นายกรัฐมนตรี พบรมต.ตปท.ญี่ปุ่น ยืนยันไทยปฏิรูปประชาธิปไตยตามกรอบเวลา

02 พฤษภาคม 2559, 12:23น.


ในการที่นายฟุมิโอะ คิชิดะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่น เข้าเยี่ยมคารวะพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาลในเช้าวันนี้


พันเอก อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่คุมาโมะโตะ ในช่วงวันที่ 14 และ 16 เมษายน ซึ่งนายคิชิดะ มีความซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับพระราชสาส์นแสดงความห่วงใยจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และจากรัฐบาลไทย รวมถึงการเสนอที่จะให้ความช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีจากรัฐบาลไทย


สำหรับสถานการณ์ภายในประเทศ นายกรัฐมนตรีกล่าวถึง การทำงานไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ซึ่งเน้นการมีธรรมาภิบาล และการมุ่งพัฒนาประเทศให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก โดยจะให้มีการทำประชามติและการเลือกตั้ง ตามกำหนดเวลาที่วางไว้ รวมถึงได้แจ้งให้ทราบถึงแนวทางการปฏิรูปประเทศ และการวางยุทธศาสตร์ชาติในอีก 20 ปีข้างหน้า พร้อมเชิญให้ญี่ปุ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศไทย


ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น แสดงความชื่มชมต่อความมุ่งมั่นและความพยายามของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลไทย พร้อมกล่าวว่า ญี่ปุ่นเคารพต่อการดำเนินการของไทย และจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ โดยไทยยังคงเป็นมิตรประเทศที่สำคัญของญี่ปุ่น และญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสนับสนุนความเชื่อมโยงในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง


โดยในวันนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะไปบรรยายที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของญี่ปุ่นที่ให้ความสำคัญกับประชาคมอาเซียน โดยเฉพาะกับประเทศลุ่มน้ำโขง และมีเป้าหมายที่จะร่วมมือกับผู้นำประเทศลุ่มน้ำโขงอย่างใกล้ชิด เพื่อส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพสูง ทั้งด้านเทคโนโลยีและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งญี่ปุ่นเห็นว่า นอกจากความร่วมมือในอาเซียนและในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงแล้ว ไทยและญี่ปุ่นควรมีความร่วมมือในเวทีระดับโลกมากขึ้นอีกด้วย


ในประเด็นความสัมพันธ์ทวิภาคี ไทยและญี่ปุ่นมีความสัมพันธ์ที่ดีในทุกระดับ ทั้งในระดับราชวงศ์ รัฐบาลและประชาชน โดยจะครบรอบความสัมพันธ์ 130 ปี ในปี พ.ศ.2560 และในวันนี้ ทั้งสองฝ่ายยินดีที่ความร่วมมือระหว่างกันมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งความร่วมมือทางการเกษตร ที่มีการลงนามในบันทึกแสดงเจตจำนง (MOI) ว่าด้วยการส่งเสริมความร่วมมือในสาขาเกษตร เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2559 นอกจากนี้ยังมีการติดตามประเด็นความร่วมมือที่ยังคั่งค้าง อาทิ การนำเข้าเนื้อสุกรจากไทย  


ส่วนความร่วมมือด้านโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งสองฝ่ายยินดีที่มีความคืบหน้าเรื่องระบบราง โดยกำลังเร่งสรุปผลการศึกษาความเป็นไปได้ตามความร่วมมือที่ได้ตกลงกันไว้ โดยนายกรัฐมนตรีย้ำว่า ไทยมั่นใจเทคโนโลยีของญี่ปุ่น ทั้งในเรื่องคุณภาพและความปลอดภัย สำหรับโครงการทวาย ทั้งสองฝ่ายยืนยันที่จะร่วมมือกันต่อไปอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นโครงการที่สำคัญต่อการพัฒนาด้านเศรษฐกิจของประเทศลุ่มน้ำโขง และจะเป็นประโยชน์แก่ประชาชนของทั้งสามประเทศโดยตรง


ด้านการค้าการลงทุน ไทยให้ความสำคัญกับนักลงทุนญี่ปุ่น โดยที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้เปิดโอกาสให้นักลงทุนญี่ปุ่นเข้าพบหลายราย ทั้งจากภาคอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและรถยนต์ เพื่อรับฟังปัญหาอุปสรรคต่างๆ โดยยืนยันว่า ไทยจะสนับสนุนและดูแลนักลงทุนจากญี่ปุ่น


นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงการส่งเสริมการลงทุนในอีก 5 อุตสาหกรรม S-curve ใหม่ และการส่งเสริมธุรกิจ “Start up” เพื่อนำประเทศไทยไปสู่ Thailand 4.0  พร้อมกับเชิญชวนให้ญี่ปุ่นเข้ามาร่วมลงทุนกับไทย อย่างเป็นระบบ ทั้งต้นทาง กลางทางและปลายทาง ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นรับทราบและจะนำไปแจ้งให้ภาคเอกชนญี่ปุ่นทราบต่อไป โดยเห็นว่าไทยและญี่ปุ่นมีศักยภาพที่จะร่วมพัฒนาระหว่างกันทางเศรษฐกิจได้อีกในหลายสาขา ผ่านความร่วมมืออย่างใกล้ชิด


พลเอกประยุทธ์ ยังได้กล่าวถวายพระพรแก่สมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ และฝากความระลึกถึงไปยังนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ พร้อมกล่าวเชิญนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นมาเยือนประเทศไทย ในปีนี้ด้วย


..


 


ผสข.พนิตา สืบสมุทร 


thaigov
ข่าวทั้งหมด

X