*มือระเบิดพลีชีพหญิงก่อเหตุที่ตุรกี/ผละงานประท้วงที่เยอรมนี/ฝนตก-ลมแรงที่สหรัฐฯ*

28 เมษายน 2559, 05:47น.


+++เกิดเหตุมือระเบิดฆ่าตัวตายหญิง ดึงชนวนระเบิดสายคาดโจมตี ในเมืองเบอร์ซา เมืองใหญ่อันดับ 4 และเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยม ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของตุรกี มีผู้บาดเจ็บ 13 คน ส่วนมือระเบิดเสียชีวิตคาที่ นายเมห์เม็ต มูเอซซิโนกลู รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขตุรกี กล่าวว่า มือระเบิดเป็นหญิงอายุประมาณ 25 ปี จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณด้านนอกมัสยิดโบราณยุคจักรวรรดิ อ็อตโตมัน อูลู คามิ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมือง



+++นายมูนีร์ คาราโลกลู ผู้ว่าการเมืองเบอร์ซา กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กำลังพยายามตรวจสอบ หาตัวตนและกลุ่มสังกัดของคนร้ายหญิง พร้อมกับปฏิเสธรายงานข่าวที่ว่า มีคนร้ายร่วมก่อการอีก 2 คน หลบหนีไป โดยกล่าวว่า เป็นประชาชนที่ตื่นตกใจหนีจากที่เกิดเหตุ   เหตุเกิดขึ้น 1 วันหลังจากทางการสหรัฐออกคำเตือนครั้งใหม่ สำหรับพลเมืองชาวอเมริกัน เบาะแสที่เป็นไปได้ เกี่ยวกับภัยคุกคามจากการก่อการร้าย ตามแหล่งท่องเที่ยวในตุรกี



+++นายแองเจิล เกอร์เรีย เลขาธิการองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา(โออีซีดี) ซึ่งเป็นตัวแทน 34 ประเทศที่มีฐานะร่ำรวยและมุ่งจะส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ระบุในรายงานประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการที่อังกฤษออกจากกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)ว่าการออกจากกลุ่มอียูจะมีผลเสมือนการบังคับให้คนทำงานชาวอังกฤษเสียภาษีเงินได้เพิ่มอีก 1 เดือนในระยะ 4 ปีนี้ ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2573 เศรษฐกิจของอังกฤษ อ่อนแอลงร้อยละ 3 ภายในปี 2563 ก่อนจะขยายตัวไปที่ร้อยละ 5 ในปี 2573 เพิ่มค่าใช้จ่ายของครัวเรือนชาวอังกฤษเฉลี่ย 3,200 ปอนด์ ที่สำคัญคือรัฐบาลอังกฤษอาจจะไม่อยู่ในสถานะได้เปรียบในการเจรจาต่อรองเงื่อนไขสิทธิพิเศษทางการค้าและการลงทุนกับประเทศอื่นๆได้มากเท่ากับการเป็นสมาชิกกลุ่มอียู  



+++การวิเคราะห์ของโออีซีดี สอดคล้องกับการวิเคราะห์ของกระทรวงการคลังอังกฤษ ที่ระบุว่า จีดีพีของอังกฤษจะลดลงที่ร้อยละ 6 ภายในปี 2573 รายได้ครัวเรือนชาวอังกฤษจะลดลง 4,300 ปอนด์



+++ด้านนายไนเจล ฟาราจ หัวหน้าพรรคเอกราชสหราชอาณาจักร(ยูคิป) และนายแอนดริว ลิลลิโค แกนนำกลุ่มที่รณรงค์ให้อังกฤษออกจากกลุ่มอียูระบุว่า ตัวเลขประเมินของโออีซีดีเป็นไปไม่ได้ อีกทั้งไม่ได้พิจารณาถึงขอบเขตการเจรจาข้อตกลงการค้าใหม่ๆของอังกฤษกับกลุ่มอียูและประเทศอื่นๆที่จะมีขึ้นในอนาคต นอกจากนี้เหตุผลหลักอีกข้อหนึ่งในการออกจากกลุ่มอียูคือ การที่อังกฤษจะสามารถทำข้อตกลงการค้าใหม่ๆกับประเทศต่างๆทั่วโลกรวมถึงญี่ปุ่นและออสเตรเลีย ระบุว่าอังกฤษจะมีการเติบโตทางเศรษฐกิจมากขึ้น ประชาชนมีรายได้มากขึ้นเนื่องจากอังกฤษจะสามารถทำการค้ากับประเทศอื่นๆได้อย่างเสรี



+++รองประธานาธิบดีอริสโตบูโล อิสตูริซของเวเนซุเอลา เปิดเผยว่า รัฐบาลประกาศลดวันทำงานสำหรับข้าราชการเหลือ 2 วันต่อสัปดาห์คือ วันจันทร์และวันอังคาร เป็นมาตรการชั่วคราวเพื่อบรรเทาผลกระทบจากการขาดแคลนกระแสไฟฟ้าครั้งร้ายแรงของประเทศจากนี้ไป ข้าราชการ 2.8 ล้านคนทั่วประเทศไม่ต้องไปทำงานในวันพุธถึงวันศุกร์ เว้นแต่มีงานเร่งด่วนและสำคัญจริงๆ  มาตรการนี้จะดำเนินไปจนกว่าวิกฤติด้านพลังงานของประเทศจะคลี่คลาย



+++ เวเนซุเอลาประสบภัยแล้งอย่างหนัก ส่งผลให้ปริมาณน้ำแห้งหนักตามเขื่อนหลักๆที่ใช้ผลิตกระแสไฟฟ้า นอกจากนี้เศรษฐกิจของประเทศได้รับผลกระทบอย่างหนักจากราคาน้ำมันดิบตกต่ำโดยต่อเนื่อง แต่พรรคฝ่ายค้านกล่าวหารัฐบาลว่าบริหารจัดการนโยบายเศรษฐกิจผิดพลาด



+++การเดินทางโดยเครื่องบินโดยสารในเยอรมนี ประสบปัญหาอย่างหนักเมื่อวันพุธ เมื่อคนงานภาครัฐของสนามบินต่างๆ ใน 8 เมืองทั่วประเทศ ประกอบด้วย แฟรงค์เฟิร์ต มิวนิค โคโลญจน์ ดุสเซลดอล์ฟ ฮันโนเวอร์ เบรเมน เบอร์ลิน และฮัมบูร์ก เริ่มผละงานประท้วง เพื่อพยายามผลักดันข้อเรียกร้องขอขึ้นค่าแรง ส่งผลให้เที่ยวบินของสายการบินต่างๆ ต้องยกเลิกการเดินทางเข้า-ออกกว่า 1,200 เที่ยว



+++การผละงานประท้วงของกลุ่มคนงาน รวมถึงแผนกบริการภาคพื้นดิน แผนกจุดตรวจความปลอดภัย พนักงานดับเพลิง และพนักงานตรวจเช็กเอกสารและสัมภาระก่อนขึ้นเครื่อง อาจต้องใช้เวลา 1 หรือ 2 วัน ก่อนที่การบริการจะกลับคืนสู่ปกติ



+++สหภาพแรงงานตัวแทนคนงานภาครัฐทั่วเยอรมนีประมาณ 2.41 ล้านคน ต่อรองขอขึ้นค่าแรงร้อยละ 6 สำหรับคนงานในสังกัด โดยปฏิเสธข้อเสนอของรัฐบาล เมื่อกลางเดือน เม.ย. ที่จะขึ้นให้ร้อยละ 3 และสิทธิประโยชน์อื่นๆ ในระยะ 2 ปี นายแฟรงค์ เซิร์สเค่ ประธานสหภาพแรงงานแวร์ดี กล่าวว่า การผละงานประท้วงในวันนี้ถือเป็น การเตือน ก่อนที่การเจรจากับรัฐบาลครั้งต่อไป ซึ่งเป็นครั้งที่ 3 จะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์



 



+++พายุฝนฟ้าคะนอง กระแสลมแรงจัด และพายุลูกเห็บ สร้างความวุ่นวายให้ผู้คนทางตอนกลางของสหรัฐ ฯที่ท่าอากาศยานสปิริต ออฟ เซนต์หลุยส์ รัฐมิสซูรี เกิดกระแสลมแรงจัดหลายพื้นที่ในรัฐมิสซูรี มีฝนตกหนัก เนื่องจากอิทธิพลของพายุลูกหนึ่งที่เคลื่อนเข้าโหมกระหน่ำ กระแสลมแรงจัดส่งผลให้เสาไฟฟ้าและต้นไม้หลายต้นหักโค่น แต่ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่รัฐแคนซัส มีพายุลูกเห็บขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางร่วม 4 นิ้ว ตกลงมาอย่างหนัก นักอุตุนิยมวิทยาเตือนว่าอาจเกิดพายุทอร์นาโดตามมา



+++หน่วยงานข่าวกรองเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า ร้านอาหารเกาหลีเหนือในต่างประเทศพากันเลิกหรือหยุดกิจการหลายสิบแห่ง เนื่องจากมีลูกค้าไปใช้บริการลดลงตามที่นานาชาติเพิ่มมาตรการกดดันเกาหลีเหนือ หลังจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติออกมาตรการลงโทษเกาหลีเหนือหนักที่สุดเท่าที่เคยมีมาเมื่อเดือนมีนาคมโทษฐานทดลองนิวเคลียร์และขีปนาวุธ ขณะเดียวกันทางการเกาหลีใต้ รณรงค์ประชาชนไม่ให้ไปอุดหนุนร้านอาหารเกาหลีเหนือในต่างประเทศ โดยชี้ว่าการกระทำดังกล่าวจะสกัดไม่ให้เกาหลีเหนือมีเงินตราต่างประเทศไปใช้ดำเนินโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธ



 +++ เมืองมิลวอกี ประเทศสหรัฐฯ เกิดเหตุสลด หญิงชาวอเมริกันรายหนึ่ง ถูกยิงที่บริเวณด้านหลังเสียชีวิต โดยลูกชายวัย 2 ขวบของเธอ ขณะที่เธอกำลังขับรถยนต์อยู่บนถนน ในเมืองมิลวอกี รัฐวิสคอนซิน นายอันโตนิโอ ไพรซ์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สอบสวนบอกว่า นางพาทริซ หญิงวัย 26 ปี น้องสาวของเขา กำลังขับรถยนต์อยู่บนถนน โดยมีลูกชาย 2 คนของเธอ อายุ 1 ขวบ และ 2 ขวบ นั่งโดยสารอยู่ที่เบาะด้านหลัง ตำรวจระบุว่า ลูกชายคนโตของเธอเป็นผู้ยิง นายไพรซ์ กล่าวว่า แม่ของเขานั่งอยู่ที่เบาะผู้โดยสารด้านหน้า ข้างน้องสาว แต่แม่ไม่ถูกยิง   



+++ตำรวจกระทรวงคมนาคมรัสเซีย เปิดเผยว่า เด็กหญิงวัย 10 ปีคนหนึ่ง ลักลอบขึ้นเครื่องบินโดยสารจากเมืองหลวงกรุงมอสโก ไปยังเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ ริมฝั่งทะเลบอลติก ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือ โดยที่เธอไม่มีทั้งบัตรประจำตัวประชาชน และตั๋วโดยสารเครื่องบิน    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อให้เกิดคำถามเกี่ยวกับระบบรักษาความปลอดภัย ในสนามบินต่างๆ ของรัสเซีย  เด็กหญิงซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้ เดินทางออกจากบ้าน เพื่อไปยังโรงเรียน เมื่อวันอังคาร และเธอไม่กลับบ้านในตอนเย็นของวันเดียวกัน นายอเล็กซานเดอร์ อาร์ซาเนนคอฟ เจ้าหน้าที่ที่ว่าการเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เปิดเผยว่า เด็กหญิงรายดังกล่าวใช้วิธีแทรกปะปนกับฝูงชน ที่กำลังขึ้นเครื่องบินเที่ยวที่ไปยังเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เจ้าหน้าที่กล่าวว่า เธอขึ้นเครื่องบินไปกับครอบครัวขนาดใหญ่ครอบครัวหนึ่ง ซึ่งมีเด็กหลายคน ตำรวจจับเธอที่สนามบินเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ขณะที่เธอกำลังเดินเตร็ดเตร่ไร้จุดหมายตัวคนเดียว ภายในสนามบิน  



CR:CNN,Reuters



 

ข่าวทั้งหมด

X