*รองนายกประวิตรเตือนกลุ่มเคลื่อนไหวต้างรธน./สาวไม่ถึงโอ็ค รองผบ.ตร.หลักฐานไม่ชัดเจน/พบผักผลไม่ปนเปื้อนสารเคมี

05 พฤษภาคม 2559, 08:59น.


ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.



+++พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงการทำประชามติ ร่างรัฐธรรมนูญว่า หลังจากนี้ นักศึกษาวิชาทหาร (นศท.) จะลง พื้นที่รณรงค์ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิประชา มติ พร้อมยืนยันรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไม่เคยปิดกั้นห้ามวิพากษ์วิจารณ์ ร่างรัฐธรรมนูญ เพียงแต่ห้ามรณรงค์ ให้ "รับ" หรือ "ไม่รับ" ร่างรัฐธรรมนูญ พร้อมเตือนว่า กลุ่มต่อต้านหรือกลุ่มนักศึกษาขอให้ทำตามกฎหมาย หยุดการเคลื่อนไหวให้ทุกอย่างเป็นไปตามโรดแม็พ



+++นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ให้ระวังคำในกฎหมายที่ต้องระวังมี 6 คำ คือ 1. ไม่กระทำการใดผิดต่อความเป็นจริง 2. ไม่ก้าวร้าว 3. ไม่รุนแรง 4. ไม่หยาบคาย 5. ไม่ปลุกระดม และ 6. ไม่เป็นการข่มขู่ ซึ่งคำว่าปลุกระดมอาจทำให้ประชาชนสับสน เพราะถือเป็นคำที่กว้าง



+++นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. กล่าวถึงองค์กรต่างชาติจะเข้าสังเกตการณ์ประชามติร่างรัฐธรรมนูญ นายมีชัย กล่าวว่า รัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของบ้านเรา คงไม่ต้องเชิญต่างชาติเข้ามา เพราะตอนที่ต่างชาติเขาเลือกตั้งก็ไม่เชิญเราไปดู ส่วนองค์กรต่างชาติจะร้องขอเข้ามาสังเกตการณ์ หากอยากมาก็มาในลักษณะของนักท่องเที่ยว



+++ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. กล่าวถึงความคืบหน้า กรณี คำร้องฝากขัง 8 ผู้ต้องหาทำเพจเฟซบุ๊ก ต่อต้านการทำงานของรัฐบาลปรากฏชื่อ นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ให้ การสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ว่า ประเด็นดังกล่าว เป็นคำซัดทอด ทั้งนี้ภายหลังตรวจสำนวนพบ พยานหลักฐานไม่ชัดเจน จึงไม่มีการออกหมายเรียกหรือออกหมายจับ เนื่องจากต้องเพิ่มเติมหลักฐานอีกหลายส่วน



+++สำหรับกรณี นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. นายสมบัติ บุญงามอนงค์ บก.ลายจุด ที่มีชื่อปรากฏในแผนผังเชื่อมโยงความเคลื่อนไหว ทำเพจเฟซบุ๊ก ต่อต้านการทำงานของรัฐบาลนั้น ต้องดูพยานหลักฐาน เพิ่มเติมเช่นเดียวกัน หากมีน้ำหนักไม่เพียงพอก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ส่วนกรณีมีกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวไม่รับร่างรัฐธรรมนูญรายวันนั้น ถ้าขัดกฎหมายต้องดำเนินการ และไม่กังวล การเคลื่อนไหวที่อาจจะหนักขึ้น



++++พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ชี้แจงกรณีมีคนโทรศัพท์ข่มขู่ นาย อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ให้ลาออกจากตำแหน่งว่า ภายหลังการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่พบ เป็นคนบ้า สติไม่ดี เพียงคนเดียว และไม่ได้ทำเป็นขบวนการ ยืนยันเป็นเรื่องจริง ตนไม่โกหก และไม่มีนัยแอบแฝงใด ๆ เมื่อถามย้ำว่า คนที่โทรศัพท์ข่มขู่ได้เบอร์โทรศัพท์ของรัฐมนตรีมาได้อย่างไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า "เขาไปค้นและโทรฯ ไปเป็น 100 ครั้ง ผมก็ยังโดน มีเบอร์ผมอยู่ แต่เขาไม่ได้โทรฯ มาหาผม เรื่องนี้จบ เป็นคนโรคจิต"



+++กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยื่นคัดค้านการถอนฟ้องคดีการสลายการชุมนุมปี 2551 นายวิชา มหาคุณ อดีตกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่า ซึ่งเป็นคดีที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ว่า คดีดังกล่าวทำโดยชอบไปแล้ว คงไม่ไปแตะเรื่องที่เคยทำงานว่าถูกหรือผิด ส่วนจะมีการพิจารณาถอนฟ้อง นั้นตนเห็นว่าคดียังค้างอยู่ในชั้นศาล ผู้เสียหายสามารถเป็นโจทก์ร่วมฟ้องได้ ถือว่ารักษาสิทธิ์  คณะกรรมการ ป.ป.ช. ต้องตระหนักให้ดีในการถอนฟ้อง ซึ่งตามหลักการเมื่อเรื่องถึงศาลแล้วต้องให้ศาลวินิจฉัย แต่เมื่อแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาแล้ว ตนเห็นว่าเจ้าหน้า ป.ป.ช.มีความน่าเชื่อถือ มีความสามารถ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี  ตนไม่แทรกแซงเพราะผลสุดท้ายศาลจะเป็นผู้พิจารณา



+++เอกสารลับปานามา นายธีระชัย  ภูวนารถนรานุบาล  อดีตรมว.คลัง  บรรยายพิเศษ "เอกสารลับปานามากับวิกฤติการเงินการคลังของไทย" ว่า การเลือกใช้บริการของศูนย์การเงิน หรือบริษัท offshore  เพราะจะปกปิดความลับของบริษัทหรือบุคคล และไม่บังคับให้เสียภาษีในประเทศที่จดทะเบียน ซึ่งถือเป็นจุดแข็งและทำให้การขอตรวจสอบข้อมูลเป็นไปได้ยาก ซึ่งการใช้บริการศูนย์บริการทางการเงิน ส่วนใหญ่เป็นการค้าไม่ปกติ ส่งผลให้ทำลายการเงินการคลังทุกประเทศ รวมถึงขยายผลถึงคุณธรรมและจริยธรรมด้วย  เพราะใช้เป็นการหลีกเลี่ยงภาษี  จากการสำรวจของ IMF ปี 2558 พบบริษัทข้ามชาติที่ทำธุรกิจในประเทศกำลังพัฒนาขนาดเล็ก มีการโอนเงินปีละ 2 แสนล้านดอลล่าร์ หรือ 6 ล้านล้านบาท หรือร้อยละ 2 ของรายได้ประชากรในประเทศเหล่านั้น ใช้เพื่อการฟอกเงิน จากการค้ายาเสพติด อาวุธสงคราม สนับสนุนการก่อการร้าย และจ่ายสินบน โดยจะมีการตกแต่งบัญชี มีการตั้งบริษัทลูกขึ้นมาดำเนินการ  พร้อมเสนอขอให้ไทยเตรียมมาตรการรับมือติดตามข้อมูลการทำธุรกรรมให้เกิดความชัดเจนโดยกำหนดให้นักการเมือง หรือบุคคลที่เข้าข่ายจะยื่นแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. หากมีบริษัทในศูนย์บริการทางการเงินต้องรายงานข้อมูลต่อ ป.ป.ช.ทุกปี  ให้คนไทยทุกคนที่มีบัญชีในศูนย์บริการทางการเงินต้องยื่นเอกสารทั้งหมด รวมถึงทำข้อตกลงกับโบรกเกอร์ที่รับคำสั่งซื้อหุ้นในไทยจากบริษัทนอมินีของสถาบันการเงินที่จดทะเบียนต่างประเทศ ยินดีเปิดเผยข้อมูลบริษัทแม่ ในกรณีที่ไทยสงสัยเจ้าของที่แท้จริง 



+++นางทองอุไร ลิ้มปิติ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค.59 ส่วนบัตรเดิมอีก 60 ล้านใบในปัจจุบันที่ยังเป็นแถบแม่เหล็ก จะยังใช้ได้อยู่ แต่ทางธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งจะทยอยเปลี่ยนเป็นบัตรตามมาตรฐานชิปการ์ดของไทยภายในวันที่ 31 ธ.ค.2562 ซึ่งจะช่วยยกระดับการชำระเงินของไทยให้มีความมั่นคง ปลอดภัย สอดคล้องกับมาตรฐานสากล ลักษณะของชิปการ์ด จะมีชิปฝังบนบัตรเอทีเอ็มหรือบัตรเดบิต โดยข้อมูลของบัญชีบัตรจะถูกบันทึกในชิปประมวลผล ซึ่งปลอดภัย เนื่องจากเข้ารหัสไว้อีกชั้น และจะอ่านข้อมูลได้เฉพาะระบบที่กำหนดไว้ ทำให้มั่นใจถึงความปลอดภัยได้อีกขั้นหนึ่งจะช่วยให้ผู้ถือบัตรมีความปลอดภัยเพิ่มขึ้น ช่วยแก้ปัญหาการปลอมแปลงบัตรในประเทศที่เกิดจากช่องโหว่ของบัตรแถบแม่เหล็กที่อาจถูกโจรกรรมข้อมูล (skimming) เพื่อนำไปทำบัตรปลอม และใช้ถอนเงิน



+++ยังไม่จบง่ายๆ ศึกน้ำพริกแม่ประนอมบานปลาย นางประนอม แดงสุภา (แม่ประนอม) ผู้ก่อตั้งผลิตภัณฑ์น้ำพริกแม่ประนอม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการไกล่เกลี่ยเรื่องมรดกครอบครัว ระหว่างตนและนางศิริพร ภาษาประเทศ ลูกสาวคนโต ว่าหลังจากที่ตกลงและได้แถลงข่าวไปเมื่อวันที่ 5 เม.ย. จนมาถึงวันนี้ ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า นายพิสิษฐ์ ชุติพรพงษ์ชัย ทนายความ แม่ประนอม กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีอะไรคืบหน้า ซึ่งในสัปดาห์หน้าตนจะทำหนังสือสัญญา ตามข้อตกลงไปให้ทางฝ่ายคู่กรณีเซ็น เพื่อที่เวลาไปขึ้นศาลจะได้เจรจากันง่ายขึ้น ไม่เสียเวลา แต่ถ้าไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ก็จะดำเนินการขั้นตอนต่อไป สำหรับทรัพย์สินที่ตกลงกันไว้ เมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมาคือทรัพย์สินที่เป็นที่ดิน 3 แปลง ประกอบด้วย ที่ดินโรงงานเก่าพร้อมสิ่งปลูกสร้างในหมู่บ้านเศรษฐกิจ ย่านเพชร เกษม จำนวน 10 แปลง มูลค่า 50 ล้านบาท ที่ดินพร้อมบ้านพักที่เขาใหญ่ จ. นครราชสีมา มูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท และที่ดินที่จ.ขอนแก่น นอกจากนี้มีค่าเลี้ยงดูให้นางประนอม เดือนละ 1 ล้านบาท ตลอดชีวิต โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.เป็นต้นไป



++++น.ส.ปรกชล อู๋ทรัพย์ ผู้ประสานงานเครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช หรือ ThaiPAN ได้เปิดเผยผลการสุ่มเก็บตัวอย่างผักและผลไม้ จำนวน 138 ตัวอย่าง ในเขตกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล เชียงใหม่ และอุบลราชธานี ระหว่างวันที่ 16-18 มี.ค.ที่ผ่านมา พร้อมส่งไปวิเคราะห์หาสารเคมีกำจัดศัตรูพืชตกค้างที่ห้องปฏิบัติการในอังกฤษภาพรวมมีสารตกค้างในผักและผลไม้ตกค้างเกินมาตรฐานสูงถึง 46.4% หรือเกือบครึ่งหนึ่งของตัวอย่าง และที่น่าตระหนกมากพบว่าผักและผลไม้ซึ่งได้รับตรา Q โดยสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) มีสารเคมีตกค้างมากที่สุด โดยพบสูงถึง 57.1%นอกจากนั้น ผักและผลไม้อินทรีย์ที่ได้รับการรับรอง Organic Thailand กลับพบการตกค้างสูงเกินมาตรฐานถึง 25% ฉะนั้นตัวอย่างผักและผลไม้ที่จำหน่ายในโมเดิร์นเทรดซึ่งผู้บริโภคต้องจ่ายแพงกว่ากลับไม่ได้ปลอดภัยมากกว่าตลาดสดโดยทั่วไป เพราะมีจำนวนตัวอย่างการตกค้างเกินมาตรฐานถึง 46% ในขณะที่ตลาดสดมีสัดส่วนมากกว่าเล็กน้อยที่ 48%          ผักที่พบปริมาณสารพิษตกค้างเกินค่าปริมาณสารพิษตกค้างสูงสุด (MRL) ได้แก่ พริกแดง 100% ของตัวอย่าง กะเพราและถั่วฝักยาว 66.7% คะน้า 55.6% ผักกาดขาวปลี 33.3% ผักบุ้งจีน 22.2% มะเขือเทศและแตงกวา 11.1% มะเขือเปราะพบสารพิษตกค้างแต่ไม่เกินค่า MRL 66.7% ในขณะที่กะหล่ำปลีไม่พบสารพิษตกค้างจากการสุ่มตรวจผลไม้ รวม 6 ชนิด พบว่าส้มสายน้ำผึ้งและฝรั่ง ทุกตัวอย่างมีสารพิษตกค้างเกินมาตรฐาน 100% แก้วมังกร มะละกอ มะม่วงน้ำดอกไม้ สารเคมีตกค้างเกินค่ามาตรฐาน 71.4% 66.7% และ 44.4% ตามลำดับ แต่แตงโมไม่พบสารตกค้าง



+++เครือข่ายเตือนภัยสารเคมีฯ ได้ส่งผลการตรวจทั้งหมดให้ห้างค้าปลีก สมาคมตลาดสดไทย และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา ภายในสัปดาห์หน้าผู้ประกอบการจะแจ้งผลการลงโทษซัพพลายเออร์ รวมถึงมาตรการลดสารเคมีตกค้างให้เครือข่ายเตือนภัยฯ ทราบ ขณะที่สมาคมตลาดสดไทยจะประชุมเพื่อแก้ปัญหาในเร็วๆ นี้ สำหรับตัวอย่างผักและผลไม้ เช่น กะหล่ำปลี แตงกวา ผักบุ้งจีน มะเขือเทศ ผักกาดขาวปลี คะน้า ถั่วฝักยาว มะเขือเปราะ กะเพรา พริกแดง แตงโม มะม่วงน้ำดอกไม้ มะละกอ แก้วมังกร ฝรั่ง และส้มสายน้ำผึ้ง ซึ่งจำหน่ายอยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ต และตลาดสดขนาดใหญ่       ด้านน.ส.มลฤดี โพธิ์อินทร์ นักวิชาการด้านวิทยาศาสตร์ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เปิดเผยผลทดสอบปริมาณสารไนเตรทและ ไนไตรท์ หรือสารกันบูดในตัวอย่างไส้กรอกในท้องตลาด 15 ตัวอย่าง พบว่ามีเพียง ยี่ห้อค๊อกเทลซอสเซส ตราไทยซอสเซส ของบริษัท ไทย-เยอรมัน มีท โปรดักส์ ที่ไม่พบสารทั้งสอง ขณะที่อีก 14 ยี่ห้อ หรือ 93.33% เจือปนสาร



+++จากเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทที่ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ เมืองทองธานี เมื่อ 3 พ.ค. นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา กรรมการอำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์สมาคมกีฬาเทนนิสของชุดเก่า เปิดแถลงข่าวว่า ล่าสุด ได้รับ หนังสือด่วนจากสหพันธ์เทนนิสแห่งเอเชีย หรือเอทีเอฟ แจ้งว่าขอหยุดกิจกรรมการส่งเสริมนักกีฬาเทนนิสทุกประเภทและความร่วมมือกันระหว่างประเทศของกีฬาเทนนิสไว้ชั่วคราว พร้อมกันนี้จะพิจารณาย้ายสำนักงานเอทีเอฟออกจากประเทศไทยด้วย



+++สื่อต่างประเทศยังคงเกาะติดบรรยากาศการเฉลิมฉลองแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ของสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของเมืองผู้ดีได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 132 ปีของสโมสร  "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือทีมชาติไทยชุดใหญ่ เดินทางไปร่วมฉลองแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กับเลสเตอร์ ซิตี้ ที่จะเจอกับ เอฟเวอร์ตัน วันที่ 7 พฤษภาคม ที่คิง เพาเวอร์ สเตเดียม โดย "ซิโก้" เปิดเผยว่า "การไปประเทศอังกฤษครั้งนี้ ผมคงจะต้องรอให้ เลสเตอร์ ซิตี้ ฉลองแชมป์ในวันเสาร์นี้เสร็จสิ้นก่อน จากนั้นจะเข้าไปพูดคุยเกี่ยวกับแผนงานของพวกเรา ไม่ว่าจะเป็นทีมงานสเกาต์รวมถึง เคลาดิโอ รานิเอรี่ ในการขอความร่วมมือกับทางสโมสร ก่อนที่ทีมชาติไทยจะลงเล่นในรอบ 12 ทีมสุดท้ายของศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือกโซนเอเชียอย่างไร "บิ๊กเสือ" นายสัมฤทธิ์ ธนะกาญจน สุทธิ์ ซีอีโอของสโมสรเรดดิ้ง ในลีกแชมเปี้ยนชิพของอังกฤษ ซึ่งมีเจ้าของเป็นคนไทยเช่นกัน เปิดเผยว่า ทีม "เดอะ รอยัลส์" ได้ส่งสารแสดงความยินดีกับ "จิ้งจอกสยาม" ที่สามารถครองแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้อย่างยิ่งใหญ่ ขออวยพรให้ทีมเชฟฟิลด์ เว้นสเดย์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสโมสรที่มีเจ้าของเป็นคนไทย ประสบความสำเร็จในการเล่นรอบเพลย์ออฟลีกแชมเปี้ยนชิพ เพื่อคว้าสิทธิร่วมแข่งพรีเมียร์ลีกฤดูกาลหน้า โดยเรดดิ้งจะพยายามไต่เต้าไปให้ถึงให้ได้เช่นกันในอนาคต เรดดิ้งจะนิมนต์พระอาจารย์วราห์ ปุญญวโร วัดโพธิ์ทอง เขตจอมทอง กทม. เกจิดังสายธรรมยุต ไปเจิมสโมสรถึงประเทศอังกฤษเพื่อความเป็นสิริมงคลด้วย

ข่าวทั้งหมด

X