*ค้นบ้านปธ.สภาอบต.พิจิตร/นายกฯไปเชียงใหม่ติดตามโครงการหลวง/เสี่ยเปี๋ยง อดีตพ่อค้าข้าวจำเลยคดีระบายข้าวป่วย*

+++เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง นำโดย พ.อ.ชัยเดช สุรวดี รอง ผบ.กกล.รส.จทบ.เพชรบูรณ์ ประจำพื้นที่ จ.พิจิตร พ.อ.พศิณ แสงคำ รอง ผบ.พล.ม.1 พ.ต.อ.ธวัชชัย มวญนรา รอง ผบก.ภ.จว.พิจิตร นายบุญเลิศ ศิริษา ป้องกันจังหวัดพิจิตร บุกเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 145 หมู่ 5 ต.หนองพระ อ.วังทรายพูน จ.พิจิตร ซึ่งเป็นบ้านของนายพริ้ง กาจธัญกรณ์ อายุ 51 ปี ประธานสภาอบต.หนองพระ และภรรยาอาศัยอยู่ ซึ่งการตรวจค้นเป็นการปฏิบัติตามนโยบายการป้องกันปราบปราม ตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่ 13/2559 เนื่องจากมีเหตุความจำเป็นอันเร่งด่วนหรือเหตุอันสมควรสงสัยว่าเป็นบุคคลอันมีพฤติการณ์หรือดำรงตนเป็นผู้มีอิทธิพลตามพฤติการณ์ 16 ข้อ พบเงินสด 2,200,000 บาท ทองรูปพรรณน้ำหนัก 30 บาท อาวุธปืนจำนวน 3 กระบอก คือขนาด .357 จำนวน 1 กระบอก ปืนลูกซองยาว 1 กระบอก และปืนลูกกรด 1 กระบอก ซึ่งทั้ง 3 กระบอก มีทะเบียน พร้อมทั้งเครื่องกระสุนจำนวนหนึ่ง  นายพริ้ง เปิดเผยว่า เงินทั้งหมดมีไว้สำหรับซื้อวัสดุในการทำโรงงานสับไม้เป็นชิ้นๆ เพื่อส่งต่ออีกที จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัว นายพริ้ง ไปที่โรงงาน ส.กาจธัญกรณ์ ที่อยู่ห่างจากบ้านพักประมาณ 500 เมตร เพื่อตรวจค้นโรงงานดังกล่าว ที่มีท่อนไม้ไว้สำหรับแปรรูปเป็นเศษไม้เพื่อส่งโรงงานทำกระดาษ และสอบปากคำหาที่มาของทรัพย์สินต่อไป

+++การเดินทางลงพื้นที่จ.เชียงใหม่ พล.อ.ประยุทธ์ ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)  พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.รมว.มหาดไทย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะรมว.เกษตรและสหกรณ์ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า เป็นการลงพื้นที่ร่วมประชุมติดตามการดำเนินงานโครงการหลวงเป็นหลัก สำหรับการติดตามการแก้ไขปัญหาหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือ สั่งการมอบหมายให้จังหวัดรับไปปฎิบัติแล้ว เบื้องต้นจะกำหนดพื้นที่โซนนิ่งภาคเหนือ จัดช่วงเวลาในเผาของแต่ละพื้นที่ไม่ให้มีการเผาพร้อมกัน รวมถึงให้การนำเศษพืชผลทางการเกษตร เช่น ซังข้าวโพด มาแปรรูปแทนการเผา เพื่อลดและบรรเทาปัญหาหมอกควัน 

+++ภารกิจนายกรัฐมนตรี ช่วงเช้าเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการประสานงานและสนับสนุนงานโครงการหลวง (กปส.) ครั้งที่ 1/2559 เพื่อติดตามความสำเร็จและความก้าวหน้าของโครงการหลวง ร่วมกับ ม.จ.ภีศเดช รัชนี ประธานมูลนิธิโครงการหลวง นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลจะขับเคลื่อนแนวทางเข้าใจ เข้าถึง พัฒนาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนำไปสู่หลักเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อนำไปใช้ในการเดินหน้าตามแนวทางประชารัฐให้นำไปสู่การปฎิบัติให้ได้โดยเฉพาะการปฎิบัติในพื้นที่ที่จะต้องร่วมมือกันระหว่างรัฐภาคประชาสังคม และในปีนี้ประเทศไทยเป็นประธานกลุ่มจี 77 จะนำแนวทางพัฒนาภาคการเกษตรตามแนวทางพระราชดำริไปเผยแพร่ให้กับประเทศต่าง ๆ เพื่อนำไปสู่การปฎิบัติเพื่อให้ทุกประเทศมีความเข้มแข็งด้วยขอยืนยันรัฐบาลจะทำให้ประชาชนเข้มแข็ง อยู่ดีมีสุขโดยเฉพาะภาคการเกษตร 

+++ส่วนช่วงบ่ายนายกฯ  รับฟังรายงานผลการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล เยี่ยมชมนิทรรศการแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าของจังหวัดเชียงใหม่ และผลการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ได้แก่ การแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า นโยบายพลิกพื้นผืนป่าสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน การบริหารจัดการน้ำเพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง มาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล การพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ การดำเนินงานของมูลนิธิโครงการหลวง และสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน)

+++การเฝ้าระวังสถานการณ์พื้นที่ภาคใต้ ตามที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงจังหวัดยะลา ขอความร่วมมือสอดส่องบุคคลที่สวมหมวกกันน็อคมิดชิดผิดปกติ เพื่อป้องกันการก่อเหตุความรุนแรงและยากต่อการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พ.ต.ท.พรหมพัฒน์ สนิทศรี รรท.รอง ผกก.ป.สภ.เมือง จ.ยะลา เปิดเผยว่า ได้สั่งเพิ่มมาตรการให้ผู้ใต้บังคับบัญชา ทั้งฝ่ายปราบปราม ชุดสืบสวน หรือฝ่ายจราจรเพิ่มความเข้างวดในการกวดขันผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่สวมหมวกกันน็อค แว่นตาดำ รวมทั้งผู้หญิงคุมศีรษะปิดบังใบหน้าอย่างมิดชิดจนผิดสังเกต เพื่อสร้างความปลอดภัย และความอุ่นใจให้แก่คนในพื้นที่ เพราะใกล้ช่วงครบรอบ 12 ปี การก่อเหตุร้ายที่มัสยิดกรือเซะ ในวันที่ 28 เม.ย. พร้อมประสานเทศบาลนครยะลาเฝ้าติดตามภาพจากกล้องวงจรปิดในจุดต่าง ๆ เพื่อระวังบุคคลต้องสงสัยที่มีลักษณะชอบปิดบังอำพรางใบหน้า มีพฤติกรรมน่าสงสัย หากพบกลุ่มบุคคลดังกล่าวให้รีบแจ้งมายังศูนย์วิทยุ 191 หรือผ่านเครือข่ายระบบวิทยุเครื่องแดงจะได้ส่งสายตรวจ รวมทั้งชุดเคลื่อนที่เร็วเข้าไปตรวจสอบทันที

+++องค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดพิจารณาบัญชีพยานเพิ่มเติมในคดีที่อัยการสูงสุด (อสส.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และพวกรวม 28 ราย ฐานกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีทุจริตการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) โดยวันนี้ศาลนัดไต่สวนพยานฝ่ายอสส. จำนวน 6 ปาก ได้แก่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์  นายสกล หาญสุทธิวารินทร์ อดีตผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์  นางมนัศนิตย์ จิรวัฒน์ นักวิชาการเชี่ยวชาญ กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ น.ส.พันธุ์สุดา จันทรโมลี ข้าราชการกรมการค้าต่างประเทศ  และน.ส.รัตนาภรณ์ ไตรรัตนานุสรณ์ นักวิชาการชำนาญพิเศษ กรมการค้าต่างประเทศ นพ.วรงค์ ในฐานะพยานฝ่ายโจทก์  กล่าวว่า ข้อมูลที่จะชี้แจงวันนี้เป็นประเด็นการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ ต่างจากคดีจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เป็นข้อมูลภาพรวม ส่วนกรณีที่ทนายความฝ่ายจำเลยกล่าวหาว่าละเมิดอำนาจศาล  ทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ วิเคราะห์แล้วว่าศาลไม่ได้ห้ามไม่ให้สัมภาษณ์ในข้อมูลข้อเท็จจริง ในส่วนตัวได้แสดงข้อมูลต่อสื่อมวลชนด้วยความระมัดระวังและไม่มีการวิเคราะห์ หรือชี้นำรูปคดี ซึ่งก็จะชี้แจงกับศาลต่อไป

+++กรณี นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือ เสี่ยเปี๋ยง อดีตพ่อค้าข้าวชื่อดังของประเทศไทย ผู้ก่อตั้งบริษัทสยามอินดิก้า จำกัด หนึ่งในจำเลยคดี จีทูจี ปัจจุบันถูกคุมขังอยู่ที่ เรือนจำกลางสมุทรปราการ แดน 3  หลังศาลอุทธรณ์ภาค1 มีคำพิพากษา ที่พนักงานอัยการคดีศาลแขวงสมุทรปราการ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องบริษัทเพรสซิเดนท์ อะกิ เทรดดิ้ง จำกัด และนายอภิชาติ เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานยักยอกทรัพย์ โดยพิพากษายืนให้ลงโทษจำคุกนายอภิชาติ สำนวนละ 3 ปี ปรับสำนวนละ 6,000 บาท รวมจำคุกสองสำนวนเป็นเวลา 6 ปี ไม่รอลงอาญา และปรับ 12,000 บาท และให้จำเลยทั้งสองร่วมคืนข้าวสารที่ยักยอกไปในสำนวน อ.833-834/2558 จำนวน 16,400 ตัน หรือใช้เป็นเงินแทนจำนวน 175,480,000 บาท ให้กับกรมการค้าต่างประเทศกระทรวงพาณิชย์ ผู้เสียหาย และให้ร่วมกันคืนข้าวสารในสำนวน อ.835-836/2558 จำนวน 4,742.96 ตัน หรือใช้เงินแทน 54,385,902.07 บาท (รวมวงเงิน 229,865,902.07 บาท)

+++ล่าสุด ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ได้รับการเปิดเผยข้อมูลจากแหล่งข่าวเรือนจำกลางสมุทรปราการ ว่า ในช่วงกลางเดือนมีนาคม 2559 นายอภิชาติ  ได้ถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อเข้ารักษาอาการป่วย โดยอยู่ที่ตึกเฉลิมพระเกียรติ ฉก 5/1 โดยมีผู้คุมเรือนจำนั่งเฝ้าอยู่หน้าห้องรพ. ชั้น 5 จำนวน 2 นาย และปฏิเสธที่จะให้ข้อมูล ถึงอาการป่วย

+++ทั้งนี้ มีรายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ญาตินายอภิชาติ ได้วางเงินประกันที่ศาล เป็นจำนวน 229,865,902.07 บาท  (มูลค่าเงินที่ต้องชดใช้ในคดียักยอกข้าวทั้ง 2 สำนวน) พร้อมยื่นคำร้องขอเจรจายอมความกับกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งนายอภิชาติ ถูกตัดสินจำคุกไปแล้ว ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ ได้ทำเรื่องหารือไปที่อัยการสูงสุด แต่ยังไม่รับคำตอบว่าจะเจรจายอมความหรือไม่ เพราะการเจรจาจะมีผลกระทบต่อคดีที่อยู่ในระหว่างพิจารณาชั้นฎีกา

CR:แฟ้มภาพ