หลังจากที่ วัดพระธรรมกาย ได้ทำจดหมายไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) และขอให้พนักงานดีเอสไอเดินทางมาพบที่วัดพระธรรมกาย เพื่อสอบปากคำพระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ในความผิดฐานสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจรคดีของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ในวันจันทร์ที่ 16 พ.ค.ในเวลา 14.00 น. เนื่องจาก อาการอาพาธ พระสนิท วุฑฒิวังโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร และ ทีมแพทย์ พ.ท.นพ.สิริพงศ์ พัฒนธนาวิสุทธิ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรศาสตร์โลหิตวิทยา ผศ.นพ.ธนาคม เปรมประภาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยศาสตร์หลอดเลือด และร.อ.นพ.อัจฉริยะ แพงมา แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านฉุกเฉิน ร่วมกันแถลงข่าว โดยพระสนิท ระบุว่า พระธัมมชโย สามารถให้ปากคำได้ด้วยตัวเองพร้อมยืนยันว่าพระธัมมชโย ไม่ได้มีเจตนาที่จะหลีกเลี่ยงหรือประวิงเวลาในการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวน และทางวัดพร้อมที่จะนำรถไปรับพนักงานสอบสวนเพื่อเดินทางมาที่วัดในวันดังกล่าว
ขณะที่ ร.อ.นพ.อัจฉริยะ ทีมคณะแพทย์ผู้รักษา ชี้แจงถึงสาเหตุอาการอาพาธว่า มีอาการป่วยเรื้อรัง เนื่องจาก เมื่อวันที่ 22 เม.ย. ประกอบพิธีทางศาสนา จนทำให้อาการอาพาธทรุดหนัก โดยมีอาการขาซ้ายบวมมากขึ้นและปวดขามาก และจากที่ได้เชิญทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มาตรวจพบว่า พระธัมมชโย มีอาการอาพาธเรื้อรังด้วยโรคหลอดเลือดดำใหญ่ส่วนลึกในช่องท้องข้างซ้ายอุดตัน ซึ่งเกิดจากการถูกทับด้วยเส้นเลือดแดงใหญ่ทำให้เลือดไม่สามารถไหลจากขาซ้ายกลับสู่หัวใจได้ และอาจนำไปสู่การเสียชีวิต หรือต้องสูญเสียขาได้ พระธัมมชโย มีอาการอาพาธเรื้อรังมาตลอด ทีมแพทย์จึงเห็นว่าจะต้องหลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวร่างกายและภาวะที่มีการสั่นสะเทือนโดยเฉพาะพื้นที่บริเวณขาซ้าย พร้อมกับต้องอยู่ในอิริยาบทที่ยกขาสูงขึ้น รวมถึงต้องเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิดเพื่อเฝ้าระวังหากเกิดภาวะฉุกเฉินภายในระยะเวลา 3 เดือน
ระหว่างการแถลงข่าว คณะแพทย์ได้มีการนำภาพพระธัมมชโยในระหว่างการรักษา ออกมาเผยแพร่ให้ผู้สื่อข่าวรับชมซึ่งได้มีการตั้งข้อสังเกต ถึงภาพดังกล่าว ว่าไม่ปรากฏใบหน้าของพระธัมมชโยอย่างชัดเจน โดยพระสนิท ได้ชี้แจงว่า เหตุที่ไม่ปรากฎภาพใบหน้าอย่างชัดเจน เพราะคำนึงถึงเรื่องสิทธิมนุษยชน และคงไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ภาพผู้ป่วยออกไป ทั้งนี้ ขณะนี้พระธัมมชโย ยังรู้สึกตัวดี ส่วนเหตุไม่นำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลเพราะเป็นความประสงค์ของพระธัมมชโย เนื่องจากเกรง หากไปรักษาที่โรงพยาบาลจะไปรบกวนผู้ป่วยคนอื่น เพราะจะมีผู้สื่อข่าวและลูกศิษย์เดินทางไปโรงพยาบาลจำนวนมาก จนทำให้รบกวนผู้ป่วยคนอื่น ส่วนการที่สื่อมวลต้องการขอเข้าเยี่ยมพระธัมมชโย ในวันนี้ เป็นสิทธิ์ของผู้ป่วยที่จะต้องให้ความยินยอม หากผู้ป่วยไม่ยินยอม อาจเข้าข่ายละเมิดสิทธิ์ได้อย่างไรก็ตามหากทีมแพทย์ของดีเอสไอต้องการมาตรวจอาการของพระธัมมชโย ทางผู้ทีมแพทย์ผู้รักษาระบุว่า ยินดีที่จะให้ข้อมูลในการรักษาอย่างเต็มที่
ผู้สื่อข่าว:ปิยะธิดา เพชรดี