นายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวเก็งผู้สมัครประธานาธิบดีสังกัดพรรครีพับลิกันของสหรัฐฯได้ชี้แจงรายละเอียดของนโยบายการต่างประเทศในเวทีปราศรัยหาเสียงแห่งหนึ่งในกรุงวอชิงตัน 1 วันหลังคว้าชัยชนะในการหยั่งเสียงเลือกตั้งขั้นต้นใน 5 รัฐ ระบุว่าเขาจะดำเนินนโยบายที่มุ่งเน้นผลประโยชน์ของสหรัฐฯต้องมาก่อน นอกจากนี้เขาวิจารณ์นโยบายของประธานาธิบดีบารัก โอบามาว่าอ่อนแอ สร้างความสับสนและล้มเหลวโดยสิ้นเชิง ให้คำมั่นว่าจะเปลี่ยนแปลงใหม่ หากชนะการเลือกตั้ง ก่อนหน้านี้ นายทรัมป์ พูดถึงตัวเองว่าจะได้รับการเสนอชื่อจากพรรคให้เป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯในปีนี้อย่างแน่นอน หลังการชนะการหยั่งเสียงขั้นต้นในรัฐคอนเนคติกัต ,เดลาแวร์ โรด ,ไอแลนด์ ,แมรีแลนด์ และรัฐเพนซิลเวเนีย
สำหรับเรื่องกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส) นายทรัมป์กล่าวว่า ภายใต้รัฐบาลของเขา วันเวลาของกลุ่มไอเอสจะถูกเริ่มนับถอยหลัง แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้เมื่อไหร่และขอไม่เปิดเผยรายละเอียดของแผนว่าจะทำอย่างไร ก่อนหน้านี้เขากล่าวว่าเขาจะทำให้กลุ่มไอเอสอ่อนแอลงโดยการสกัดกั้นไม่ให้กลุ่มไอเอสยึดครองแหล่งผลิตน้ำมันดิบและใช้วิธีสอบสวนที่รุนแรงกับกลุ่มไอเอสที่ถูกจับ เช่นวิธีทรมานแบบสำลักน้ำ แต่ในการแถลงเมื่อวานนี้เขาไม่เอ่ยถึงประเด็นนี้ เขากล่าวว่าการควบคุมไม่ให้กลุ่มหัวรุนแรงแผ่ขยายมากขึ้นเป็นเป้าหมายสำคัญอย่างหนึ่งของนโยบายต่างประเทศสหรัฐฯและรัฐบาลทั่วโลก ระบุว่าเขาจะทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับพันธมิตรในตะวันออกกลางเพื่อแก้ปัญหานี้
ในประเด็นเรื่องอิหร่าน นายทรัมป์คัดค้านเรื่องการทำข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่านเมื่อปีก่อน วิจารณ์ผู้นำสหรัฐฯว่าไม่สนใจคำทักท้วงของมิตรประเทศที่แน่นแฟ้นกับสหรัฐฯคือ อิสราเอล แต่กลับไปจับมือกับคู่อริคืออิหร่าน ฉันท์มิตร สำหรับเรื่ององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ(นาโต) เขากล่าวว่าเขาจะหารือกับพันธมิตรนาโตเพื่อปรับโครงสร้างองค์กรและหารือเรื่องจำนวนเงินที่เหมาะสมที่สหรัฐฯจะสมทบให้กับนาโต นอกจากนี้เขาจะหารือกับรัฐบาลรัสเซียเพื่อหาจุดยืนร่วมกันในการปราบปรามกลุ่มหัวรุนแรง