*สรุปข่าว 19.35น*
+++การลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ซึ่งเป็นสักขีพยานในพิธีแจกหนังสืออนุญาตให้ประชาชนอยู่อาศัยและใช้ประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อต้องการให้ประชาชนเข้าไปใช้ประโยชน์ และมีที่ดินทำกิน ขออย่านำที่ดินไปขาย ส่วนปัญหาหมอกควันว่า ส่วนใหญ่เกิดจากน้ำมือมนุษย์จึง ต้องแก้ไขที่ต้นเหตุด้วยการปลูกจิตสำนึก ยอมรับว่าการบริหารจัดการน้ำยังมีปัญหาเพราะฝนไม่ตก น้ำต้นทุนมีน้อย ที่ผ่านมาน้ำส่วนใหญ่ถูกนำไปใช้ในภาคเกษตร โดยเฉพาะการปลูกข้าว และขอให้ทุกหน่วยงานช่วยกันหาพื้นที่กักเก็บน้ำให้ทันเดือนพฤษภาคมที่คาดว่าจะมีฝนตก รัฐบาลพยายามดูแลให้มีน้ำใช้ถึงเดือนกรกฎาคม สิ่งที่รัฐบาลทำคาดหวังว่าจะทำให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่อย่างยั่งยืนโดยมองว่า ประเทศไทยอย่าหวังแต่เรื่องการเลือกตั้ง ประชามติ เพื่อให้มีรัฐบาลอย่างเดียว อยากให้เลือกรัฐบาลที่มีธรรมาภิบาลด้วย ส่วนเรื่องการแสดงความคิดเห็นการทำประชามติ ขอให้แสดงความเห็นอย่างสุจริต ไม่ใช่ให้พูดว่ารับหรือไม่รับ ชี้นำ ทำไม่ได้ อยากให้ระวัง เพราะขณะนี้มีกฎหมายประชามติออกมาแล้ว อย่าหลงกลให้ใครจ้างมาพูดชี้นำ ระวังจะติดคุก
+++นายอุดม รัฐอมฤต โฆษกกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวว่า กรธ. ได้หารือต่อการดำเนินการเผยแพร่ร่างรัฐธรรมนูญในองค์กรสื่อมวลชน โดยนายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธาน กรธ. เตรียมทำหนังสือไปยังองค์กรสื่อ เพื่อขอความร่วมมือในการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อให้สื่อมวลชนได้รับความคุ้มครองในการนำเสนอรายละเอียดที่เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้เห็นว่าหากไม่ทำ อาจทำให้สื่อมวลชนไม่ได้รับคุ้มครองและเข้าข่ายทำผิดตามกฎหมายประชามติได้ แต่การดำเนินการดังกล่าวยังต้องอยู่บนพื้นฐานของการนำเสนอข้อมูลข่าวสารของสื่อมวลชนด้วยว่า ต้องไม่บิดเบือน และเป็นสาเหตุที่ทำให้สังคมทะเลาะกัน ส่วนการเผยแพร่เนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญนั้น เบื้องต้นคาดว่า กรธ. ไม่ต้องหารือร่วมกับ กกต. อีก เพราะตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559กำหนดหน้าที่ไว้ชัดเจน และไม่มีข้อบังคับให้2องค์กรทำงานร่วมกัน ขณะที่ในประเด็นการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการออกเสียงประชามติ ที่ กกต. จะเป็นผู้ออกหลักเกณฑ์และวิธีการแสดงความเห็นว่าสิ่งใดทำได้หรือไม่ได้นั้น กรธ. คงไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวเพราะเป็นอำนาจของกกต. แม้จะแปลกใจกับสิ่งที่คุณสมชัยไปแจ้งความดำเนินคดีกับองค์กรกองทุนในจังหวัดขอนแก่น เพราะโพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊คว่ามีความผิดตามกฎหมายประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ว่า ทำได้โดยตัวบุคคลหรือไม่ เพราะตามกฎหมายประชามตินั้น กรณีจะวินิจฉัยว่าผู้ใดทำผิดกฎหมายนั้นต้องทำในรูปแบบของคณะกรรมการและต้องมีมติของกรรมการ
+++คดีทุจริตฮั้วประมูลจำนำข้าว วันนี้ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนพยานโจทก์ครั้งแรก โดยมีอัยการสูงสุด เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ และพวก รวม 28 ราย เป็นจำเลย พยานไต่สวนปากแรก คือ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ขณะที่ฝ่ายจำเลยนายบุญทรง และจำเลยอื่น ต่างทยอยเดินทางมาศาล ส่วน นายอภิชาติ หรือ เสี่ยเปี๋ยง จันทรสกุลพร จำเลยที่ 14 ซึ่งถูกศาลอุทธรณ์สั่งจำคุก 6 ปี ฐานยักยอกข้าวสาร ทางเรือนจำกลางสมุทรปราการแจ้งว่านายอภิชาติมีอาการป่วย เข้ารับการรักษาที่ รพ.ตำรวจ ไม่สามารถส่งตัวมาศาลได้ ส่วนจำเลยที่ 19 ติดภารกิจร่วมสัมมนาและปาฐกถาเรื่องการศัลยกรรมตกแต่งเสริมสร้างใบหน้า ศาลจึงอนุญาตให้พิจารณาลับหลังจำเลยทั้งสองได้
+++ต่อมาองค์คณะผู้พิพากษา ได้สอบถามโจทก์ถึงกรณีเมื่อวันที่ 20 และ 26 เม.ย.59 นิติบุคคล 5 ราย ประกอบด้วย กรมการค้าต่างประเทศ องค์การคลังสินค้า (อคส.) องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร กระทรวงพานิชย์ และกระทรวงการคลัง ผู้ร้อง ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งให้จำเลย ที่ 7 - 15 และ 17 - 28 ร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมเป็นเงิน จำนวน 2.6 หมื่นล้านบาท รวมดอกเบี้ย ซึ่งโจทก์แถลงไม่คัดค้าน องค์คณะพิจารณาแล้ว รับคำร้องไว้พิจารณา และเพื่อให้จำเลยมีโอกาสสู้คดีได้เต็มที่ จึงให้จำเลยยื่นคำให้การเป็นรายลักษณ์อักษรภายใน 30 วัน และให้เลื่อนนัดไต่สวน นพ.วรงค์ พยานโจทก์ปากนี้ ไปเป็นวันที่ 15 มิ.ย.เวลา 09.30 น. หลังศาลอ่านกระบวนพิจารณาแล้ว ศาลได้กำชับ นพ.วรงค์ และคู่ความทั้งสองฝ่าย ไม่ให้สัมภาษณ์ข่าวหรือข้อเท็จจริงในคดีนี้ หรือคดีที่เกี่ยวข้อง ในลักษณะชี้นำ
+++นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจ(สศค.) เปิดเผยการจัดเก็บรายได้รัฐบาลในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2559(ต.ค.58-มี.ค.59) ว่า สามารถจัดเก็บได้ 1.07 ล้านล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 6.45 หมื่นล้านบาท หรือ 6.4% และสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 10.2% สาเหตุหลักของการจัดเก็บรายได้ที่เพิ่มขึ้น คือ มีการนำส่งรายได้จากการประมูลใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์ และ 1800 เมกะเฮิรตซ์ (4G) 4.8 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้การนำส่งรายได้รัฐวิสาหกิจสูงกว่าประมาณการ 1.1 หมื่นล้านบาท และการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเบียร์ และภาษีสรรพสามิตรถยนต์ที่สูงกว่าประมาณการ
+++ ศูนย์ข้อมูลและวิจัยประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย เผยผลการสำรวจราคาที่ดินเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลปีนี้ เฉลี่ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.2 เมื่อเทียบกับปีที่แล้วแต่เป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราลดลง โดยมีปัจจัยหลักเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้มูลค่าสินทรัพย์เพิ่มไม่มาก ส่วนราคาที่ดินแพงสุด อันดับแรก สยามสแควร์ ชิดลม เพลินจิต ตารางวาละ 1.9 ล้านบาท รองลงมา สีลม ตารางวาละ 1.6 ล้านบาท และอันดับ 3 เยาวราช ตารางวาละ 1.2 ล้านบาท
+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เคลื่อนไหวผันผวนในแดนลบ แม้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์จะเริ่มฟื้นตัว แต่ตลาดยังขาดน้ำหนักด้านปัจจัยใหม่ภายในที่ช่วยสนับสนุน นักลงทุนขายทำกำไรลดความเสี่ยงออกมาเป็นระยะ ส่งผลให้ดัชนีปิดตลาดที่ 1,411.84 จุด ลดลง 6.94 จุด มูลค่าการซื้อขาย 37,452.50 ล้านบาท
+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียว ปิดลบ 62.79 จุด ที่ 17,290.49 จุด
++ดัชนีฮั่งเส็งลดลง 45.67 จุด ปิดวันนี้ที่ 21,361.60 จุด
+++ กรณีคนร้ายทำร้ายร่างกาย นักกเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนร่องคำ อ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้วเมื่อวันที่ 4 เม.ย. คือนายกฤติเดช ระเวงวรรณ ผู้ใหญ่บ้านสีถาน แจ้งข้อหาพยายามข่มขืนและทำร้ายร่างกาย พล.ต.ต.อภิชิตเทียนเพิ่มพูล ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์เปิดเผยว่า ได้ดูแลความปลอดภัยและให้ความอุ่นใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยแวะเวียนมาเยี่ยมยามและตรวจการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง คาดว่าในต้นเดือนหน้าจะสามารถส่งสำนวนอัยการ เพื่อฟ้องนายกฤติเดชผู้ต้องหาได้ ส่วนข้อหาหมิ่นประมาท ที่ น.ส.ทัศนีย์ ค้าสุกร เมียผู้ใหญ่บ้าน หมิ่นประมาทต่อเจ้าพนักงานทางเฟซบุ๊ก เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ทางตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจกำลังรวบรวมหลักฐานคาดว่าจะสามารถออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาในต้นเดือนหน้าเช่นกัน
+++หลังมีคนร้ายบุกเข้าไปใช้ก้อนหินขนาดใหญ่ทุบที่บริเวณกระจกด้านหลังรถยนต์ ของนางวัทรา แท่นสละ นักวิชาการเงินและบัญชีชำนาญการพิเศษ กลุ่มบริหารงานการเงินและสินทรัพย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณด้านหน้าสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 ตำบลหนองครก อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ คาดว่าคนร้าย คือ นายกิติศักดิ์ อายุ 20 ปี เป็นบุตรชายของ นางรุจิราภรณ์ นักวิชาการศึกษาชำนาญการพิเศษ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 ซึ่งเคยก่อเหตุทุบกระจกรถยนต์ของเจ้าหน้าที่และผู้มาติดต่อราชการในช่วงเดือนมกราคม–กุมภาพันธ์ 2559 มาแล้ว จำนวน 8 คัน แต่ได้มีการเจรจายอมความกันได้ นางวัทรา กล่าวว่าจะแจ้งความดำเนินคดีเพื่อเอาผิดกับคนร้ายรายนี้ซึ่งทราบแล้วว่าคือ นายกิติศักดิ์ ลูกชายของนางรุจิราภรณ์ โดยจะดำเนินคดีตามกฎหมายจนถึงที่สุด แม้แม่ของผู้ก่อเหตุได้เข้ามาพบเพื่อเจรจาค่าเสียหาย แต่ไม่คุยด้วย เพราะต้องการดำเนินคดีกับคนร้ายไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างอีกต่อไป เพราะตนเห็นว่าคนร้ายรายนี้มีการกระทำที่ไม่หวั่นเกรงกฎหมายบ้านเมืองแต่อย่างใด
++++สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติสหรัฐฯกล่าวว่า พายุรุนแรงที่ก่อตัวขึ้นในช่วงเดือนเมษายนทำให้เกิดพายุทอร์นาโด 5 ลูก ฝนตกหนักและพายุฝนฟ้าคะนองใน 4 รัฐทางภาคกลางของประเทศคือรัฐเท็กซัส อินเดียนา แคนซัสและรัฐมิสซูรีในวันนี้ ชาวบ้านกว่า 17,000 คนในรัฐโอคลาโฮมาไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ ที่ผ่านมาเกิดฟ้าร้องและฟ้าผ่าเป็นประจำในพื้นที่นั้น มีรายงานว่าเกิดฟ้าผ่า 11,000 ครั้งในช่วง 30 นาทีช่วงค่ำวานนี้ตั้งแต่เมืองแคนซัสซิตีไปจนถึงเมืองดัลลัส เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกล่าวว่าได้รับแจ้งเรื่องความเสียหายต่อทรัพย์สินที่เกิดจากลูกเห็บกว่า 180 ราย