*รองอธิบดีกรมการขนส่งฯ เผยตร.เอาผิดคนขับที่ทำตู้คอนเทนเนอร์หล่นได้*

ความคืบหน้าการยกตู้คอนเทนเนอร์หล่นลงมาข้างล่าง ช่องทางกลางและขวา บริเวณถนนมอเตอร์เวย์ ขาเข้า  ช่วงต่างระดับร่มเกล้า กม.11 ถึงต่างระดับทับช้าง กม.6+500 (ไปถ.กาญจนาภิเษกวงแหวนตะวันออก) กม.9 บนสะพานกลับรถ (แถวร่มเกล้า)  รถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์อยู่บนสะพาน ส่วนตัวตู้หล่นลงมาข้างล่าง ช่องทางกลางและขวา รถเครนเดินทางมาถึงแล้วแต่ยกไม่ได้ เพราะตู้ฉีก ต้องใช้แรงคนงานขนถ่ายข้าวออกจากตู้ก่อนถึงจะยกได้

13.23น. นายณันทพงศ์ เชิดชู รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยกับจส.100 เรื่องกรณีความผิดทำตู้คอนเทนเนอร์หล่นว่า การปรับต้องดูอุปกรณ์ว่ามีอุปกรณ์ครบถ้วนหรือไม่ หากทำความเสียหายกับทรัพย์สิน ก็เป็นความผิดทางแพ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถดำเนินการเอาผิดได้ทุกท้องที่ เคยมีการกำชับให้มีการตรวจสอบ การตรวจสภาพการล็อคตู้ ถ้าหากประมาทเลินเล่อ ก็มีความผิดทางกฎหมาย ตำรวจจะมีหน้าที่กวดขันอีกทางหนึ่ง ผู้ตรวจการขนส่งทางบกก็หน้าที่ตรวจตราความเรียบร้อย ประชาชนที่พบเห็นสามารถแจ้งได้ที่ 1584 แต่ถ้าเห็นแล้วควรจะมีภาพถ่ายกำกับ ถ้าอยู่บนท้องถนน การปรับๆไม่เกิน 5,000 บาทจะปรับในส่วนพฤติกรรมการใช้ ส่วนไม่เกิน 50,000 บาทจะปรับในส่วนที่อุปกรณ์ล็อคตู้มีหรือไม่ ในพื้นที่ที่เกิดเหตุเป็นของตำรวจทางหลวง

ด้านพ.ต.อ.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองผู้บังคับการตำรวจจราจร เปิดเผยว่า ตามกฎหมายพ.ร.บ.จราจร มีการปรับอยู่แล้วกรณีสิ่งของตกหล่น แต่ถ้ากระทำโดยประมาท ถึงขั้นเสียชีวิตโทษก็เพิ่มมากขึ้น โดยทั่วไปพ.ร.บ.ขนส่งทางบก จะมีโทษหนักมากกว่า ส่วนพ.ร.บ.จราจร ถ้าทำให้รถผู้อื่นเสียหายก็มีความผิด ความผิดจะต้องดูเป็นกรณี แล้วแต่ว่าตำรวจท้องที่จะเพิ่มโทษปรับอย่างไรบ้าง ตอนนี้อยู่ระหว่างแก้กฎหมายให้ปรับมากขึ้น แต่ก่อนที่ตั้งไว้ปรับ 5,000 บาท การทำตู้คอนเทนเนอร์หล่น การปรับจะต้องปรับในอัตราสูงสุดอยู่แล้ว การปรับแต่ละครั้งจะต้องปรับคนขับ เพราะว่าคนขับจะต้องตรวจสอบว่า ล็อคตู้คอนเทนเนอร์เรียบร้อยหรือไม่

15.51น. รตต.มุนิน ดาวจรัสแสง รองสารวัตรตำรวจทางหลวงมอเตอร์เวย์ เพิ่มเติมว่า เคลื่อนย้ายพ้นกีดขวางแล้ว เร่งระบายการจราจรท้ายสะสม กม.13

CR:อาสาประชาสัมพันธ์ ป่อเต๊กตึ๊ง