*WHO รายงานกรุงนิวเดลีของอินเดีย เป็นมหานครที่มลพิษทางอากาศสูงที่สุดในโลก*

องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) เผยรายงานเมื่อวันพฤหัสบดี เรื่องมลภาวะทางอากาศ จากการสำรวจใน 795 เมืองใน 67 ประเทศทั่วโลก ระหว่างปี 2551-2556 แม้จะไม่มีการจัดอันดับ แต่จากข้อมูลเบื้องต้นพบว่า เมืองที่สถานการณ์มลภาวะทางอากาศรุนแรงที่สุด คือเมืองซาบอลของอิหร่าน ซึ่งต้องเผชิญกับพายุทรายต่อเนื่องเป็นระยะเวลาหลายเดือนในช่วงฤดูร้อน โดยวัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน หรือค่าพีเอ็ม 2.5 โดยเฉลี่ยได้ 217 เมืองอีก 4 แห่งที่อยู่ในอันดับรองลงมาล้วนอยู่ในอินเดีย ได้แก่เมืองกวาเลียร์ในรัฐมัธยประเทศ เมืองอัลลาฮาบัดในรัฐอุตรประเทศ เมืองปัฏนาและเมืองไรปุระในรัฐพิหาร

ขณะที่กรุงนิวเดลีจัดอยู่ในอันดับ 9 มีค่าพีเอ็ม 2.5 โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 122 ซึ่งหากเปรียบเทียบในบรรดาเมืองใหญ่ กรุงนิวเดลีนับเป็นมหานครที่มีมลพิษทางอากาศสูงที่สุด รองลงมาคือกรุงไคโรของอียิปต์ และกรุงธากาของบังกลาเทศ อย่างไรก็ตาม เป็นไปได้ว่าอาจมีเมืองที่มีคุณภาพอากาศแย่ที่ตกสำรวจไป เนื่องจากระบบการตรวจสอบและเก็บข้อมูลในบางพื้นที่ยังไม่เป็นมาตรฐาน อนุภาคฝุ่นละอองขนาดเล็ก เป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชากร โดยเป็นสาเหตุของของโรคหอบหืด โรคมะเร็งปอด โรคหลอดเลือดสมอง และโรคหัวใจ และยังเป็นปัจจัยที่อาจทำให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันได้

 จากการสำรวจคุณภาพอากาศในพื้นที่เมือง 3,000 แห่ง พบว่าในกลุ่มประเทศยากจน มีเพียงร้อยละ 2 เท่านั้นที่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของดับเบิลยูเอชโอ ขณะที่คุณภาพอากาศในเมืองของประเทศร่ำรวยจัดอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานราวร้อยละ 44 รายงานระบุว่า ลักษณะคุณภาพอากาศมีแนวโน้มพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นในกลุ่มประเทศร่ำรวยเช่นในทวีปยุโรปและภูมิภาคอเมริกาเหนือ ในทางตรงกันข้าม สถานการณ์กลับเลวร้ายลงในกลุ่มประเทศที่ยากจนกว่า โดยเฉพาะในภูมิภาคตะวันออกกลางและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตก่อนวัยอันควรจากมลภาวะทางอากาศกว่า 7 ล้านราย ในจำนวนนี้ราว 3 ล้านรายเป็นผลมาจากคุณภาพอากาศในพื้นที่กลางแจ้ง ปัจจัยที่ส่งผลต่อคุณภาพอากาศมีตั้งแต่มลภาวะจากท่อไอเสียของยานพาหนะบนท้องถนน ระบบทำความเย็นในอาคาร การเผาไหม้ของเชื้อเพลิงคุณภาพต่ำในภาคครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรม การจัดการขยะด้วยการเผา รวมไปถึงการทำเกษตรกรรม