*ศธ.ประชุมตามคดีทุจริต/หนี้เสียแบงค์เพิ่มขึ้น/ยังไม่ปรับขึ้นราคาแท็กซี่ระยะที่2*

+++พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตของกระทรวงศึกษาธิการ เรียกประชุมช่วงบ่ายวันนี้ เพื่อหารือภาพรวมเรื่องคดีทุจริตภายในกระทรวงทุกคดีย้อนไปกว่า 10 ปี มีทั้งเรื่องใหญ่ เรื่องเล็ก ว่ามีความคืบหน้าในการพิจารณาอย่างไร ไล่กันทีละเรื่องจากทั้งหมด 200 กว่าเรื่อง ซึ่งเป็นเรื่องเก่าทั้งนั้น แต่ละเรื่องก็เป็นแต่ละหน่วยงานรายงานเข้ามา

+++พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงการจัดซื้อชุดนักเรียนเกินจำเป็นของ ศธ.ว่า เรื่องนี้ศูนย์ อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) รับมาพิจารณาแล้ว โดยมอบหมายให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เข้าไปตรวจสอบ มีการรายงานเข้ามาตลอด

+++นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่...) พ.ศ. ...(แก้ไขเพิ่มเติมกรณีการหลีกเลี่ยงการเสียภาษีและฉ้อโกงภาษีตามข้อเสนอ FATF) เพื่อป้องกันและปราบปรามในกรณีที่พบว่าผู้ประกอบการกิจการต่างชาติและผู้ประกอบการในประเทศ มีการหลีกเลี่ยงภาษี ฉ้อโกงภาษี หรือขอคืนภาษีเกินความจำเป็น ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้มีสาระสำคัญ คือ หากมีการตรวจพบหลักฐานกระทำผิดฐานหลีกเลี่ยงภาษี ฉ้อโกงภาษี หรือขอคืนภาษีเกินความจำเป็น ให้อธิบดีกรมสรรพากร มีอำนาจสั่งยึดหรืออายัดทรัพย์สินเป็นการชั่วคราว เพื่อหยุดการกระทำความผิดได้ และแลกเปลี่ยนข้อมูลกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ในการตรวจสอบการหลีกเลี่ยงภาษี เพื่อดำเนินการฟ้องต่อศาลภาษี

+++เรื่องเศรษฐกิจ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานว่า เดือน มี.ค. 2559 ระบบธนาคารพาณิชย์มียอดสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิด รายได้ (เอ็นพีแอล) ที่ยังไม่หักกันสำรอง (Gross NPL) รวม 3.58 แสนล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 2.64 ของสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อน 5.9 หมื่นล้านบาท หรือร้อยละ 19.66 และเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า ทั้งนี้ เอ็นพีแอลในระบบสถาบันการเงิน คาดว่า จะเพิ่มขึ้นตามแนวโน้มเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว ธุรกิจรายย่อยบางประเภทมีรายได้ลดลงจากยอดขายที่ น้อยลง เช่นเดียวกับครัวเรือนรายย่อยที่อาจจะมีรายได้ลดลงจากชั่วโมงทำงานที่ลดลง หรือครัวเรือนภาคเกษตรที่รายได้ลดลงจากผลผลิตที่ลดลง บวกกับมีหนี้สูง ทำให้มีโอกาสผิดนัดชาระหนี้มากขึ้น หนี้เสียจึงปรับสูงขึ้น ซึ่งหากเศรษฐกิจยังชะลอต่อเนื่อง แนวโน้มเอ็นพีแอลคงเพิ่มต่อไป         

+++ สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 1.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 44.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.26 ดอลลาร์ ปิดที่ 45.74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล  นักวิเคราะห์ระบุว่ามีบริษัทขุดเจาะน้ำมันแห่งหนึ่งอ้างว่าซาอุดีอาระเบียมีแผนลดจำนวนลดแท่นขุดเจาะน้ำมันลงร้อยละ 10 เนื่องจากอุปทานล้นตลาด 

+++ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ  ปิดทรงตัว นักลงทุนเมินเฉยต่อรายงานผลประกอบการของบริษัทต่างๆที่ส่วนใหญ่แล้วออกมาแข็งแกร่ง โดยเฝ้ารอถ้อยแถลงทางนโยบายของเฟด ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 13.08 จุด  ปิด17,990.32 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 3.91 จุด  ปิดที่ 2,091.70 จุด แนสแดค ลดลง 7.48 จุด  ปิดที่ 4,888.31 จุด

+++ราคาทองคำ  ปิดบวกเล็กน้อยจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงและนักลงทุนเฝ้ารอผลสรุปของการประชุม 2 วันของเฟด ทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 3.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,243.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์

+++การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับสารวัตร (สว.) - รองผู้บังคับการ (รองผบก.)ประจำปี 2558 ที่ล่าช้า ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ลงนามในคำสั่งคสช. ฉบับที่ 21 /2559 เรื่องการปฏิบัติราชการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มอบอำนาจให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำหนดหลักเกณฑ์การแต่งตั้งโยกย้ายต่างๆเอง โดยไม่ต้องผ่านที่ประชุม ก.ตร. สาเหตุที่ใช้คำสั่งดังกล่าวเกิดจาก นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เห็นว่า การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจล่วงเลยมาเป็นเวลานาน จะทำให้ข้าราชการตำรวจเสียขวัญกำลังใจ มีผลต่อสถานการณ์บ้านเมืองและปัญหาอาชญากรรม จึงออกคำสั่งดังกล่าว เพื่อให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สามารถจัดการเรื่องการโยกย้ายได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ก่อนวันที่ 30 เมษายนตามกำหนดเดิม ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อยู่ระหว่างร่างการกำหนดหลักเกณฑ์ใหม่ คาดว่าในวันนี้จะเสร็จสิ้น

+++คดีสะเทือนใจ การดำเนินคดีนายเจนภพ วีรพร ผู้ต้องหาขับรถเบนซ์ ชนท้ายรถเก๋งฟอร์ด เฟียสต้า จนมีผุ้เสียชีวิตสองศพ พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่นายเจนภพ 8 ข้อหา ได้แก่ 1.ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย และผู้อื่นถึงแก่ความตาย 2.ขับรถในขณะหย่อนความสามารถในอันที่จะขับ 3.ขับรถในขณะเมาสุรา หรือของเมาอย่างอื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 4.ขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัย หรือความเดือดร้อนของบุคคลอื่น 5.ขับรถด้วยความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด 6.เป็นผู้ขับขี่เสพยาเสพติดให้โทษ ตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ หรือเสพวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท และเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 7.เป็นผู้ขับขี่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งพนักงานสอบสวนที่ให้มีการตรวจสอบผู้ขับขี่ตามมาตรา 43 ทวิ ที่พนักงานสอบสวนสั่งให้มีการทดสอบผู้ขับขี่ว่าหย่อนความสามารถในการที่จะขับขี่จากการเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น และ 8.ทราบคำสั่งของเจ้าพนักงานซึ่งสั่งการตามหน้าที่ที่กฎหมายให้ไว้ แต่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง โดยไม่มีข้อแก้ตัวและเหตุผลโดยสมควร

+++ส่วนข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ที่ญาติของผู้เสียชีวิต ขอให้พนักงานสอบสวนแจ้งเพิ่ม ยังไม่มีข้อบ่งชี้ชัดว่า ผู้ต้องหามีเจตนาฆ่าผู้อื่น แต่หากญาติจะไปฟ้องเอง หรือจะยื่นหลักฐานกับอัยการเพิ่มเติม ก็สามารถทำได้ ซึ่งข้อกล่าวหาที่แจ้งทั้งหมดนั้น อยู่บนพื้นฐานของข้อมูลพยานหลักฐานทุกด้าน

+++ในที่สุด  ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง มีคำสั่งให้เด็กหญิงวัย 15 เดือน เป็นบุตรนายกอร์ดอน อัลลัน เลค ชาวชาวอเมริกัน ซึ่งเป็นบิดาโดยสายเลือดของเด็กหญิง ที่เกิดจากหญิงอุ้มบุญชาวไทย โดยมีอำนาจปกครองเพียงฝ่ายเดียว นายมานูเอล ซานโตส คู่รักนายกอร์ดอน ยื่นคำร้องขอต่อศาลให้เด็กหญิงคนดังกล่าวเป็นบุตรตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ ทางการแพทย์ พ.ศ. 2558 หลังศาลได้ไต่สวนคำร้องและพยานฝ่ายผู้ร้องกับผู้คัดค้าน ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ได้มีคำสั่งให้เด็กหญิงวัย 15 เดือน เป็นบุตรนายกอร์ดอน โดยมีอำนาจปกครองเพียงฝ่ายเดียว

+++การพิจารณาปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารแท็กซี่ระยะที่ 2 อีกร้อยละ 5 นายอาคม เติมพิยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม หารือกับกรมการขนส่งทางบก แล้วเห็นว่ามีประชาชนร้องเรียนเกี่ยวกับบริการแท็กซี่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการปฏิเสธผู้โดยสาร และมีการเรียกเก็บค่าแท็กซี่ที่แพงเกินจริง หรือมีการโกงมิเตอร์ นายกฯ ได้กำชับให้กระทรวงคมนาคมเร่งแก้ไขปัญหาให้เรียบร้อยก่อนที่จะอนุมัติให้แท็กซี่ปรับขึ้นค่าโดยสาร และเตรียมเชิญบริษัทท่าอากาศยานไทย หรือ ทอท. ผู้รับผิดชอบดูแลสนามบินสุวรรณภูมิมาหารือ กำชับกรมการขนส่งทางบกบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดมากที่สุด