เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2559 พระราชบัญญัติควบคุมการขอทาน พ.ศ. 2559 ได้มีผลบังคับใช้แล้ว โดยรายละเอียดที่สำคัญเริ่มจากมาตรา 6 กำหนดให้มีคณะกรรมการควบคุมการขอทาน ขณะที่ในมาตรา 13 ถือว่า เป็นข้อบังคับ “ห้ามบุคคลใดทําการขอทาน การกระทําอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ให้ถือว่าเป็นการขอทาน การขอเงินหรือทรัพย์สินจากผู้อื่นเพื่อเลี้ยงชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการขอด้วยวาจา ข้อความหรือการแสดงกิริยาอาการใด การกระทําด้วยวิธีการใดให้ผู้อื่นเกิดความสงสารและส่งมอบเงินหรือทรัพย์สินให้การแสดงความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นดนตรีหรือการแสดงอื่นใด เพื่อให้ได้มาซึ่งเงินหรือทรัพย์สินจากผู้ชมหรือผู้ฟัง การขอเงินหรือทรัพย์สินกันฐานญาติมิตร หรือการเรี่ยไรตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการเรี่ยไร ไม่ถือว่าเป็นการขอทานตามพระราชบัญญัตินี้ โดยให้ผู้นั้นแจ้งเพื่อเป็นผู้แสดงความสามารถตามระเบียบที่คณะกรรมการกําหนด และเมื่อจะแสดงความสามารถในพื้นที่ใด ให้แจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นในเขตพื้นที่นั้น เมื่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นในเขตพื้นที่ได้รับแจ้งแล้ว ให้ออกใบรับแจ้งไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้ ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นในเขตพื้นที่ประกาศเป็นการทั่วไปเพื่อกําหนดเขตพื้นที่หรือสถานที่ใดอันเป็นที่สาธารณะ วันเวลา การใช้อุปกรณ์ หรือสิ่งอื่นใด ให้ใช้ในการแสดงความสามารถผู้ใดกระทําการฝ่าฝืนตามวรรคหนึ่ง พนักงานเจ้าหน้าที่หรือเจ้าพนักงานท้องถิ่นในเขตพื้นที่มีอํานาจสั่งให้ผู้นั้นหยุดหรือเลิกกระทําการดังกล่าวได้
กรณีผู้ทำการขอทานเป็นเด็ก หญิงมีครรภ์ ผู้สูงอายุ คนวิกลจริต คนพิการหรือทุพพลภาพ ที่ต้องดําเนินการตามกฎหมายเฉพาะ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายเฉพาะเพื่อดําเนินการตามอํานาจหน้าที่ต่อไป ในกรณีผู้ทําการขอทานยอมปฏิบัติตามการดําเนินการของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายเฉพาะหรือยอมอยู่ในสถานคุ้มครองและพัฒนาคุณภาพชีวิต ให้ผู้ทําการขอทานผู้นั้น พ้นจากความผิดแต่หากฝ่าฝืน ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ ส่วนผู้ใดกระทําด้วยประการใด อันเป็นการช่วยเหลือหรือสนับสนุนให้มีการฝ่าฝืน ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับถ้าการกระทําความผิดตามวรรคหนึ่งได้กระทําโดยใช้กําลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กําลังประทุษร้าย หรือโดยมีหรือใช้อาวุธ ผู้กระทําต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสี่ปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทหรือทั้งจําทั้งปรับ
อ่านรายละเอียดได้ที่นี่ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2559/A/038/1.PDF