ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30น.
++++เรื่องร้อนของม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ออกมาแถลงข่าวปฎิเสธและตอบโต้ ผลการสอบสวนของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ที่ระบุโครงการในการประดับตกแต่งไฟฟ้าเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว (Motif of Light)ของกรุงเทพมหานคร ซึ่งใช้งบประมาณ 39 ล้านบาทบาทมีความผิดปกติเอื้อประโยชน์ให้เอกชนผู้รับเหมา ยืนยันว่านโยบายสร้างมหานครแห่งความสุข และมหานครแห่งโอกาสของทุกคน เป็นนโยบายที่ถูกต้อง กทม.ให้ความร่วมมือกับสตง.มาตั้งแต่งานยังไม่จบ ขอข้อมูลมาเราก็ส่งให้ และการที่ตนมอบหมายให้รองผู้ว่าฯกทม.ไปชี้แจงก็เป็นเรื่องปกติ ถือเป็นเรื่องข้อมูล/เทคนิค ซึ่งผู้ทำงานตรงจะชี้แจงได้ ตนไม่ได้หนี ไปไหน แต่ที่สตง.มีการสรุปออกมานั้นได้มีการสรุปมานานแล้วตั้งแต่งานยังไม่จบ ซึ่งเป็นเรื่องประหลาด ไม่ทราบว่าจะเป็นการทำงานของสตง.หรือไม่ถ้าใช้ก็ขอให้ปฏิบัติเช่นนี้กับหน่วยงานอื่นๆด้วย ซึ่ง มติเมื่อวานนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่จะดำเนินการต่อไป ยังไม่มีการตัดสินใจว่าใครผิด ขอความเป็นธรรมทุกหน่วยงานตรวจสอบ ไม่ใช่ให้ตัวเองแต่ขอความเป็นธรรมให้ลูกน้องทั้งฝ่ายบริหารและฝ่ายประจำ เมื่อยังไม่มีการตัดสินก็ขอไม่มีการกล่าวอ้างถ้ามีผมฟ้องทันที แต่ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปว่าจะมีการฟ้องใคร
+++นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่า สตง. กล่าวถึงกรณี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์จะฟ้องกลับ สตง.ว่า เป็นสิทธิที่ทำได้ ซึ่ง สตง.ยืนยันการตรวจสอบเรื่องนี้เป็นไปตามอำนาจหน้าที่ พยานหลักฐานที่ปรากฏว่าส่อไปในทางทุจริต ก็ต้องส่งฟ้องต่อไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อสอบสวนไปตามกระบวนการทางกฎหมาย เพื่อเป็นกรณีอุทาหรณ์ในการใช้งบประมาณแผ่นดิน ที่ผ่านมา กทม.ไม่เคยนำโครงการมาขอความเห็น หรือขอให้ตรวจสอบว่ามีการใช้งบประมาณถูกต้องหรือไม่ สตง.เข้าไปตรวจหลังจากสื่อนำเสนอโครงการดังกล่าวแล้ว โดยปกติส่วนราชการเมื่อมีการลงนามในสัญญาก็ต้องส่งสัญญานั้นให้ สตง.ตรวจสอบ แต่กรณีนี้ไม่มี และยังดำเนินโครงการไปแล้วกว่า 60-70% โดยไม่มีการปรึกษาหารือด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า กระทรวงมหาดไทยยังไม่ได้รับเรื่อง สตง.ยังไม่แจ้งส่งเรื่องมา แต่ถ้าส่งเรื่องมาเราก็ต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนหาข้อเท็จจริง
+++นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ ขอให้สตง.ยื่นเรื่องให้ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ( ศอ.ตช.)เพื่อเสนอให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ในการปลดหรือย้ายผู้ว่าฯกทม.และผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือ ออกจากตำแหน่ง
+++ ด้าน พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานป.ป.ช. กล่าวถึงกรณี โครงการค่าใช้จ่ายในการประดับตกแต่งไฟฟ้าเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของกรุงเทพมหานครซึ่งใช้งบประมาณ 39.5 ล้านบาทว่า เมื่อปปช.ได้รับรายงานจาก คตง.ก็จะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงไปตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยจะตั้งคณะกรรมการแสวงหาข้อเท็จจริง และคณะกรรมการไต่สวนเพื่อตรวจสอบไปตามขั้นตอนกฎหมาย เพราะในส่วนหน้าที่ของ ป.ป.ช.นั้น จะต้องลงไปดูว่ามีการทำผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างไร ถือเป็นอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช.อยู่แล้ว และหากคตง.ส่งข้อมูลมาให้ป.ป.ช.คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเรื่องข้อเท็จจริงบางส่วนเร็วขึ้น เราต้องมาดูข้อกฎหมายว่าองค์ประกอบเข้าความผิดหรือไม่ อาจจะมีการสอบพยานเพิ่มเติม
+++นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เผยว่า ผู้ว่าฯ กทม.ยังมีสิทธิ์ทำงานในหน้าที่ต่อไปได้ จนกว่าป.ป.ช.และ คสช. จะมีคำสั่งอย่างใดอย่างหนึ่งออกมา นายวิษณุ ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นว่าม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ควรจะแสดงความรับผิดชอบหรือไม่ โดยกล่าวว่า ขึ้นอยู่กับเจ้าตัว เพราะเรื่องแบบนี้มีคนถูกกล่าวหาจำนวนมากและยังอยู่ระหว่างการดำเนินการ ซึ่งม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ยังสามารถทำงานได้ตามปกติ
+++พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีความเคลื่อนไหวของกลุ่มลูกศิษย์พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ซึ่งถูกดีเอสไอออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาในความผิดฐานสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงินและรับของโจร เตรียมเดินทางเข้ายื่นเรื่องขอความเป็นธรรมต่อศูนย์ดำรงธรรมว่าขอให้ใช้กระบวนการยุติธรรม ใช้ทิศทางที่ราชการได้กำหนดไว้ ซึ่งการร้องไปยังศูนย์ดำรงธรรมก็เป็นสิทธิ์ของเขา และเป็นการรักษาสิทธิ์ของประชาชนทั่วไปที่สามารถทำได้
ส่วนเตรียมระดมลูกศิษย์เข้าวัดพระธรรมกาย 10,000 คน ในวันที่ 15 พ.ค.นี้ ก่อนวันวิสาขบูชา พล.อ.ไพบูลย์ตอบว่า อยากให้มองในแง่บวก เพราะทุกคนก็มีสิทธิ์ที่จะทำกิจกรรมทางศาสนา จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่ได้สั่งให้อธิบดีดีเอสไอได้คอยติดตามเรื่องดังกล่าวอยู่แล้วในฐานะเจ้าของเรื่อง แต่เรื่องทั้งหมดถ้ามีอะไรแอบแฝงมันก็จะมุ่งไปสู่สิ่งที่สื่อถาม มันก็อาจจะมุ่งไปสู่ความไม่เรียบร้อย ตรงนั้นก็เป็นเรื่องของฝ่ายความมั่นคง
+++ส่วนวันที่ 16 พ.ค.นี้ พระธัมมชโยไม่เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก จะดำเนินการอย่างไร รมว.ยุติธรรมตอบว่า ก็ต้องทำเรื่องไปที่ศาล เพราะเราไม่สามารถออกหมายจับเองได้ พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล ผู้บัญชาการสำนักคดีการเงินการธนาคาร กรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า ถ้าวันที่ 16 พ.ค.นี้ พระธัมมชโยไม่มาตามนัด ดีเอสไอจะประชุมเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป เพราะการที่ดีเอสไอนำหมายเรียกไปติดไว้ที่หน้าวัดพระธรรมกายถือว่าทำสมบูรณ์แล้ว
+++นายอดิศักดิ์ วรรณสิน นายกสมาคมพุทธศาสน์สัมพันธ์ พร้อมสมาชิกกว่า 100 คน ได้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ที่ศูนย์ดำรงธรรม และสำนักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดปทุมธานี สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนฯ ได้ถอนฟ้องพระเทพญาณมหามุนี และวัดพระธรรมกาย พร้อมทำหนังสือแสดงเจตจำนงไม่ประสงค์จะดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและทางอาญากับพระเทพญาณมหามุนีและวัดพระธรรมกาย ซึ่งได้ทำหนังสือขอบคุณมายังคณะลูกศิษย์ ถือว่าคดีจบ แล้วยังมาฟ้องเอาผิดเพื่ออะไร สมาคมพุทธศาสน์สัมพันธ์จึงเห็นว่าดีเอสไอ ไม่ได้ให้ความเป็นธรรมกับพระมหาเถระที่ตั้งใจทำความดี
+++คดี6วัยรุ่นฆ่า ชายพิการ ย่านโชคชัย นางรุ่งนภา แซ่เอี่ยวภรรยาของ นายสมเกียรติ ศรีจันทร์ ชายพิการขาลีบ วัย 36 ปี ซึ่งตกเป็นเหยื่อของ 6 วัยรุ่นที่เป็นลูกหลานของตำรวจรุมทำร้ายจนเสียชีวิต รุ่งนภา บอกว่า เธอและสามีมีบุตรชายด้วยกัน 2 คน คนโตเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 คนเล็กเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และป่วยด้วยโรคโลหิตจาง เดิมทีเธอและสามียึดอาชีพรับจ้างทั่วไปอยู่ในละแวกบ้านใน ต.ธรรมศาลา อ.เมือง จ.นครปฐม แต่ 3 ปีหลังมานี้บุตรชายคนเล็กอาการป่วยโรคโลหิตจางกำเริบ ต้องใช้เงินรักษามากพอควร สามีจึงตัดสินใจเข้ากรุงเทพฯ เพื่อทำงานที่ร้านขนมปังของญาติ เพราะมีค่าจ้างที่สูงกว่า และทุกวันหยุดสามีจะกลับบ้านเพื่อมาเยี่ยมเธอและลูกเป็นประจำทุกสัปดาห์ไม่เคยขาด โดยขอให้ตำรวจดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด และอยากเรียกร้องให้ ตำรวจดูแลความปลอดภัยญาติของสมเกียรติ ที่ยังต้องใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพฯ เพราะไม่มั่นใจในความปลอดภัย
+++ด้านนายเมธัส ผลประเสริฐ หลานชายของสมเกียรติ ที่ต้องการให้ตำรวจคุ้มครองความปลอดภัย และให้เร่งขยายผลติดตามจับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุให้ได้ทั้งหมดโดยเร็ว เพราะหลังเกิดเหตุยังมีกลุ่ม วัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์มาป้วนเปี้ยน มีการตะโกนข่มขู่เอาชีวิต โดยในวันนี้กลุ่มพยานที่ถูกข่มขู่จะเดินทางไปแจ้งความ ที่สน.โชคชัย
+++นายจะเด็ด เชาว์วิไล ผู้อำนวยการมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ที่ยืนยันว่า กรณีเด็กและเยาวชนที่มีพฤติกรรมใช้ความรุนแรงแก่ผู้อื่นจนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต นอกจากการดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว ควรต้องเข้าบำบัดสภาพจิตใจ เพราะอาจมีปมที่เกิดจากปัญหาภายในครอบครัว โดยอาจไม่มีใครรับฟังปัญหาหรือไม่สามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้ปกครองได้ จึงแสดงออกด้วยพฤติกรรมก้าวร้าว
+++ขณะที่ นายสมชาย เจริญอำนวยสุข อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า ได้ประสานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พมจ.) นครปฐม ลงพื้นที่สอบข้อเท็จจริงและให้ความช่วยเหลือให้กำลังใจครอบครัว ทั้งนี้ได้มอบเงินสงเคราะห์ช่วยเหลือครอบครัวเบื้องต้น 5,000 บาท รวมทั้งได้มอบหมายศูนย์บริการคนพิการกรุงเทพฯ ให้ความช่วยเหลือและคุ้มครองสิทธิคนพิการทางด้านคดีอย่างเต็มที่ เฟซบุ๊ก Vikrom Kromadit วิกรม กรมดิษฐ์ ได้โพสต์ภาพเหตุการณ์กลุ่มวัยรุ่น 6 คน ทำร้ายชายพิการเสียชีวิต เสนอให้ประหารชีวิตวัยรุ่น..ทั้งหมดอย่างไม่มีข้อยกเว้นอย่างไม่ต้องคำนึงถึงความสงสารใดๆ ในการเป็นชาวพุทธ ประเทศไทยควรใช้กฎหมายเล่มเดียวกับสิงคโปร์ ที่ขณะนี้เป็นประเทศที่ปลอดภัยและน่าอยู่ที่สุดในโลก
+++ระมัดระวังพายุฤดูร้อน ตำรวจ สภ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด เข้าตรวจสอบหลังได้รับแจ้งว่ามีผู้ถูกฟ้าผ่าเสียชีวิต 3 ศพ ถูกนำส่งโรงพยาบาลพนมไพร ผู้เสียชีวิต คือ นายวิเชียร ทับพิลา อายุ 37 ปี ด.ญ.ธนัญญา ทับพิลา อายุ 6 ปี ลูกสาวของนายวิเชียร และนายทวี หัสโน อายุ 54 ปี น้าเขย สภาพศพทั้ง 3 คน ที่ศีรษะและร่างกายมีรอยดำเกรียม จากการตรวจสอบภายในตัวผู้ตาย ไม่พบสื่อโลหะหรือโทรศัพท์มือถือ สอบสวนทราบว่า ช่วงบ่ายก่อนเกิดเหตุ นายวิเชียร ผู้ตาย และญาติ 5 คน ชวนกันไปเก็บผักในทุ่งนาของนายทวี ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 500 เมตร ต่อมามีเมฆครึ้มและเกิดฝนฟ้าคะนอง ญาติที่ไปด้วยบางคนกลับมาก่อน เหลือเพียงผู้ตายทั้งสามเข้าไปนั่งหลบฝนอยู่ในกระท่อมนาติดดิน มุงหลังคาด้วยสังกะสี ข้างต้นสะแก และห่างจากต้นไม้ใหญ่ไม่ไกล เมื่อฝนหยุดตก ญาติ ๆ เห็นว่าทั้งสามกลับมาช้า จึงออกไปตาม พบว่านอนหมดสติอยู่กับพื้นดินภายในกระท่อม โดยนายวิเชียรกอดลูกสาวไว้ จึงรีบนำส่งโรงพยาบาล แต่แพทย์บอกว่าทั้งสามเสียชีวิตเพราะถูกฟ้าผ่า ก่อนจะมาถึงโรงพยาบาล