สหประชาชาติกังวลกองทัพตุรกีโจมตีชาวเคิร์ดรุนแรงมากขึ้นหลังพ้นข้อตกลงหยุดยิง

11 พฤษภาคม 2559, 08:49น.


เจ้าชายเซอิด ซาอัด อัล-ฮุสเซ็น ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชน แห่งสหประชาชาติ เตือนกองทัพตุรกี ที่ก่อเหตุรุนแรงต่อพลเมืองที่ปราศจากอาวุธในพื้นที่ชนกลุ่มน้อยชาวเคิร์ดทางตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกี ซึ่งสหประชาชาติพบว่า ในช่วง 10 เดือนหลังจากที่พ้นการบังคับใช้ข้อตกลงหยุดยิงในพื้นที่ทางใต้ของตุรกี พบเหตุรุนแรงต่อชาวเคิร์ดเกิดขึ้นหลายครั้ง โดยในเหตุการณ์หนึ่งที่เมืองเซอร์เต มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 100 คน จากการถูกเผาทั้งเป็นขณะที่หลบอยู่หลุมหลบภัย นอกจากนี้ยังมีเหตุทำร้ายสตรีและเด็ก รวมถึงการทำลายสิ่งปลูกสร้างในระหว่างการปราบปรามกองกำลังชาวเคิร์ด  ซึ่งสหประชาชาติเรียกร้องให้กองทัพตุรกีให้ความเคารพต่อสิทธิมนุษยชนตลอดเวลาที่ทำหน้าที่รักษาความมั่นคงหรือมีปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้าย อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าสหประชาชาติยังขาดข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอีกหลายพื้นที่ ซึ่งทำให้เกิดความกังวลเป็นอย่างมาก



สื่อตุรกีรายงานว่า ในเวลาที่สหประชาชาติเผยแพร่รายงานเรื่องเหตุรุนแรงในตุรกี ก็ยังมีเหตุระเบิดโจมตีรถตำรวจในเขตดิยาร์บากีร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คนและบาดเจ็บ 45 คน ซึ่งทางการตุรกีกล่าวหาว่าเป็นการกระทำของพรรคแรงงานเคอร์ดิสถานหรือพีเคเค ที่ตุรกีจัดเป็นกลุ่มก่อการร้าย ส่วนเรื่องข้อกล่าวหาของสหประชาชาติ ทางการตุรกีปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยอ้างไม่เคยยินยอมให้เจ้าหน้าที่สหประชาชาติเข้าไปในพื้นที่



ด้านกลุ่มสังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนที่มีสำนักงานอยู่ในสหรัฐอเมริกา รายงานว่าในช่วง 2 เดือนมานี้มีเหตุเจ้าหน้าที่ด่านชายแดนยิงและทุบตีผู้อพยพชาวซีเรียหลายครั้ง และพบชาวซีเรียเสียชีวิตอย่างน้อย 5 คน โดยในเวลานี้ตุรกีรับดูแลผู้อพยพชาวซีเรียไว้มากถึง 2 ล้าน 7 แสนคน พร้อมประกาศนโยบายรับช่วยเหลือผู้อพยพลี้ภัยชาวซีเรีย



..



F163



un.org

ข่าวทั้งหมด

X