*รองนายกฯประวิตรแจงค้นบ้านวรชัย-ประชา เพราะคนร้องมา/พยาบาลรพ.เดชาร้องไม่ได้เงินเดือน/ผู้นำบราซิลไม่รอดถูกถอดถอน*

12 พฤษภาคม 2559, 18:47น.


*สรุปข่าว 19.35น*



+++พล.ร.อ.เดนนิส แบลร์ ประธานมูลนิธิ Sasakawa Peace Foundation USA เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หลังการหารือ พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญว่า พล.ร.อ.แบลร์ จะเข้าใจการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองไปสู่ประชาธิปไตยของไทย และจะช่วยสะท้อนมุมมองและแนวคิดของประเทศไทยไปยังผู้กำหนดนโยบาย และฝ่ายต่างๆ ในสหรัฐฯ เพื่อช่วยรักษาและเพิ่มพูนความสัมพันธ์ในภาพรวมระหว่างไทยกับสหรัฐฯ  ยืนยันว่า รัฐบาลไม่เคยทำร้ายใคร เพราะทุกคนเป็นคนไทย แต่ถ้าทำผิดกฎหมายก็ต้องถูกดำเนินคดี ซึ่งเป็นไปตามหลัก สิทธิมนุษยชน พร้อมย้ำว่า รัฐบาลให้เสรีภาพในการแสดงออกที่อยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย ที่ไม่ยั่วยุเพื่อให้เกิดความขัดแย้งและความรุนแรง" ระหว่างการสนทนานายกฯได้เปิดโอกาสให้ พล.ร.อ.แบลร์ ซักถาม ซึ่งพล.ร.อ.แบลร์ ได้ซักถาม ข้อเท็จจริงในประเด็นเรื่องการให้พลเรือนขึ้นศาลทหาร ซึ่งในประเด็นนี้ นายกฯกล่าวว่า ศาลทหารของไทย ทำงานเหมือน ศาลปกติ ที่ให้ประกันตัวได้ การใช้ศาลทหาร เป็นเพียงเครื่องมือสำหรับป้องปรามในประเด็นที่มีการระบุไว้ชัดเจน อาทิ การหมิ่นสถาบันฯ หรือ ในประเด็นที่นำไปสู่ความขัดแย้งในสังคมเป็นวงกว้าง  สำหรับ มูลนิธิ Sasakawa Peace Foundation USA ซึ่งเป็นองค์กรอิสระไม่แสวงผลกำไรและไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด จัดตั้งขึ้นเพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจระหว่างสหรัฐอเมริกากับญี่ปุ่น



+++หลังเจ้าหน้าที่ทหาร และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ปิดล้อมเข้าตรวจค้นพื้นที่ จ.สมุทรปราการ โดยเฉพาะบ้านพักของนายวรชัย เหมะ และนายประชา ประสพดี อดีตส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหม กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติที่เจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจค้นทั้งหมด ซึ่งไม่ได้เจาะจงว่าเป็นบ้านของใคร เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามที่มีคนแจ้งเข้ามา ส่วนที่มองว่าเป็นไปเรียกนายวรชัยมาปรับทัศนคติ เนื่องจากวิพากษ์วิจารณ์การดำเนินการของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)นั้น คิดว่าไม่เกี่ยวกัน  



ส่วนการชี้แจงสถานการณ์สิทธิมนุษยชนที่หลายประเทศยังมีความห่วงใย พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดา ต้องมาเห็นว่าประเทศไทยเป็นอย่างไร  ซึ่งขณะนี้ ก็สงบขึ้น ส่วนเรื่องศาลทหารก็มีกฎหมายทั้งนั้น ตามอำนาจของกฎอัยการศึกที่เราใช้ ซึ่งทุกประเทศเขาก็ใช้แบบนี้ เราไม่ได้ทำอะไรนอกเหนือไปจากนี้ โดยเฉพาะเรื่องละเมิดสิทธิมนุษยชน ส่วนเรื่องการเชิญตัวคนเห็นต่างมาพูดคุยนั้น เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องการทำให้เกิดความสงบ  โดยข้อสังเกตของต่างชาติ คสช.ไม่จำเป็นต้องทบทวนตัวเอง เราจะเดินหน้าตามโรดแม็พ หากเรามัวแต่เตะขากันอยู่แบบนี้ ไม่เป็นไปตามโรดแม็พก็แย่



+++นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) กล่าวถึงการประชุม สปท.การเมืองว่า ที่ประชุมได้เชิญนายจิรชัย มูลทองโร่ย รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี มาคุยถึงแนวทางการสร้างความปรองดอง แต่ไม่มีการหารือเรื่องกฎหมายรอการกำหนดโทษ โดยเรื่องกฎหมายรอการกำหนดโทษตามแนวทางของสปท.การเมือง คงต้องหยุดไว้ก่อน ต้องรอให้ได้สติกันก่อนแล้วค่อยมาพูดคุยกันอีกครั้ง  ยืนยันว่า ยังไม่มีการพับแผน  แต่อาจจะต้องปรับเนื้อหาให้ลดความเข้มข้นลง การชะลอเรื่องนี้ไม่ได้เป็นสัญญาณมาจากที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ไม่เห็นด้วย  ยืนยันว่าไม่มีใบสั่งจากใครให้ดำเนินการผลักดันกฎหมายดังกล่าวแน่นอน



+++ก่อนหน้านี้  นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 สนับสนุนการสร้างความปรองดองเหมือนที่คนในสังคมอยากเห็น แต่ขอคัดค้านวิธีการพักโทษ ที่ถือเป็นเพียงส่วนหนึ่งของผลการศึกษาที่ชุดนายเอนกทำไว้ อีกทั้งเชื่อว่า แนวทางดังกล่าวจะเป็นไปไม่ได้ ประชาชนที่ออกไปชุมนุมใช้สิทธิเสรีภาพออกไปเรียกร้องทางการเมือง ซึ่งผิดหรือถูกไม่มีใครรู้ แต่กลับให้ไปสารภาพผิดต่อศาล อีกทั้งการตัดสิทธิห้ามเลือกตั้ง ก็ละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ



+++ความคืบหน้าของการสั่งปิดโรงพยาบาล (รพ.) เดชา ซึ่งตั้งอยู่ที่ถนนศรีอยุธยา แขวงพญาไท เขตราชเทวี นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึง  ในวันนี้ ได้ลงนามในหนังสือคำสั่งปิด รพ.เดชา แล้วตามมาตรา 50 แห่ง พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 เป็นระยะเวลา 60 วัน นับตั้งแต่วันที่รับทราบคำสั่ง เนื่องจาก รพ.เดชา ดำเนินการไม่เป็นไปตามมาตรฐาน คือ 1.ไม่จัดให้มีบุคลากรตามจำนวนที่กฎหมายกำหนด โดยเฉพาะบุคลากรวิชาชีพ 3 สาขาหลักที่จำเป็นในการดำเนินการบริการของโรงพยาบาล ได้แก่ แพทย์ พยาบาล และเภสัชกร และ 2.มีการปิดให้บริการแผนกผู้ป่วยฉุกเฉินหรือ อีอาร์ (ER) ซึ่งเป็นสาระสำคัญของการให้บริการของโรงพยาบาลขนาดใหญ่ จนเป็นเหตุให้เกิดอันตราย ก่อความเสียหายหรือความเดือดร้อนอย่างร้ายแรง ทำให้ผู้ป่วยสูญเสียโอกาสในการรับการรักษาพยาบาล โดยสบส.ได้ประสานสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ขณะนี้ได้จัดสถานพยาบาลในเขตกทม.รองรับไว้ 2 แห่ง คือที่ รพ.ราชวิถี และ รพ.เลิดสิน เพื่อรองรับผู้ประกันตน โดยสามารถติดต่อแจ้งเลือกใช้สิทธิได้ที่สำนักงานประกันสังคม น.ต.นพ.บุญเรือง กล่าวว่า ขณะนี้ ทีมผู้บริหารใหม่ติดต่อมาว่า ขอเวลาปรับปรุงและจะมายื่นเรื่องเพื่อขอเปิด รพ.ตามมาตรฐานอีกครั้ง



+++ส่วนที่ สน.พญาไทกลุ่มพยาบาล รพ.เดชา ประมาณ 40 คน ทยอยเดินทางมาลงบันทึกประจำวัน เพื่อเรียกร้องเงินเดือนที่เหลือกับทาง รพ.เดชา ที่ไม่ได้รับเงินเดือนมาประมาณกว่า 6 เดือนแล้ว เบื้องต้น ร.ต.ท.พิฆเนศ เตรียมเกิดทรัพย์ รองสารวัตร(สอบสวน)สน.พญาไท ระบุคดนี้ เป็นการฟ้องร้องคดีแพ่ง ซึ่งขณะนี้พนักงาน รพ.กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมตั้งทีมทนายความ ก่อนเข้าพบพนักงานสอบสวนอีกครั้ง



 ด้านนายสุวิทย์ สุมาลา รองปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยนายอนันตชัย อุทัยพัฒนาชีพ รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เดินทางพบลูกจ้างโรงพยาบาลเดชา หลังมีเรื่องร้องเรียนไม่ได้รับการจ่ายเงินเดือนกว่า 4 เดือน ขณะที่ลูกจ้างบางรายถึงขั้นถูกไล่ออกจากห้องเช่าเนื่องจากไม่มีเงินจ่าย เพื่อชี้แจงถึงแนวทางการช่วยเหลือ หลังออกหนังสือเชิญผู้บริหารโรงพยาบาลเดชาชุดใหม่ ที่มีจ่าสิบเอก ชาญณรงค์ ประเสริฐศรี ประธานกรรมการบริหารบริษัท ศรีอยุธ จำกัด เข้าหารือ เพื่อแก้ปัญหา แต่ไม่รับคำตอบ กระทรวงฯ จึงมีการแจ้งความดำเนินคดีที่ สน. พญาไท ในข้อหาไม่ชำระเงินค่าจ้างกับลูกจ้าง และแจ้งความ สน.ดินแดง ในข้อหาไม่มาพบตามคำสั่งของเจ้าพนักงาน และเตรียมดำเนินคดีทางอาญาต่อไป



สำหรับธุรกิจโรงพยาบาลเป็นธุรกิจที่ได้รับความสนใจและมีอนาคต แนวทางการช่วยเหลือพนักงานเบื้องต้นนั้น มี 2 แนวทาง คือ 1.นำผู้บริหารพูดคุยกับพนักงานและจ่ายเงินเป็นหลักก่อน แต่หากไม่จ่ายเงิน จะใช้แนวทางที่ 2 คือ ลูกจ้างสามารถเขียนคำร้องถึงกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เพื่อขอให้ดำเนินการบังคับใช้จ่ายเงินตามเกณฑ์ขั้นต่ำแบบค่าจ้างรายวันเป็นเวลา 60 วันจะอยู่ในจำนวนเงินราว 8,000 บาท 



+++หลังการประชุมคณะกรรมการแพทยสภา นพ.สัมพันธ์ คมฤทธิ์ รองเลขาธิการแพทยสภา กล่าวว่า ที่ประชุมได้หารือถึงมาตรการดูแลปัญหาการทุจริตสอบเข้าเรียนแพทย์ และมีความเป็นห่วงว่าหากนักเรียน นักศึกษากระทำการทุจริตตั้งแต่ตอนนี้ ถือเป็นการกระทำผิดคุณธรรม จริยธรรมอย่างร้ายแรง ไม่มีความซื่อสัตย์จะทำให้มีปัญหาต่อวิชาชีพได้ในอนาคต ดังนั้นจึงมีมติว่าจะไม่อนุญาตให้ผู้ที่กระทำการทุจริตสอบเข้าเรียนแพทย์ที่ผ่านการตรวจสอบอย่างชัดเจนแล้วว่าได้กระทำการทุจริตสอบจริง ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมอย่างเด็ดขาด ส่วนแพทย์ที่ไปเป็นที่ปรึกษาให้กับสถาบันกวดวิชาต่างๆ นั้น คิดว่าการสอน หรือการถ่ายทอดวิชานั้นสามารถทำได้ แต่จะไปใช้เครดิตมากไม่ได้



+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,399.31 จุด เพิ่มขึ้น 16.90 จุด มูลค่าการซื้อขาย 43,165.81 ล้านบาท

++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดบวกติดต่อกัน 4 วันทำการในวันนี้ หลังจากเงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทส่งออก ปิดบวก 67.33 จุด ที่ 16,646.34 จุด



+++ดัชนีฮั่งเส็ง ฮ่องกง ปิดตลาด ลดลง 139.83 จุด ปิดที่ 19,915.46 จุด



+++ประธานาธิบดีดิลมา รุสเซฟฟ์ของบราซิลจะถูกไต่สวนเพื่อถอดถอนออกจากตำแหน่ง หลังวุฒิสภาลงมติรับรองเรื่องนี้ด้วยคะแนนเสียงส่วนใหญ่ 55 ต่อ 22 เสียง หลังอภิปรายมาตลอดคืนที่ผ่านมา ใช้เวลาอภิปรายรวม 20 ชั่วโมง มีผลระงับการปฏิบัติงานของเธอทันที การไต่สวนของรัฐสภาอาจจะใช้เวลาพิจารณาราว 180 วันซึ่งหมายความว่านางรุสเซฟฟ์จะถูกพักการปฏิบัติหน้าที่ระหว่างที่บราซิลเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในกรุงริโอเดอจาเนโร ซึ่งจะเปิดฉากขึ้นในวันที่ 5 สิงหาคมนี้ โดยรองประธานาธิบดีมิเชล เทเมอร์จะก้าวขึ้นมาทำหน้าที่ประธานาธิบดีเป็นการชั่วคราว ที่ผ่านมาเธอถูกกล่าวหาว่าจัดทำงบประมาณโดยมิชอบด้วยกฏหมาย เพื่อมุ่งจะปกปิดปัญหาการขาดดุลงบประมาณที่เพิ่มขึ้น ก่อนที่เธอจะชนะการเลือกตั้งอีกครั้งเมื่อปี 2557 ด้านนางรุสเซฟฟ์ ปฏิเสธเรื่องนี้ว่าไม่เป็นความจริง ก่อนหน้านี้ เธอพยายามจะต่อสู้เป็นเฮือกสุดท้าย โดยยื่นคำร้องให้ศาลฏีกาสั่งระงับการพิจารณาถอดถอนเธอออกจากตำแหน่งของรัฐสภาที่ดำเนินอยู่ในช่วงนี้ แต่ศาลไม่รับคำร้อง ก่อนหน้านี้ สส.ส่วนใหญ่ 513 คนโหวตเห็นด้วยกับญัตตินี้ในการประชุมเมื่อวันที่ 17 เมษายน 

ข่าวทั้งหมด

X