การเดินทางท่องเที่ยวจ. ประจวบคีรีขันธ์ อีก 1 จังหวัดที่เดินทางสะดวกไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มีทั้งทะเล ภูเขา สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ทำให้ทุกวันนี้จ. ประจวบคีรีขันธ์เป็นจังหวัดที่เปิดรับนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ นางอรสา อาวุธคม ผู้อำนวยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า มีนักท่องเที่ยวชาวไทยมากกว่าต่างชาติ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 80 และ ชาวต่างชาติ ร้อยละ 20 โดยเป็นกลุ่มสแกนดิเนเวีย ส่วน จีน ฮ่องกง ไต้หวัน เวียดนาม อินโดนีเซีย กัมพูชา เริ่มรู้จักและเดินทางมากขึ้น
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพท่องเที่ยวสูงมากเนื่องจากมีทั้งแหล่งท่องเที่ยว ทั้งธรรมชาติ ทะเล ภูเขา น้ำตก และแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ เช่น ตลาด สวนน้ำ สิ่งอำนวยความสะดวก ซึ่งใน 8 อำเภอ ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ก็มีความโดดเด่นสูง เช่นอำเภอหัวหิน ที่มีศักยภาพสูงทั้งทะเล ภูเขา สวนน้ำ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดห้วยมงคล มีที่พักสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย รวมไปถึงแหล่งท่องเที่ยวใหม่ คืออุทยานราชภักดิ์ ซึ่งครั้งหนึ่งในชีวิตก็ควรจะเดินทางมาสักการะ
ขณะที่ อำเภอปราณบุรี ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวแนวอนุรักษ์ธรรมชาติ มีวนอุทยานปราณบุรี ศูนย์เรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลน ส่วนอำเภอกุยบุรี ก็มีอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ซึ่งถือว่าเป็นซาฟารีเมืองไทย ส่วนอำเภอเมือง ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวเช่นอ่าวมะนาว มีความโดดเด่นและยังได้รับรางวัลชายหาด 5 ดาว ทะเลสวย น้ำใส รวมไปถึงกิจกรรมการปีนเขาล้อมหมวก ซึ่งเป็นกิจกรรมการผจญภัยที่กำลังเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยววัยรุ่นในขณะนี้
ที่อ.ห้วยสัตว์ใหญ่ มีสถานที่ที่สำคัญอีกสถานที่หนึ่ง คือ น้ำตกป่าละอู สถานที่ที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์ นอกจากนี้ ยังสามารถเรียนรู้วิถีชีวิตชุมชนชาวปาเกอญอ ได้อีกด้วย
ส่วนอำเภอทับสะแก ก็มีความโดดเด่นในเรื่องการเล่นกิจกรรมเรือใบ และอำเภอบางสะพาน และ บางสะพานน้อย ก็มีกิจกรรมดำน้ำชมปะการัง ซึ่งประจวบคีรีขันธ์ยังสามารถเดินทางได้สะดวกทั้งโดยสารและรถยนต์ส่วนตัว ซึ่งใช้ระยะเวลาเดินทางเพียง 3 ชั่วโมง หรือสามารถเดินทางมาด้วยรถไฟก็ได้เช่นกัน
นอกจากนี้ ขอแนะนำเมนูที่เมื่อเดินทางไปที่หัวหินต้องห้ามพลาดคือหอยเสียบจิ้มมะละกอ ซึ่งเป็นอาหารพื้นถิ่นของชาวหัวหิน ซึ่งมีทั้งหอยหลอด หอยแมลงพู่ ปลาแห้ง และปลาหมึกนำมาย่าง กินคู่กับน้ำจิ้มรสเผ็ด หวาน คลุกเคล้ากับมะละกอ ซึ่งถือว่ามีความอร่อยที่ลงตัว และราคาก็ไม่แพงซึ่งหากเป็นหอยเสียบก็อยู่ที่ไม้ละ 20 บาท และปลาหมึก หรือปลาชนิดอื่นก็อยู่ที่ราคาไม้ละ 10 บาทเท่านั้น
ผู้สื่อข่าว:ปิยะธิดา เพชรดี