*กลุ่มรณรงค์ให้อังกฤษออกจากกลุ่มอียูตอบโต้OECDหลังเตือนอังกฤษถึงผลเสียหากออกจากEU*

27 เมษายน 2559, 21:22น.


นายแองเจิล เกอร์เรีย เลขาธิการองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา(โออีซีดี) ซึ่งเป็นตัวแทน 34 ประเทศที่มีฐานะร่ำรวยและมุ่งจะส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ระบุในรายงานประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการที่อังกฤษออกจากกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)ว่าการออกจากกลุ่มอียูจะมีผลเสมือนการบังคับให้คนทำงานชาวอังกฤษเสียภาษีเงินได้เพิ่มอีก 1 เดือนในระยะ 4 ปีนี้ ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2573



นอกจากนี้การออกจากกลุ่มอียูจะส่งผลให้เศรษฐกิจของอังกฤษอ่อนแอลงร้อยละ 3 ภายในปี 2563 ก่อนจะขยายตัวไปที่ร้อยละ 5 ในปี 2573 เพิ่มค่าใช้จ่ายของครัวเรือนชาวอังกฤษเฉลี่ย 3,200 ปอนด์ ที่สำคัญคือรัฐบาลอังกฤษอาจจะไม่อยู่ในสถานะได้เปรียบในการเจรจารองเงื่อนไขสิทธิพิเศษทางการค้าและการลงทุนกับประเทศอื่นๆได้มากเท่ากับการเป็นสมาชิกกลุ่มอียู ระบุว่า การออกจากกลุ่มอียูเป็นการตัดสินใจที่ไม่รอบคอบ พร้อมทั้งแสดงความประหลาดใจที่รัฐบาลอังกฤษคิดจะเดินหน้าแผนทำประชามติในวันที่ 23 มิถุนายนนี้ต่อไป



การวิเคราะห์ของโออีซีดีสอดคล้องกับการวิเคราะห์ของกระทรวงการคลังอังกฤษที่ระบุก่อนหน้านี้ว่า จีดีพีของอังกฤษจะลดลงที่ร้อยละ 6 ภายในปี 2573 รายได้ครัวเรือนชาวอังกฤษจะลดลง 4,300 ปอนด์ ด้านนายไนเจล ฟาราจ หัวหน้าพรรคเอกราชสหราชอาณาจักร(ยูคิป) และนายแอนดริว ลิลลิโค แกนนำกลุ่มที่รณรงค์ให้อังกฤษออกจากกลุ่มอียูระบุว่า ตัวเลขประเมินของโออีซีดีเป็นไปไม่ได้ อีกทั้งไม่ได้พิจารณาถึงขอบเขตการเจรจาข้อตกลงการค้าใหม่ๆของอังกฤษกับกลุ่มอียูและประเทศอื่นๆที่จะมีขึ้นในอนาคต นอกจากนี้เหตุผลหลักอีกข้อหนึ่งในการออกจากกลุ่มอียูคือ การที่อังกฤษจะสามารถทำข้อตกลงการค้าใหม่ๆกับประเทศต่างๆทั่วโลกรวมถึงญี่ปุ่นและออสเตรเลีย ระบุว่าอังกฤษจะมีการเติบโตทางเศรษฐกิจมากขึ้น ประชาชนมีรายได้มากขึ้นเนื่องจากอังกฤษจะสามารถทำการค้ากับประเทศอื่นๆได้อย่างเสรี/20.09 น.

ข่าวทั้งหมด

X