การติดตามจับกุมคนร้ายบุกเดี่ยวใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์รถขนเงินของบริษัทแซมโก้ บริเวณธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาย่อยห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาพัทยาใต้ ต. หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี สามารถชิงถุงใส่เงินไปได้ 8.8 ล้านบาท พล.ต.ต. อำพล บัวรับพร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.ชลบุรี เปิดเผยกับจส.100 ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจภาค 2 แกะรอยไปจับกุมคนร้ายนายอิทธิเดช โพธิ์มี อายุ 40 ปี ที่คลอง 1 จ. ปทุมธานี โดยตรวจสอบพยานหลักฐาน พยานแวดล้อม กล้องวงจรปิด ตามมาจับได้ที่ปทุมธานี พร้อมของกลางเงินสดที่เหลือประมาณ 5 ล้านบาท พร้อมอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ คนร้ายรับสารภาพว่าคนก่อเหตุคนเดียว ดูลาดเลาและทางหนีทีไล่ก่อนก่อเหตุสามวัน การก่อเหตุจุดนี้เนื่องจากเห็นว่าสามารถหลบหนีได้ง่าย หลังก่อเหตุได้แบ่งเงินใส่เป้ แต่เป้ใส่เงินได้ไม่หมดเลยทิ้งไว้ข้างทาง แบงค์ 20 มูลค่า 6 หมื่นบาท พร้อมเผารถจักรยานยนต์และเสื้อผ้า รวมทั้งหมวกกันน็อค จากนั้นหลบหนีไปตามจุดต่างๆจนกระทั่งเจ้าหน้าที่มาจับได้ที่บ้านพักที่ จ. ปทุมธานี คนร้ายยอมรับว่า เลียนแบบเหตุการณ์ปล้นรถขนเงินที่อ.หนองข้างคอก จ.ชลบุรี แล้วเลียนแบบ เอาเงินที่ได้ไปเที่ยว ซื้อรถ
คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 เม.ย. เจ้าหน้าที่จับกุมนายอิทธิเดช ได้เมื่อวานนี้และนำตัวมาแถลงข่าวช่วงบ่ายนี้ โดยพล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) เป็นคนแถลง จากนั้น พล.ต. อ. ปัญญา มาเม่น ที่ปรึกษาสบ.10 จะนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในจุดที่เกิดเหตุ จากการตรวจสอบย้อนหลังพบว่า นายอิทธิเดช มีคดีค้างเก่ามีหมายจับในพื้นที่จ.กำแพงเพชรและจ.พิจิตร มีหมายจับคดีฆ่า พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ยาเสพติด และคดีจราจร รวม 4 คดี ทั้งนี้ ปืนของกลางที่ยึดได้พร้อมคนร้าย เป็นปืนที่คนร้ายเคยใช้ก่อเหตุฆ่าคนมาแล้ว และยอมรับว่า หากวันที่เจ้าหน้าที่มาจับถ้ามีปืนอยู่ในตัวก็จะต่อสู้แต่เผอิญปืนเก็บไว้ในรถ อย่างไรก็ตาม ผบ.ตร. ย้ำว่า ในพื้นที่จ.ชลบุรี มักมีเหตุแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งต้องเพิ่มมาตรการในการป้องกันและเจ้าหน้าที่จะเสริมกำลังในพื้นที่จุดเสี่ยงเพิ่มขึ้น