*ประท้วงในฝรั่งเศสบานปลาย/UNห่วงสถานการณ์ในซีเรีย/ราคาน้ำมัน-ทองคำพุ่ง*

ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.

+++การประท้วงแผนปฏิรูปกฎหมายแรงงานเริ่มรุนแรงมากขึ้นในกรุงปารีสและตามเมืองต่างๆของฝรั่งเศส หลังคนงานและนักศึกษาหลายหมื่นคนออกมาชุมนุมรอบใหม่กดดันให้ถอนร่างกฎหมายนี้ซึ่งเป็นที่โต้เถียงกันอย่างรุนแรง     การผละงานและชุมนุมประปรายยังก่อความยุ่งเหยิงด้านการสัญจรของผู้เดินทาง และนำมาซึ่งการยกเลิกเที่ยวบินที่ท่าอากาศยานออร์ลี ทางตอนใต้ของกรุงปารีส จำนวน 5 เที่ยวและมีรายงานการดีเลย์หลายเที่ยวบินที่สนามบิน ชาร์ล เดอ โกลล์ ด้วยสหภาพแรงงานและนักศึกษาเรียกร้องให้รัฐบาลฝรั่งเศสถอนร่างกฎหมายปฏิรูปแรงงาน  เหตุปะทะรุนแรงระหว่างตำรวจและผู้ประท้วงยังปะทุขึ้นตามเมืองต่างๆอย่างเช่น น็องต์ ลีงและตูลิส ขณะที่มีรายงานผู้ถูกจับกุม 57 คนในมาร์กเซย์ ส่วนแบร์กนาร์ กาเซอเนิฟ รัฐมนตรีกิจการภายในระบุว่า มีตำรวจได้รับบาดเจ็บ 24 นาย ในนั้น 3 นายอาการสาหัสและมีผู้ถูกควบคุมตัวทั่งประเทศทั้งหมด 124 คน

+++ร่างกฎหมายนี้เป็นความพยายามแก้ไขปัญหาอัตราคนว่างงาน  แต่ฝ่ายต่อต้านแผนปฏิรูปบอกว่ามันคุกคามสิทธิของคนงานและทำให้หน้าที่การงานของคนหนุ่มสาวไร้ความมั่นคงยิ่งขึ้น ข้อเสนอกฎหมายใหม่นี้ปรับลดค่าทำงานล่วงเวลาหากพนักงานทำงานเกินสัปดาห์ละ 35 ชั่วโมงตามกฎหมายที่ใช้มาตั้งแต่คริสต์ทศวรรษหลังปี 1990 ซึ่งส่งผลให้ในบางภาคส่วน หนุ่มสาวฝึกงานอาจต้องทำงานเพิ่มเป็น 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เพื่อความอยู่รอด

+++ปัจจุบันนายจ้างในฝรั่งเศสไม่อยากจ้างพนักงานประจำเพราะการเลิกจ้างทำได้ยาก ขณะที่ร่างกฎหมายปฏิรูปแรงงานที่จุดกระแสไม่พอใจฉบับนี้เปิดทางให้นายจ้างสามารถเลิกจ้างได้ด้วยสาเหตุง่าย ๆ เช่น ยอดขายตกหรือผลประกอบการขาดทุน

+++สหประชาชาติกล่าวถึงสถานการณ์ในอเลปโปเข้าขั้นหายนะ ตามหลังเหตุโจมตีทางอากาศเข่นฆ่าชีวิตผู้บริสุทธิ์อย่างน้อย 27 ศพ ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในพื้นที่ซึ่งอยู่ภายใต้การยึดครองของกบฏภายในเมืองแห่งนี้ ขณะที่การส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ประชาชนชาวซีเรียหลายคนต้องตกอยู่ในความเสี่ยง       

       กลุ่มสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในซีเรีย ระบุว่าการโจมตีทางอากาศได้สร้างความเสียหายต่อโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในพื้นที่ยึดครองของกบฏในเมืองอเลปโป และคร่าชีวิตคนอย่างน้อย 27 คน รวมถึงเด็ก 3 คนและกุมารแพทย์คนสุดท้ายของเมืองนี้

+++น้ำมันโลกขยับขึ้น 3 วันติด ฟื้นตัวแตะระดับสูงสุดในรอบปี 2016  จากกำลังผลิตสหรัฐฯที่ลดลงและดอลลาร์อ่อนค่า สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 70 เซนต์ ปิดที่ 46.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 96 เซนต์ ปิดที่ 48.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีก่อน

+++ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันพฤหัสบดี(28เม.ย.) ดิ่งลงแรง หลังธนาคารกลางญี่ปุ่น หรือ บีโอเจสร้างความตกตะลึงไม่ผ่อนคลายมาตรการทางการเงินเพิ่มเติม ขณะเดียวกันก็ถูกฉุดจากหุ้นของแอปเปิล ตามหลัง คาร์ล ไอคาห์น อภิมหาเศรษฐีนักลงทุนเผยว่าเขาได้ขายหุ้นในแอปเปิลที่เหลืออยู่ไปหมดแล้ว ดาวโจนส์ ลดลง 210.79 จุด (1.17 เปอร์เซ็นต์) ปิด 17,830.76  ส่วนราคาทองคำในวันพฤหัสบดี(28เม.ย.) พุ่งแรง โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 16 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,266.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์

++++ธนาคารกลางมาเลเซียเมื่อวันพฤหัสบดี(28เม.ย.) ออกคำสั่งให้ 1MDB กองทุนรัฐที่กำลังมีปัญหา คืนเงินที่ส่งไปยังต่างแดนโดยไม่ได้รับความเห็นชอบ  ขณะที่ นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ผู้นำมาเลเซีย ยังตกอยู่ภายใต้แรงกดดันต่อกรณีมีเงิน 681 ล้านดอลลาร์ โอนจากต่างแดนเข้าบัญชีส่วนตัวของเขาในปี 2013    ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ 1MDB ซึ่งมีนายนาจิบ ดำรงตำแหน่งเป็นประธานกรรมการที่ปรึกษา ผิดนัดชำระหนี้พันธบัตร 1,750 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หลังไม่จ่ายดอกเบี้ยจำนวน 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ยิ่งเพิ่มความกังวล ว่า รัฐบาลอาจเข้าแทรกแซงและปล่อยกู้แก่ 1MDB ที่จะกระทบต่อตลาดและความน่าเชื่อถือของมาเลเซีย  ปัจจุบัน 1MDB มีหนี้พันธบัตรรวมกว่า 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 387,046 ล้านบาท) และยืนยันว่าไม่มีการถ่ายโอนเงินออกนอกกองทุนหรือมีปัญหาทางการเงิน แต่คณะกรรมการชุดหนึ่งในรัฐสภาบอกเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาว่า กองทุนนี้โอนเงินไปต่างประเทศอย่างน่าสงสัยไม่ต่ำกว่า 4,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

+++นายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวเก็งผู้สมัครประธานาธิบดีสังกัดพรรครีพับลิกันของสหรัฐฯได้ชี้แจงรายละเอียดของนโยบายการต่างประเทศในเวทีปราศรัยหาเสียงแห่งหนึ่งในกรุงวอชิงตัน 1 วันหลังคว้าชัยชนะในการหยั่งเสียงเลือกตั้งขั้นต้นใน 5 รัฐ ระบุว่าเขาจะดำเนินนโยบายที่มุ่งเน้นผลประโยชน์ของสหรัฐฯต้องมาก่อน สำหรับเรื่องกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส) นายทรัมป์กล่าวว่า ภายใต้รัฐบาลของเขา วันเวลาของกลุ่มไอเอสจะถูกเริ่มนับถอยหลัง

+++แมนนี ปาเกียว วีรบุรุษนักชกของฟิลิปปินส์ แสดงความรู้สึกตกใจและประหลาดใจ หลังมีคำอ้างจากประธานาธิบดีเบนิกโน อากีโนที่ 3 ว่ากลุ่มติดอาวุธอาบูไซยาฟทางภาคใต้ของฟิลิปปินส์วางแผนจะจับตัวเขาเรียกค่าไถ่ ระบุว่า หากมีเบาะแสเรื่องนี้จริง ผู้นำฟิลิปปินส์ก็น่าจะแจ้งให้เขาทราบเป็นการส่วนตัว ไม่ควรจะพูดเรื่องนี้ในที่สาธารณะ โดยส่วนตัว ปาเกียวซึ่งเป็นชาวคริสต์ กล่าวว่าเขาไม่หวั่นวิตกเรื่องนี้และจะเดินหน้ารณรงค์หาเสียงต่อไป ระบุว่าเขาจะใช้ชีวิตเสมือนแต่ละวันเป็นวันสุดท้ายของชีวิต จึงไม่รู้สึกหวั่นวิตกและเชื่อมั่นว่าจะพระเจ้าจะคุ้มครองเขาให้แคล้วคลาดจากภยันตราย แต่เพื่อความไม่ประมาท นายปาเกียวได้ขอให้มีการเพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยภริยาและลูกๆทั้ง 5 คนของเขา ซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านเกิดของเขาคือ เมืองเจเนรัล ซันโตส ในช่วงที่เขาไม่อยู่บ้าน เนื่องจากขณะนี้เขาติดภารกิจหาเสียงในกรุงมะนิลาเพื่อชิงที่นั่งวุฒิสมาชิกของฟิลิปปินส์ที่จะจัดขึ้นในเดือนหน้า

สภาประชาชนแห่งชาติ หรือ รัฐสภาจีน ได้ผ่านร่างกฎหมายเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมองค์กรนอกภาครัฐ หรือ เอ็นจีโอ ของต่างประเทศ โดยต้องอยู่ในความควบคุมของตำรวจอย่างใกล้ชิด ระบุว่า เอ็นจีโอของต่างประเทศจะต้องไม่เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติและความเป็นหนึ่งเดียวของชนกลุ่มน้อยกลุ่มต่าง ๆ กฎหมายฉบับนี้ยังให้อำนาจตำรวจในการสอบถามผู้บริหารของเอ็นจีโอ ตรวจค้นสำนักงานที่พักและยึดเอกสารและอุปกรณ์ต่าง ๆ ของเอ็นจีโอต่างประเทศด้วย นอกจากนั้น ยังอนุญาตให้ตำรวจขึ้นบัญชีดำเอ็นจีโอที่ไม่พึงปรารถนาและห้ามมิให้องค์กรนั้นดำเนินกิจการในจีนได้ต่อไป ความเคลื่อนไหวในการผ่านกฎหมายฉบับนี้ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากเจ้าหน้าที่สหรัฐและยุโรป กังวลว่าจะเป็นการจำกัดการทำงานขององค์กรเอกชนต่าง ๆ จำกัดการเติบโตของภาคประชาสังคมในจีนและเป็นอุปสรรคในการแลกเปลี่ยนระหว่างเอ็นจีโอของจีนกับประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก