*พล.อ.ชวลิตให้กำลังนายกฯ/สหภาพฯกทพ. ย้ำให้สู้คดีค่าผ่านทางด่วน*

13 พฤษภาคม 2559, 12:22น.


ข่าวเที่ยงครึ่ง



+++พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมคณะ ได้เดินทางโดยเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ออกจากกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) ไปยังจ.ลพบุรี เพื่อตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายในการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาคเขตตรวจราชการที่ 2 โดยจะประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องภายในกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบน 2 ที่ประกอบด้วย จ.ชัยนาท ลพบุรี สิงห์บุรี และอ่างทอง ซึ่งจะเน้นรับฟังปัญหาสำคัญในพื้นที่และการแก้ปัญหาแบบบูรณาการพร้อมมอบนโยบายต่างๆ เพื่อให้การขับเคลื่อนโครงการต่างๆ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลสูงสุด  นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร จะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดขุดเจาะบ่อบาดาลและฝายน้ำล้นที่อยู่ด้านบนของป่าจำปีสิรินธรในพื้นที่ของโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมรับฟังภาพรวมการแก้ปัญหาแหล่งน้ำใน 6 ตำบลของ อ.ท่าหลวง จ.ลพบุรี จากผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี รวมถึงรับฟังการบรรยายถึงแนวทางการแก้ปัญหาภัยต่างๆของป่าจำปีสิรินธรด้วย จากนั้นจะลงพื้นที่พบปะประชาชนในพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) ซับจำปา เพื่อรับฟังความคิดเห็นและหาแนวทางแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ด้วย พล.อ.ประวิตรปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนก่อนออกเดินทาง โดยระบุเพียงสั้นๆก่อนขึ้นเฮลิคอปเตอร์ว่า“จะไปทำงาน



+++พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรีและแกนนำพรรคเพื่อไทย จัดพิธีทำบุญถวายสังฆทาน เนื่องในช่วงวันคล้ายวันเกิดที่จะถึง 15 พฤษภาคม อายุครบ 84 ปี พร้อมเปิดบ้านพบปะสื่อมวลชน และให้สัมภาษณ์ว่า สิ่งที่จะพูดในวันนี้ เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อบ้านเมืองและจะพูดตรงไปตรงมา ที่ออกมาจากหัวใจในทุกๆปัญหา ซึ่งในวันเกิดครบรอบ 84 ปี สิ่งที่อยากเห็นมานานแล้วจนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่จบ ก็อยากบอกทุกคนว่าถือเป็นภารกิจสุดท้ายแห่งชีวิตที่มีอยู่ อยากให้โอกาสกับผู้บริหารประเทศในการปรับและแก้ไขปัญหาเพราะบางสิ่งบางอย่างก็เกิดขึ้นมานานแล้ว ซึ่งเชื่อว่าระยะเวลา2ปีที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีมีความตั้งใจที่จะแก้ปัญหาและมีคนดีๆอยู่ใกล้ท่านมาก แต่จะแก้ถูกหรือไม่เราต้องช่วยกันดู บางอย่างที่แก้ไม่ได้ก็อย่าไปโทษท่าน เพราะคนก่อนหน้านั้นก็แก้ไม่ได้เช่นกัน ส่วนที่ระบุว่าประเทศไทยประชาชนถูกริดรอนสิทธิเสรีภาพนั้น มองว่าหากถูกริดรอน10 เท่า แต่ประชาชนอยู่ดีกินดีก็ไม่เป็นไร ซึ่งอยากให้ความสำคัญกับประชาชนด้านเศรษฐกิจ ส่วนปัจจุบันนี่เศรษฐกิจจะดีหรือไม่นั้น ต้องไปถามประชาชนว่ากินอิ่มนอนหลับหรือไม่



+++นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมายังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามที่ศาลนัดไต่สวนพยานโจทก์ คดีที่นายตระกูล วินิจนัยภาค ขณะดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด ยื่นฟ้อง นางสาวยิ่งลักษณ์ กรณีละเลยไม่ดำเนินการระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว ส่งผลให้รัฐได้รับความเสียหายกว่า 5 แสนล้านบาทในวันนี้โจทก์จะนำพยานเข้าไต่สวนจำนวน 2 ปาก ประกอบด้วย นายสุพัฒน์ เอี้ยวฉาย ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. และนายจิรชัย มูลทองโร่ย รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ขณะที่บรรยากาศด้านหน้าศาลมีประชาชนมารอมอบดอกไม้ เพื่อให้กำลังใจนางสาวยิ่งลักษณ์ จำนวนมาก นางสาวยิ่งลักษณ์ ระบุว่า จากการติดตามข่าวพบว่าหลายประเทศแสดงความกังวลห่วงใยประเทศไทยเรื่องสิทธิมนุษยชนและการใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออก จึงอยากให้รัฐบาล และ คสช. รับข้อเสนอ แต่ในฐานะประชาชนอยากให้การลงประชามติมีบรรยากาศของการแสดงออกอย่างเต็มที่ ไม่มีความกังวลใดๆ มีประชาชนร่วมใช้สิทธิจำนวนมาก เนื่องจากเป็นอนาคตของประเทศไทย



+++ด้านนายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง สำนักงานตำรวจแห่งชาตินำกำลังตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง เข้าตรวจบ้านพักของตัวเองที่จังหวัดสมุทรปราการว่า เจ้าหน้าที่นำกำลังกว่า 100 นายเข้าตรวจค้น และตัวเองถูกตั้งข้อกล่าวหาว่ามีวิทยุสื่อสารไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งลูกชายของตัวเองถูกบังคับให้เซ็นรับว่ามีวิทยุสื่อสารไว้ในครอบครอง ส่วนตัวเห็นว่าที่บ้านพักมีคนเข้าออกจำนวนมาก และพบวิทยุสื่อสารถูกวางอยู่ภายในบ้าน ก็จะต้องพิสูจน์ข้อเท็จจริงต่อไป และตัวเองเป็นนักการเมือง ส่วนภรรยาก็มีอาชีพค้าขาย ไม่เคยมีการใช้ความรุนแรง หรือใช้อิทธิพลใดๆ ไม่มีประวัติถูกดำเนินคดีในลักษณะนี้ จึงอยากทราบว่าใครคือผู้มีอิทธิพลตัวจริงในพื้นที่



+++ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้รับการประสาน จากนายสัมพันธ์ เสริมชีพ ทนายความของพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เข้ามาให้ข้อมูลในฐานะพยาน จะเดินทางมาให้การตามหมายเรียกของดีเอสไอ ในวันที่ 13 พ.ค.นี้ เวลา13.30 น.ที่สำนักคดีอาญา 3 สำหรับการออกหมายเรียกนายสัมพันธ์มาให้ข้อมูลในครั้งนี้ เนื่องจากคณะพนักงานสอบสวนพบหลักฐานว่านายสัมพันธ์เข้าไปเกี่ยวข้องกับการที่นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์คลองจั่นนำเงิน 321.4 ล้านบาท โดยสั่งจ่ายเช็ค 10 ฉบับ เป็นเงินจากสหกรณ์คลองจั่น ไปซื้อหุ้นบริษัท เอ็มโฮมเอสพีวี 2 จำกัด มูลค่าความเสียหายประมาณ 320 ล้านบาท ซึ่งปรากฏหลักฐานว่า นายสัมพันธ์ถือหุ้นแทนนายศุภชัย    ด้านนายสัมพันธ์ ได้ชี้แจงว่า กรณีปรากฏข่าวในสื่อมวลชนหลายแห่ง ซึ่งระบุว่า “นายศุภชัย ไม่ได้โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินและหุ้นบริษัทให้กับสหกรณ์ แต่กลับทำเอกสารให้นายสัมพันธ์และพวกถือหุ้น บริษัทแทน” นั้น ขอปฏิเสธข่าวดังกล่าวว่า ไม่เป็นความจริง และขณะนี้กำลังรวบรวมข้อมูลเอกสารเพื่อชี้แจงในโอกาสต่อไป



++++หลังคณะกรรมการ (บอร์ด) การทางพิเศษแห่งประเทศ ไทย (กทพ.) ไม่สู้คดีค่าผ่านทางด่วน ปี 2546 กับบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM  ดยบอร์ดได้เร่งรัดให้ กทพ.สรุปรายละเอียดและเสนอคมนาคมภายในวันนี้ (13 พ.ค.) เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบแนวทาง ตามมติบอร์ด ที่จะไม่ยื่นฟ้องศาลปกครอง และเสนอมาตรการลดผลกระทบต่อ กทพ.ในอนาคตภายในวันที่ 17 พ.ค. อย่างไรก็ตาม หาก ครม.พิจารณาแล้วมีมติให้สู้คดี กทพ.จะต้องปฏิบัติตาม ในช่วงเช้า วันนี้  สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ กทพ.ได้เดินทางที่สำนักงานอัยการรสูงสุด เพื่อคัดค้านคำตัดสินของอนุญาโตตุลาการเรื่องการปรับอัตราค่าผ่านทางปี พ.ศ.2546 โดยมีนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นผู้รับหนังสือ ก่อนหน้านี้ สหภาพกทพ. ยืนยันให้สู้คดีค่าผ่านทาง โดยยึดแนวทางคดีค่าทางด่วนปี 2541 และคดี ค่าโง่ทางด่วนสายบางนา 6,200 ล้านบาท ที่อนุญาโตตุลาการ ชี้ขาดให้ กทพ.แพ้ แต่เมื่อยื่นศาลปกครอง ตัดสินให้ กทพ.เป็นฝ่ายชนะ นั้น ต้องพิจารณาเนื้อหาสาระให้ดีว่าชนะเพราะเนื้อหาสาระ หรือชนะเพราะมีประเด็นอื่น โดยคดีค่าทางด่วน ปี 2541 ตัดสินว่า การตั้งคณะอนุญาโต ตุลาการ 2 ชุด ไม่ได้ ส่วนค่าโง่ ทางด่วนบางนา เพราะการทำสัญญาฉ้อฉล สัญญาจึงเป็นโมฆะ โดยหลังจากนี้ จะเดินทางไปที่ทำเนียบรัฐบาล 

ข่าวทั้งหมด

X