ข่าวเที่ยงครึ่ง
+++ช่วงวันหยุดยาว 5 วัน พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า กองทัพบกยังคงดูแลและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในช่วงวันหยุดต่อเนื่องตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐบาล โดยกองทัพบกได้จัดตั้งจุดบริการประชาชนบริเวณหน้าค่ายทหารทั่วประเทศ และตามเส้นทางคมนาคมสำคัญแล้ว 237 จุดบริการ เน้นการสร้างความปลอดภัยในการสัญจรเป็นหลัก โดยให้ กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ร่วมกับตำรวจ ฝ่ายปกครองในพื้นที่ ตั้งจุดตรวจในเส้นทางสำคัญ เพื่อป้องปรามอาชญากรรม การลักลอบนำเข้าสิ่งผิดกฏหมายทั้งพื้นที่เมืองและแนวชายแดน การลักลอบนำเข้าสินค้าหนีภาษี และยาเสพติด รวมทั้งมาตรการดื่มไม่ขับ
++++วันนี้ ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 22 ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี นำรถบรรทุกน้ำขนาด 10,000 ลิตร ลำเลียงน้ำกินน้ำใช้แจกให้ชาวบ้านหมูบ้านโคกสมบูรณ์นอก หมู่ 1 ต.แก่งโดม อ.สว่างวีระวงศ์ ซึ่งประปาหมู่บ้านขาดแคลนน้ำใช้ผลิตประปา ไม่สามารถแจกจ่ายน้ำกินน้ำใช้ให้ประชาชนได้ตามปกติมาเกือบ 3 สัปดาห์ ทำให้ชาวบ้านต้องซื้อน้ำกินน้ำใช้จากรถเร่ขายในราคาโอ่งละ 100 บาท จึงทำหนังสือแจ้งขอความช่วยเหลือมายังหน่วยงานทหาร และนำมาแจกจ่ายให้วันนี้จำนวน 2 เที่ยว คิดเป็นปริมาณ 20,000 ลิตร ซึ่งหน่วยทหารจะได้ลำเลียงน้ำมาแจกให้กับชาวบ้านไปจนกว่าสถานการณ์ภัยแล้งปีนี้จะผ่านพ้นไป
+++การทำความเข้าใจคำถามพ่วงในการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญนพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิป สนช.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ การเตรียมความพร้อมในการร่วมเวทีกับคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เพื่อแจงสาระสำคัญและคำถามพ่วงประชามติ สมาชิกได้แสดงความจำนงลงพื้นที่ครบแล้ว 127 คน และในวันที่ 13 พ.ค.นี้ จะมีการอบรมทำความเข้าใจกัน เพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และ ไม่ห่วงเรื่องกรอบเวลาในการทำงาน จากการเตรียมการและความพร้อมเรื่องเอกสารต่าง ๆ จะทำให้สามารถทำงานได้บรรลุเป้าหมาย ประชาชนเข้าใจเนื้อหา และคำถามพ่วงประชามติมากที่สุด นอกจาก สนช. จะร่วมลงพื้นที่กับ กรธ. แล้ว ยังใช้โครงการ สนช. พบประชาชน เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับคำถามพ่วงประชามติด้วย รวมถึงจะใช้เครือข่ายวิทยุโทรทัศน์ของพันธมิตร ที่มีประมาณ 33 รายการ เป็นตัวช่วยในการทำความเข้าใจ.
++ด้านนายอมร วาณิชวิวัฒน์ โฆษกกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เปิดเผยถึงการชี้แจงสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญแก่ประชาชนว่า หลังจากมีการอบรมอาสาสมัคร ครู ที่กระทรวงมหาดไทย คัดเลือกมาจังหวัดละ 5 คนในวันที่ 18 – 19 พ.ค. นี้ แล้ว ก็จะเริ่มลงพื้นที่ในต่างจังหวัดที่แบ่งเป็น 9 กลุ่ม ซึ่งจังหวัดแรกที่จะมีการเปิดเวทีอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 28 พ.ค. ที่จังหวัดนครนายก โดยมีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ร่วมชี้แจงด้วย
++นายอัชพร จารุจินดา กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เปิดเผยคาดหวังว่าในช่วงใกล้ถึงวันทำประชามติจะทำให้ประชาชนมีความสนใจ และตื่นตัวออกมาใช้สิทธิ์กันมากขึ้น ยืนยันไม่มีการชี้นำ จะชี้แจงเฉพาะเนื้อหาว่ามีสาระอย่างไรบ้างเท่านั้นงข้อปฏิบัติและข้อห้ามของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า มีความชัดเจน ครอบคลุมแล้ว และเชื่อว่าทุกคนเข้าใจดีในการแสดงความคิดเห็นแล้ว หากเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต ก็สามารถทำ
+++พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ต้อนรับและพบหารือกับทูตประเทศภูฏาน พร้อมหารือข้อราชการร่วมกัน โดยเฉพาะปัญหายาเสพติดข้ามชาติ ระหว่างสองประเทศ ซึ่งมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลต่อกัน หลังจากเกิดคดีชายชาวภูฏานกลืนยาเสพติดลงท้องและพบเสียชีวิตในประเทศไทย ซึ่งตำรวจภูฏาน จับผู้ต้องหาหญิงได้แล้ว 1 คน และอยู่ระหว่างการสอบสวน เบื้องต้น ให้การรับสารภาพ ซึ่งเมื่อสอบสวนแล้วเสร็จ จะส่งตัวให้ไทยดำเนินคดี ส่วนประเด็นปัญหาการลักลอบค้ายาเสพติดระหว่างประเทศทั้งสอง ตำรวจเป็นเพียงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและพร้อมปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล.-
+++นายโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศขอความสามัคคีในหมู่สมาชิกพรรครีพับลิกัน ซึ่งมีความเห็นแตกแยกกันจากการเลือกตั้งขั้นต้นเพื่อสรรหาผู้สมัครเป็นตัวแทนพรรคชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ขณะที่เขาประกาศความพร้อมที่จะได้เป็นตัวแทนพรรคชิงตำแหน่งกับนางฮิลลารี คลินตันซึ่งคาดว่าจะได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต นายทรัมป์วัย 69 ปีให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ฟอกซ์นิวส์ว่า ขอให้ผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกันร่วมเป็นหนึ่งเดียวกัน และเขาคิดว่าจะเอาชนะนางฮิลลารี คลินตัน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครตได้ อย่างไรก็ตามผลสำรวจพบว่ายังมีกระแสต่อต้านนายทรัมป์อยู่และความกังวลว่าเขาจะบริหารประเทศได้อย่างไรจากการพูดจาเปิดเผยและใจร้อน มหาเศรษฐีเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กล่าวว่า ทุกอย่างจะเรียบร้อย และเขาสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเพื่อให้ประเทศมีความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้เขายังกล่าวถึงรายชื่อผู้ที่จะมาทำหน้าที่รองประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งรวมถึง นายร็อบ พอร์ทแมน สว.รัฐโอไฮโอซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยังไม่ได้คะแนนเสียงชี้ขาด และนางนิกกี เฮลีย์ ผู้ว่าการรัฐเซาท์แคโรไลนา และเป็นบุตรของครอบครัวผู้อพยพชาวอินเดียที่อาจช่วยเพิ่มคะแนนเสียงจากชนกลุ่มน้อยให้นายทรัมป์ได้