*พณ.ตรวจรายละเอียดคดีข้าวจีทูจี/หน.คสช.สั่งปลดสมาชิกสภาท้องถิ่นหากทุจริต/สภากทม.เคยติงโครงการประดับไฟ*

06 พฤษภาคม 2559, 06:50น.


+++ความแรงของพายุฤดูร้อนส่งผลกระทบความเสียหายในหลายพื้นที่ ที่เจ้าหน้าที่ยังต้องไปซ่อมแซมกันต่อ ล่าสุด เมื่อช่วงเย็นเมื่อวานพายุฤดูร้อนพัดเสาไฟฟ้าแรงสูงหักโค่นขวางถนนกว่า20ต้น ถนนสาย304ปักธงชัย-ราชสีมา ช่วงหลักกิโลเมตรที่287หน้าหมู่บ้านโคราชวิลเลจ3ต.ไชยมงคล อ.เมืองนครราชสีมา ประชาชนในพื้นที่ ระบุว่า ก่อนเกิดเหตุมีพายุฝนพัดกระหน่ำลงมาอย่างรุนแรง เป็นเวลานานกว่า30นาที โดยตลอดระยะเวลาที่มีฝนตก มีลมพัดกรรโชกอย่างรุนแรงติดต่อกัน ซึ่งนอกจากจะมีเสาไฟฟ้าแรงสูงถูกลมพายุพัดหักโค่นจำนวนมากแล้ว ยังมีสังกะสีภายในแคมป์คนงานก่อสร้าง ที่มีหมู่บ้านอยู่ใกล้เคียง ก็ถูกลมพายุพัดจนหลังคาพังเสียหายไม่น้อยกว่า10หลังคาเรือนด้วย



+++เช่นเดียวกับหลายจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อน ที่อำนาจเจริญ จ.เลย ลำปาง ที่จ.พิษณุโลก เกิดพายุฤดูร้อนถล่ม ส่งผลให้โรงสีข้าว 2แห่งใน อ.บางระกำ พังได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ เสาไฟฟ้าแรงสูงหักโค่นนับ 20 ต้น บ้านเรือน โรงเรียน วัด เสียหาย ร่วม 100 หลังคาเรือน เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายรวมทั้ง      เจ้าหน้าที่ทหาร กองทัพภาคที่ 3 ส่งกำลังลงไปช่วยประชาชนในพื้นที่ อ.เมือง มีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 48 หลังคาเรือน



+++ส่วนการดับไฟป่าที่ป่าพรุโต๊ะแดง จ.นราธิวาส กองทัพอากาศ สั่งการให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองบิน 56 อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา และหน่วยบินปฏิบัติการฝนหลวง ฝูงบินที่ 461 กองบิน 46 จ.พิษณุโลก ที่ได้ตั้งฐานปฏิบัติการทำฝนหลวงร่วมกับกองบิน 56 และศูนย์อำนวยการฝนหลวงภาคใต้กระทรวงเกษตร ขึ้นบินปฏิบัติภารกิจทำฝนหลวงดับไฟป่าพรุโต๊ะแดง นาวาอากาศเอกพฤทธิ์ ตึกสุอินทร์ ผู้บังคับการกองบิน 56 ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองบิน 56 เปิดเผยว่า ไฟป่าได้ไหม้ลุกลามขยายเป็นวงกว้างตามแนวรอยต่อระหว่าง อ.สุไหงปาดี อ.สุไหงโก-ลก และอ.ตากใบ กินพื้นที่ประมาณกว่า 400 ไร่ กำลังทางภาคพื้นดินไม่สามารถเดินทางเข้าไปถึงจุดที่เกิดเหตุได้ การบินปฏิบัติภารกิจทำฝนหลวงวันละ 2 เที่ยวบิน โดยแต่ละเที่ยวบินจะสามารถบรรทุกสารเคมีได้จำนวน 2 ตัน และขึ้นอยู่กับสภาพอากาศว่าจะอำนวยหรือไม่ โดยจะดำเนินการทำฝนหลวงจนกว่าสถานการณ์ไฟป่าพรุโต๊ะแดงจะคลี่คลาย



+++ช่วงค่ำวานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา ในนามรัฐบาลและคณะรัฐมนตรี พร้อมทั้งคู่สมรส เป็นเจ้าภาพจัดงานสโมสรสันนิบาตเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันฉัตรมงคล รัฐบาลเชิญผู้แทนประชาชนจากทุกหมู่เหล่าพร้อมคู่สมรส อาทิ องคมนตรี สำนักราชเลขาธิการ สำนักพระราชวัง คณะรัฐมนตรี ผู้บัญชาการเหล่าทัพ คณะทูตานุทูต รวมถึงสื่อหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ สื่อต่างประเทศ ผู้นำองค์การภาคเอกชน นักธุรกิจ เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง



+++เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เผยแพร่คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่ 22/2559 เมื่อวันที่ 4 พ.ค.2559 เรื่องการได้มาซึ่งสมาชิกสภาท้องถิ่นเป็นการชั่วคราวในกรณีที่มีการยุบสภาท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยอาศัยอํานาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญ(ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 โดยให้มีคณะกรรมการสรรหาคณะหนึ่ง ทําหน้าที่คัดเลือกบุคคล แต่งตั้งให้เป็นสมาชิกสภาท้องถิ่น คณะกรรมการสรรหา ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน เมื่อมีการยุบสภาท้องถิ่นในเขตจังหวัดใด ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดของจังหวัดนั้นเสนอรายชื่อบุคคลที่มีคุณสมบัติต่อคณะกรรมการสรรหาภายใน 15 วัน นับแต่วันที่มีคําสั่งให้ยุบสภาท้องถิ่น ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดอาจแต่งตั้งคณะกรรมการตามที่เห็นสมควรเพื่อช่วยดําเนินการก็ได้ โดยเมื่อคณะกรรมการสรรหาได้รับรายชื่อแล้ว ให้คัดเลือกบุคคลที่จะแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นตามจํานวนที่กําหนดให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับรายชื่อจากผู้ว่าราชการจังหวัด



+++ทั้งนี้ ในกรณีที่ตรวจสอบพบว่า สมาชิกสภาท้องถิ่นผู้ใดทุจริตต่อหน้าที่หรือหากให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจะเกิดความเสียหายต่อทางราชการหรือท้องถิ่น ให้หัวหน้าคสช.มีอำนาจสั่งให้สมาชิกสภาท้องถิ่นผู้นั้นพ้นจากตำแหน่งได้



+++การเร่งรัดเรียกค่าเสียหายทุจริตข้าวแบบรัฐต่อรัฐ(จีทูจี) พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้มีหนังสือไปยังกระทรวงพาณิชย์ เพื่อบังคับทางปกครองให้นักการเมืองและข้าราชการ จำนวน 6 คน ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่รัฐ รวมจำนวน 2 หมื่นล้านบาท ภายหลังจากที่กรมบัญชีกลางสรุปตัวเลขค่าเสียหายจากการระบายข้าวจำนวน 6.2 ล้านตันแล้ว กระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างตรวจสอบรายละเอียดทางกฎหมาย เมื่อได้ข้อสรุปแล้วก็จะมีหนังสือแจ้งไปยังผู้ที่ต้องชดใช้ค่าเสียหายต่อไป เรื่องนี้เป็นประเด็นที่สังคมสนใจติดตาม รัฐบาลไม่ได้นิ่งเฉยมีการทำงานอย่างต่อเนื่อง นายกฯ กำชับให้กระทรวงพาณิชย์เร่งรัดดำเนินการ ด้วยการศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบ แต่อยู่ภายในกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนด ไม่ปล่อยให้เนิ่นนานเกินไป พร้อมฝากให้ข้าราชการทุกคนถือกรณีนี้เป็นบทเรียนตัวอย่างที่มีราคาแพง เพื่อนำไประลึกเป็นข้อเตือนใจอยู่เสมอว่า จะต้องยืนข้างความถูกต้อง มีความสุจริตเที่ยงตรง และยึดหลักกฎหมายในการปฏิบัติงาน ไม่ตกเป็นเครื่องมือของนักการเมืองหรือผู้แสวงหาผลประโยชน์จากราชการ



+++กรณีนายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แถลงผลตรวจสอบโครงการติดไฟประดับซุ้มอุโมงค์ไฟแอลอีดี 5 ล้านดวงของกรุงเทพมหานคร(กทม.) เมื่อช่วงปีใหม่ใช้งบประมาณ 39.5 ล้านบาท มีพฤติการณ์น่าเชื่อได้ว่ามีการฮั้วประมูลและทุจริตในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง พล.ต.ต.ประสพโชค พร้อมมูล โฆษกสภากรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า ในการประชุมสภากทม. วันที่ 11 พ.ค.จะไม่มีการตั้งกระทู้ถาม ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. และคณะผู้บริหารเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวอีกแล้ว เนื่องจากก่อนหน้านี้สมาชิกสภา กทม. เคยได้ยื่นญัตติตั้งกระทู้สอบถามถึงรายละเอียดและความคุ้มค่าของการดำเนินโครงการไฟประดับดังกล่าวกับคณะผู้บริหารของ กทม.ไปแล้ว ซึ่งฝ่ายบริหารได้ตอบคำถามในสภาเช่นเดียวกับที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้ออกมาแถลงข่าวไปเมื่อวันที่ 4 พ.ค.ว่าเป็นไปเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยระบุว่าจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติให้ความสนใจมาเยี่ยมชมจำนวนมาก  โฆษกสภากทม. กล่าวว่าในการยื่นกระทู้ถามของสภากทม.ครั้งนั้น ได้ทักท้วงไปแล้วว่าโครงการนี้จะเกิดความคุ้มค่าจริงหรือไม่ เนื่องจากอาจจะกลายเป็นการใช้งบประมาณในจำนวนที่มากเกินความเป็นจริง แต่กทม. ก็ได้ดำเนินโครงการต่อ จากนี้ไปคงต้องเป็นหน้าที่ของสตง. และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รวมถึงกระทรวงมหาดไทย ในการเป็นผู้ตรวจสอบการดำเนินโครงการดังกล่าว



+++สำหรับโครงการของกทม. ในอนาคตทั้งที่กำลังดำเนินการอยู่และจะดำเนินการต่อจากนี้ไป สภากทม. คงต้องปรับปรุงการทำงาน ต้องมีการตั้งกระทู้ถามและนำข้อมูลเชิงลึกมาสอบถามกับผู้บริหาร กทม.ให้ละเอียดรอบคอบมากยิ่งขึ้น เพื่อหยุดยั้งโครงการที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อทางราชการ ไม่ให้เกิดปัญหาแบบโครงการดังกล่าวอีก



+++ด้านนายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีตสส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ในฐานะอดีตประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า แม้ผู้ว่าฯกทม.ไม่ได้เซ็นลงนาม แต่ในฐานะเป็นหัวหน้าหน่วยงานก็ต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว อีกทั้ง นายอมร กิจเชวงกุล และนายจุมพล สำเภาพล รองผู้ว่าฯกทม. ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ด้วย โดยจะยื่นหนังสือต่อ สตง. เพื่อขอให้เพิ่มผู้ถูกกล่าวหาอีก คือรองผู้ว่าฯ กทม. 2 คน รวมทั้งแถลงถึงความไม่โปร่งใสของบริษัทที่รับงานประมูลดังกล่าว



 

ข่าวทั้งหมด

X