ในโอกาสวันแรงงานสากล ประธานาธิบดีทีน จ่อ แห่งสหภาพเมียนมาเรียกร้องให้แรงงานชาวเมียนมาร์เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศผ่านความร่วมมือระหว่างรัฐบาล นายจ้าง และลูกจ้าง บนพื้นฐานความเป็นธรรมทางสังคม พร้อมกับย้ำว่า จะดำเนินการทุกวิถีทางในการปกป้องและคุ้มครองความปลอดภัยแก่ประชาชนทุกคนในสังคม รวมทั้งแรงงานด้วย โดยปัจจุบัน กฎหมายของเมียนมาร์ได้รับการพัฒนาเพื่อก่อให้เกิดสภาพแวดล้อมในการทำงานอย่างสงบสุขและมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันระหว่างรัฐบาล นายจ้าง และลูกจ้าง เพื่อเป็นการรับรองว่าลูกจ้างจะได้รับสิทธิตามกฎหมาย ผู้นำคนใหม่ของเมียนมายังย้ำถึงความสำคัญของการขจัดแรงงานที่ถูกกดขี่ โดยเฉพาะแรงงานเด็ก และยิ่งเมื่อเมียนมาได้เข้าสู่ประชาคมอาเซียนเมื่อวันที่ 31 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งก่อให้เกิดการเคลื่อนย้ายแรงงานภายในประชาคม เมียนมาก็มีความต้องการแรงงานฝีมือในหลายด้านเช่นกัน
ในตอนท้าย ผู้นำเมียนมาร์กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลเมียนมากำลังร่างรัฐธรรมฉบับใหม่ ซึ่งจะนำไปสู่ความสามัคคีปรองดองกันในชาติ ความสงบสุขภายใน และการพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ทั้งนี้ เมียนมาร์มีองค์กรหรือหน่วยงานที่ดูแลด้านแรงงานในระดับพื้นฐานทั้งสิ้น 1,917 แห่ง ระดับชุมชนเมือง 105 แห่ง และระดับภูมิภาค 14 แห่ง รวมทั้งมีการรวมตัวของแรงงานเป็นสหภาพอีก 7 แห่ง และสมาพันธ์ 1 แห่ง
**13.31F174**