแพร่ข่าวสร้างความขัดแย้งทางศาสนา*

พระราชธรรมสารสุธี (ธีรังกูร ธีรงฺกุโร) วัดมหาพุทธาราม อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ รองเจ้าคณะจังหวัด (จจ.) ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า กรณีที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) ทำหนังสือชี้แจงมหาเถรสมาคม (มส.) ถึงสาเหตุที่ชะลองบประมาณอุดหนุนวัด เนื่องจากวัดยังไม่มีระเบียบ และไม่มีประสิทธิภาพในการทำเรื่องจัดซื้อจัดจ้าง และเกรงว่ามิจฉาชีพอาจใช้ช่องทางนี้แสวงหาผลประโยชน์  เงินเข้าวัดส่วนใหญ่ร้อยละ 95 มาจากศรัทธาของญาติโยม ส่วนอีกร้อยละ 5 มาจากรัฐ และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) อุดหนุน หากไม่มีงบฯ ในส่วนนี้ วัดก็ประคองค่าใช้จ่ายในส่วนต่างๆ ได้ ส่วนที่มีผู้วิพากษ์วิจารณ์ว่า มท.ตัดงบฯ วัดไปสร้างมัสยิด มองว่าไม่เกี่ยวกัน

ด้านนายซากรี พิทักษ์คุมพล รองเลขานุการจุฬาราชมนตรี  ยืนยัน การสร้างมัสยิดที่สร้างในพื้นที่ต่างๆ เกิดจากการร่วมมือร่วมใจกันของชาวมุสลิมที่สร้างมัสยิดขึ้นในเชิงสัญลักษณ์ ซึ่งงบฯ มาจากการประสานงานระหว่างผู้นำมุสลิมในท้องถิ่น กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จัดทำเรื่องของบฯ สร้างมัสยิด คาดว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นความขัดแย้งกันเอง โดยองค์กรปกครองทางพระพุทธศาสนา หรือมหาเถรสมาคม (มส.) จำเป็นต้องมีมาตรการสั่งห้ามการเผยแพร่ข่าวที่ไม่มีข้อเท็จจริง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเกลียดชังระหว่างศาสนา ส่วนการแก้ปัญหานั้น หน่วยงาน หรือองค์กรที่เกี่ยวข้องต้องรีบจัดการกับผู้ที่มีความคิดสุดโต่งทางศาสนา ไม่ว่าจะเป็นศาสนาพุทธ หรือมุสลิม ต้องป้องกันไม่ให้คนกลุ่มนี้เผยแพร่ข่าว เพราะจะเกิดเป็นภัยความมั่นคงของประชาชน นอกจากนี้ ควรสร้างพื้นที่ในการจัดเสวนา หรือประสานงานระหว่าง 2 ศาสนา องค์กร หรือที่เกี่ยวข้องกับศาสนา ต้องทำงานร่วมกันภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาล ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาขึ้น