ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30น.
+++ประเด็นร้อนวันนี้ หลังนายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทยนำเสนอรายงานทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชน หรือ ยูพีอาร์ ของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ นายชาญเชาวน์กล่าวว่า ได้รับทราบข้อมูลจากการที่ตนและคณะเดินทางมารายงาน ยูพีอาร์ว่ามีหลายภาคส่วนให้ความเห็น วิพากษ์วิจารณ์ มีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยเป็นเรื่องปกติ ซึ่งตนทราบอยู่แล้วว่าจะต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์ แต่ขอยืนยันว่าสิ่งที่ตนและคณะทำงานได้นำเสนอรายงานเป็นหลักการข้อเท็จจริง เหตุผลที่ประเทศไทยยึดมั่น ตอนนี้มีการบิดเบือนข้อมูลในหลายภาคส่วน คณะทำงานยูพีอาร์มีกำหนดออกถ้อยแถลง คำแนะนำที่มีต่อประเทศไทยในเวลา 17.30 น. วันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม โดยตามขั้นตอน ตัวแทนประเทศไทยอาจแถลงจุดยืนที่มีต่อคำแนะนำของยูพีอาร์ว่าจะรับหรือไม่รับ ประเด็นใดบ้างก็ได้ ในระหว่างการพิจารณาทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชน สำหรับข้อแนะนำที่คณะทำงานยูพีอาร์มีต่อประเทศไทย เมื่อมีคำแนะนำต่อการทบทวนแล้ว จะมีการแถลงให้สื่อมวลชนรับทราบได้
+++พล.ร.อ.เดนนิส แบลร์ ประธานมูลนิธิ Sasakawa Peace Foundation USA เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในโอกาสเยือนประเทศไทย ในฐานะแขกของกระทรวงการต่างประเทศ ภายหลังการหารือ พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญว่า นายกฯ เห็นว่า การทำความเข้าใจระหว่างไทยกับสหรัฐเกี่ยวกับพัฒนาการทางการเมืองมีความสำคัญ โดยเฉพาะในประเด็นที่อาจมีความคลาดเคลื่อนหรือสร้างความเข้าใจผิด นอกจากนี้นายกฯได้เน้นว่า ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ไม่เคยจับกุมใครถ้าไม่มีการกระทำผิดกฎหมาย แต่หลายโอกาสบุคคลที่ต้องการสร้างความขัดแย้ง จะใช้การแสดงออกที่ผิดกฎหมายเป็นเครื่องมือเพื่อให้ได้รับความสนใจจากประชาคมต่างประเทศ
+++นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้หารือกับนายกลิน เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย โดยหลังการหารือราว 1.30 ชม. ทั้งคู่ได้แถลงข่าวร่วมกัน โดยนายดอนได้เปิดโอกาสให้นาย เดวีส์ให้สัมภาษณ์และตอบคำถามของสื่อมวลชนก่อน ในช่วงต้นนายเดวีส์ได้พูดถึงประเด็นที่มีการหารือกับนายดอนคือเรื่องทะเลจีนใต้และเรื่องสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในไทย พร้อมกับขอบคุณนายดอนที่ได้มีการพูดคุยหารือกันอย่างตรงไปตรงมา
+++หลังนายเดวีส์ให้สัมภาษณ์ นายดอนได้เรียกเอกสารจากเจ้าหน้าที่มาดูจากนั้น สอบถามนายเดวีส์อีกครั้ง ซึ่งนายเดวีส์ยืนยันว่า แคทรีนา อดัมส์ คือโฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ซึ่งขัดกับการชี้แจงของกระทรวงการต่างประเทศไทยก่อนหน้านี้ จากนั้นนายเดวีส์ได้หยิบเอกสารขึ้นมาอ่านต่อหน้าสื่อมวลชนและให้เจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐแปลให้สื่อมวลชนฟังเป็นภาษาไทยว่า สหรัฐรู้สึกไม่สบายใจกับเหตุการณ์จับกุมเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการโพสต์ข้อความออนไลน์ รวมถึงการจับกุมมารดาของนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งขัดแย้งกับพันธกิจของไทยต่อนานาชาติ ซึ่งไม่เป็นการเคารพเสรีภาพในการแสดงออกและสร้างบรรยากาศของการข่มขู่ และทำให้เกิดการเซ็นเซอร์ตัวเอง หลังนายเดวีส์อ่านเอกสารที่เตรียมมาจบ นายดอนได้ย้ำว่า นายเดวีส์ไม่ได้หยิบยกเรื่องดังกล่าวขึ้นมาพูดคุยกับตนระหว่างการหารือกันแต่อย่างใด นายเดวีส์จึงพูดอีกครั้งว่า ยืนยันว่าไม่ได้หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นพูดกับนายดอน แต่พูดกับสื่อเพื่อแสดงจุดยืนของรัฐบาลสหรัฐ ขณะที่ในการหารือกับนายดอนก็ได้พูดคุยกันในหลายเรื่องรวมถึงเรื่องสิทธิพลเมือง
+++นายดอนกล่าวต่อว่า ในเรื่องสิทธิพลเมืองก็พูดให้สหรัฐฟังว่าไทยก็เหมือนสหรัฐที่เมื่อมีเรื่องที่สร้างความวุ่นวายในสังคมก็ต้องหาทางไม่ให้เกิดความปั่นป่วน สังคมก็ต้องหาทางดูแลปัญหาเหล่านั้นเช่นกัน ที่ไม่ได้หยิบยกขึ้นมาพูดเพราะเป็นที่เข้าใจว่าทุกประเทศก็มีปัญหาเหล่านี้เช่นกัน ขณะที่ในรายงานสถานการณ์สิทธิมนุษยชนทั้งที่สหรัฐและอังกฤษเพิ่งเผยแพร่ออกมา ประเทศไทยก็ไม่ได้เป็นเป้า ซึ่งไม่ใช่ว่าไทยไม่มีปัญหา ถ้าจะมีก็เหมือนประเทศอื่นๆ ที่ไม่ได้เป็นเป้าเท่านั้น
++++ส่วนประเด็นกฎหมายพักโทษ นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) กล่าวว่า กฎหมายรอการกำหนดโทษตามแนวทางของ สปท.การเมือง คงต้องหยุดไว้ก่อน ต้องรอให้ได้สติกันก่อนแล้วค่อยมาพูดคุยกันอีกครั้ง ยืนยันว่ายังไม่มีการพับแผน แต่อาจจะต้องปรับเนื้อหาให้ลดความเข้มข้นลง เช่น อาจปรับเงื่อนไขหลังการรับสารภาพผิดให้เบาลง แทนที่จะถูกควบคุมเรื่องการคุมเข้มเรื่องต่างๆ ตลอดชีวิต เหลือเพียง 1-2 ปี หรือการยกเลิกเรื่องการตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต ต้องมีการหารือกันก่อน จากนั้นจะเข้าหารือกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง
+++ นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 2535 สนับสนุนการสร้างความปรองดองเหมือนที่คนในสังคมอยากเห็น แต่ขอคัดค้านวิธีการพักโทษท นายภูมิ มูลศิลป์ อดีตกรรมการศึกษาแนวทางสร้างความปรองดอง สปช. กล่าวว่า ความคืบหน้าการเสนอกฎหมายอำนวยความยุติธรรมเพื่อสร้างสังคมสันติสุขตามที่มีเนื้อหาของคณะกรรมการฯชุดนายเอนกเสนอ อยู่ในระหว่างการพิจารณาหลักการ ร่วมกับทางสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คาดว่าภายใน 30 วันนับจากนี้จะมีความคืบหน้า
+++ในวันนี้ นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (วิป สปท.) แถลงว่าที่ประชุมรับทราบแผนการดำเนินงานประชาสัมพันธ์ของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ในการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์เพื่อทำความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับสาระสำคัญของประเด็นคำถาม ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งในวันที่ 13 พฤษภาคมนี้ เวลา 13.30 น. จะมีการประชุมเตรียมความพร้อม พร้อมกับการบรรยายสาระสำคัญร่างรัฐธรรมนูญ โดยนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. สำหรับปฏิทินการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์สาระสำคัญร่างรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 1 กรกฎาคม - 5 สิงหาคม จะลงพื้นที่พบประชาชน วันที่ 2 มิถุนายน จัดประชุมชี้แจงแก่ผู้บริหารของกรุงเทพมหานคร และวันที่ 7-29 มิถุนายน เป็นการจัดอบรมผู้แทนชุมชนของ กทม. จำนวน 4,200 คน
+++เรื่องร้อนที่ต้องตาม หลังพระพุทธะอิสระยื่นเอกสารให้โรงพยาบาลตำรวจตรวจสอบข้อเท็จจริงบทความวางยาพิษพระธัมมชโยพิษภายในโรงพยาบาลตำรวจขณะกำลังรักษาตัว และมีเจ้าของบทความอ้างตัวเป็นผู้เห็นเหตุการณ์เมื่อ17ปีที่แล้ว จนทำให้อาพาธโดยหลักฐานดังกล่าวได้ส่งมอบให้กับพลตำรวจตรีวารินทร์ วชิรปัญญานุกูล นายแพทย์ สบ.6 โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบว่าบทความดังกล่าวเป็นเรื่องจริงก็อยากขอให้ทางโรงพยาบาลดำเนินการกับผู้กระทำผิด แต่หากว่าไม่เป็นความจริงก็อยากให้โรงพยาบาลดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายกับผู้ที่นำข้อมูลมาเผยแพร่ด้านพลตำรวจตรีวารินทร์กล่าวว่า จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าพิจารณาในรูปของคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และหากผลการตรวจสอบมีความชัดเจนเช่นใดทางโรงพยาบาลจะแถลงข่าวชี้แจงต่อประชาชนและสื่อมวลชนต่อไป
++++นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน และพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าเกษตรที่จำเป็นต่อการบริโภคในชีวิตประจำวัน ทั้งผักสด เนื้อสุกร ไก่ และไข่ไก่อย่างใกล้ชิด เพราะขณะนี้หลายรายการมีปัญหาผลผลิตขาดแคลนและราคาปรับตัวสูงขึ้น เป็นผลมาจากสภาพอากาศที่ร้อนและแล้ง ทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยลง ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า ผลผลิตพืชผัก ได้แก่ ผักคะน้า ผักบุ้งจีน ผักกาดหอม ผักกาดขาวปลี กะหล่ำปลี ถั่วฝักยาว ผักกวางตุ้ง และมะนาว ราคาขายส่งและขายปลีกปรับตัวสูงขึ้นจริง เพราะภัยแล้งมีผลต่อการเพาะปลูกโดยรวม โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือและภาคเมื่อเทียบกับช่วง 3 เดือนแรกปีนี้ เช่น ผักคะน้า ขายปลีกราคา 36.50 บาท/กิโลกรัม (กก.) เพิ่มขึ้น ร้อยละ 77.18 ผักกาดขาวปลี ขายปลีกราคา 26.50 บาท/กก. เพิ่มขึ้น ร้อยละ 32.97 ถั่วฝักยาว ขายปลีกราคา 91 บาท/กก. เพิ่มขึ้นร้อยละ 129.97 ผักกวางตุ้ง ขายปลีกราคา 36.50 บาท/กก. เพิ่มขึ้นร้อยละ 128.84 มะนาวแป้นขายปลีก ราคา 8.00 บาท/ลูก เพิ่มขึ้นร้อยละ 94.65
++++ นายสังวรณ์ ลิปตพัลลภ นายกสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า สมาคมฯ ได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการก่อสร้าง เรื่องเหล็กในงานก่อสร้างขาดแคลนเป็นจำนวนมาก แม้ว่าราคาจะปรับสูงขึ้น โดยเฉพาะเหล็กแผ่นและเหล็กเส้น มีการปรับราคาขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นปีถึงปัจจุบันประมาณ 40% จาก 13,000-14,600 บาทต่อตัน มาเป็น 18,400-20,000 บาทต่อตัน ได้ยื่นหนังสือไปยังนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมตรี และนางอรรชกา สีบุญเรือง รมว.อุตสาหกรรม เพื่อให้ทราบถึงปัญหาการขาดแคลน พร้อมหาทางแก้ไขและช่วยเหลือผู้ประกอบการ โดยเฉพาะการตรวจสอบไม่ให้เกิดการกักตุนเหล็กเพื่อสร้างสถานการณ์ราคา การกีดกันการนำเข้าเหล็กผ่านมาตรการทางภาษีต่างๆ และขอให้ภาครัฐผ่อนผันมาตรการกีดกันทางการค้า ปัจจุบันอุตสาหกรรมก่อสร้างในประเทศใช้เหล็กเส้นก่อสร้างประมาณ 8.5-9 ล้านตันต่อปี ราคาเหล็กที่เพิ่มขึ้นตันละ 5,400 บาท ทำให้ต้นทุนทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 45,900 ล้านบาท