*นายกฯชี้้สร้างปราสาทพระวิหารจำลอง สมควรหรือไม่ เตือนสื่ออย่าบิดเบือน*

10 พฤษภาคม 2559, 15:26น.


หลังการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงกรณีการสั่งปิดปราสาทพระวิหารจำลองที่บริเวณผามออีแดง โดยระบุว่าทั้งสองประเทศจะยังไม่มีการดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะคดีนี้ยังอยู่ในการพิจารณาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าการจัดสร้างปราสาทพระวิหารจำลองดังกล่าวทำได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวว่าถึงตัวปราสาทจำลองจะไม่อยู่ในพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร แต่ต้องถามว่าสมควรสร้างหรือไม่ด้วย


 ต่อคำถามเรื่องการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงต่างๆและมาตรา 44 ที่ประเทศไทยอาจจะต้องชี้แจงต่อคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน แห่งสหประชาชาตินั้น นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.ระบุว่าไม่กังวลในเรื่องนี้เพราะทำเพื่อประเทศชาติ และได้ส่งผู้แทนจากกระทรวงการต่างประเทศไปชี้แจงแล้ว ส่วนกรณีคนที่ยังไม่เข้าใจก็เกิดจากผู้ที่ไปส่งข่าวให้เกิดความไม่เข้าใจขึ้น


 


ส่วนกรณีการต่ออายุประทานบัตรทำเหมืองแร่ทองคำของบริษัทเอกชนที่มีข่าวว่าจะมีการเสนอวาระการประชุมให้มีการต่ออายุประทานบัตรออกไปอีกนั้น พล.อ.ประยุทธ์ปฏิเสธว่าไม่มีการพิจารณาในเรื่องดังกล่าว และต้องยุติการทำเหมืองแร่ทองคำภายในสิ้นปีนี้จนกว่าจะมีความชัดเจน โดยจะให้ผู้ที่เกี่ยวข้องหาทางเยียวยาปัญหาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ และต้องหางานใหม่ให้คนงานของเหมืองด้วย ซึ่งตนฟังความทั้งสองฝ่ายเพื่อมาช่วยคิดในเรื่องนี้


นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ยังกล่าวถึงการนำเสนอข่าวของสื่อที่ตนมองว่าบิดเบือน  โดยขอให้นำเสนอเรื่องดีๆบ้าง เช่นการจัดอันดับที่ประเทศไทยได้อันดับที่ 47 ในเรื่องความง่ายในการทำธุรกิจ และบางเรื่องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ชี้แจงมาแล้วแต่ไม่ค่อยมีสื่อทำข่าว เช่นการจับกุม น.ส. พัฒน์นรี ชาญกิจ หรือแม่จ่านิว ว่ามีหลักฐานการกระทำผิดจริงแต่เปิดเผยไม่ได้ ต้องไปว่ากันที่ศาล ซึ่งมีประโยคอีก 8-9 ประโยคที่มากกว่าแค่คำว่าจ้า และประโยคเหล่านี้ตนรับไม่ได้ ตนยืนยันว่ารัฐบาลนี้ไม่ยอมรับการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเด็ดขาด ส่วนกรณีมีทหารเรียกรับผลประโยชน์นั้นถ้าหากมีก็ขอให้ส่งหลักฐานมา  และกรณีมีการโทรศัพท์ข่มขู่คนในรัฐบาล ยืนยันว่าได้จับมาแล้วและพิสูจน์ว่าเป็นผู้ป่วยทางจิตจริง


 


เรื่องการปรับครม.พลเอกประยุทธ์ยืนยันว่ายังไม่มีการปรับในขณะนี้ ตนไม่เสียกำลังใจและไม่สนใจ ที่ตนมีอาการโมโหนั้นยิ่งตนโมโหก็ยิ่งทำงาน ไม่มีอะไรที่ทำให้ท้อ เพราะชีวิตนี้ทำเพื่อชาติ ถ้าจะให้ยิ้มทั้งวันคงไม่ใช่และแม้ว่าจะโมโห แต่ก็ไม่เสียสมาธิในการทำงาน เพราะส่วนตัวถ้ายิ่งโมโหก็จะยิ่งทำงานมากขึ้นและไม่คิดที่จะท้อแท้   นอกจากนั้น นายกรัฐมนตรีได้ถามกลับ ถึงคำจำกัดความ เสรีภาพของสื่อมวลชน ว่า หากหมายถึงการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลได้ทุกเรื่อง ก็ขอให้ไปใช้ในรัฐบาลหน้า
ข่าวทั้งหมด

X