*กกต.เอาผิดคนทำผิดพ.ร.บ.ออกเสียงประชามติ/กรธ.-สนช.ใช้เวทีเดียวกันแจงร่างรธน./DSIเตรียมนัดพระธัมมชโยรับทราบข้อกล่าวหาอีกครั้ง*

+++นายสมชัย ศรีสุทธิยากร คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ไปที่ สน.ทุ่งสองห้อง แจ้งความดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ  เขตหลักสี่  หลังจากที่กกต.พบเห็นการกระทำความผิด โดยถือว่าจะเป็นการดำเนินคดีรายแรก ภายหลัง พ.ร.บ.ดังกล่าวมีผลบังคับใช้ ส่วนช่วงบ่ายประชุมกกต. เตรียมการชี้แจงเรื่องประชามติ ขณะที่เมื่อวานนี้ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ระเบียบกกต. ว่าด้วยหลักเกณฑ์วิธีการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ร่างรัฐธรรมนูญ เรื่องกระบวนการและขั้นตอนการออกเสียง และการจัดสรรเวลาออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงและสถานีวิทยุโทรทัศน์ โดยกำหนดให้กกต.เผยแพร่ความคิดเห็นโดยต้องคำนึงให้โอกาสแต่ละฝ่ายได้แสดงความเห็นเท่าเทียมกัน

+++พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และโฆษกกองทัพบก กล่าวตอบโต้กรณี นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส. สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ระบุ ขณะนี้ มีทหารเดินแจกใบปลิว ชักชวนให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิรับร่างรัฐธรรมนูญในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคใต้ พร้อมตั้งข้อสังเกต การกระทำดังกล่าวผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2559 หรือไม่ว่าตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติฯ มาตรา 9 ระบุกกต. สามารถมอบหมายให้บุคคลหรือคณะบุคคล หน่วยงานภาครัฐ เผยแพร่และประชาสัมพันธ์สนับสนุนงานของกกต.ได้ มาตรา 10 คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) มีหน้าที่เผยแพร่ให้ประชาชนมีความเข้าใจสาระร่างรัฐธรรมนูญ โดยให้หน่วยงานรัฐสนับสนุนให้ความร่วมมือได้ เพราะฉะนั้น การดำเนินการของทหารที่แจกใบปลิวรณรงค์ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิลงประชามติ ถือว่าสามารถกระทำได้ เพราะดำเนินการด้วยความสุจริต ไม่ได้ผิดไปจากข้อเท็จจริง และไม่ได้ขัดต่อ พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.อ.วินธัย กล่าวว่า กรณีนายวรชัย ระบุว่าทหารไปรณรงค์ให้รับร่างรัฐธรรมนูญตามนโยบายของ ผบ.ทบ.ชัดเจนอยู่แล้ว ว่าห้ามชี้นำให้ดำเนินการเพียงรณรงค์ให้ประชาชน ออกมาใช้สิทธิให้มากที่สุด ซึ่งประเด็นนี้ นายวรชัย อาจถูกดำเนินคดีได้ในข้อหาหมิ่นประมาทได้

+++ การชี้แจงเรื่องร่างรัฐธรรมนูญและคำถามพ่วงประชามติ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนที่ 1 เปิดเผยว่าหลังการหารือกับนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ. ได้ข้อสรุปร่วมกันคือ สนช.จะใช้เวทีเดียวกันกับ กรธ. ชี้แจงและเผยแพร่สาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญ สนช.จะชี้แจงในส่วนของคำถามประกอบการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่  

+++นายชาติชาย ณ เชียงใหม่ โฆษกกรธ.เปิดเผยถึงแนวทางการลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์ร่างรัฐธรรมนูญว่า กรธ.กำหนดคุณสมบัติเบื้องต้นของวิทยากรที่จะเผยแพร่เนื้อหาสาระร่างรัฐธรรมนูญในระดับจังหวัด จังหวัดละ 5 คน จะใช้ชื่อว่า วิทยากรอาสาสมัครเผยแพร่ประชาธิปไตย  หรือ ครู ก. คัดเลือกอาสาสมัครจากคุณสมบัติ 3 ประการ คือ เป็นคนดี เป็นที่ยอมรับ มีความเป็นกลางทางการเมือง และเป็นคนที่มีทักษะทางการพูด หรือเคยเป็นวิทยากรมาก่อน จะอบรมครู ก. ในวันที่ 18-19 พ.ค. สถานที่จัดอบรมทางกระทรวงมหาดไทยจะเป็นผู้กำหนด จากนั้นครู ก.จะทำหน้าที่เผยแพร่สาระสำคัญให้กับวิทยากรระดับอำเภอ สภาองค์กรชุมชน หรือครู ข. ในช่วงเดือนมิ.ย.จากนั้น ครู ค. ซึ่งเป็นวิทยากรระดับหมู่บ้าน จะทำหน้าที่เป็นอาสาสมัครเผยแพร่ประชาธิปไตยระดับหมู่บ้าน มีหมู่บ้านละ 4 คน ในระดับหมู่บ้านนี้จะใช้ยุทธการเดินเคาะประตูทุกหลังคาเรือน และการจัดประชุมหมู่บ้านเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.เป็นต้นไป

+++ช่วงบ่ายนี้ กรธ. นัดประชุมติดตามความคืบหน้าการเตรียมพร้อมลงพื้นที่

+++ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ( ป.ป.ช.) ประชุมหารือร่วมคณะกรรมาธิการการเมือง สนช. ในประเด็นการยกร่าง พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต รวมถึงสภาพปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติหน้าที่ของสำนักงาน ป.ป.ช.

+++หลังจากที่ศาลอาญา มีคำสั่งไม่รับคำร้องกรมสอบสวนคีพิเศษ(ดีเอสไอ) ให้ออกหมายจับพระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ในข้อหาฐานสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร โดยมีชื่อเป็นผู้รับเช็คบริจาคจาก นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด หลังจากพระธัมมชโยไม่เข้ารับทราบข้อหาตามหมายเรียกถึง 2 รอบ เนื่องจากศาลเห็นว่าไม่มีเจตนาหลบหนี พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล ผู้บัญชาการสำนักคดีการเงินการธนาคาร ดีเอสไอ เรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนเพื่อกำหนดวัดออกหมายเรียกให้พระธัมมชโยเข้ารับทราบข้อกล่าวหาอีกครั้ง โดยจะยึดแนวคำวินิจฉัยของศาลเป็นหลัก ศาลเชื่อว่ามีอาการอาพาธ แพทย์สั่งให้งดภารกิจ 15 วัน ดังนั้นเมื่อครบกำหนดตามใบรับรองแพทย์ก็จะเรียกให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาทันที โดยเป็นการกำหนดวันนัดร่วมกับพนักงานอัยการ เนื่องจากดีเอสไอต้องมีอัยการร่วมเป็นพนักงานสอบสวนด้วย ล่าสุดที่ประชุมมีมติกำหนดนัดให้พระธัมมชโยเข้ารับทราบข้อกล่าวหาอีกครั้งในวันที่ 16 พ.ค. เวลา 09.00 น.ซึ่งในวันนี้ดีเอสไอจะส่งหมายเรียกใหม่ไปยังพระธัมมชโยทันที

+++พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า มีพยานหลักฐานยืนยันได้ว่าพระธัมมชโยสามารถปฏิบัติศาสนกิจได้ตามปกติ ส่วนกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพอาการอาพาธของพระธัมมชโยเพื่อแสดงให้เห็นว่าอาพาธจริง โดยเฉพาะบริเวณขาที่มีลักษณะเน่าด้วย และมีการเสนอให้ดีเอสไอเข้าไปตรวจสอบอาการอาพาธ ขอให้รอฟังคำสั่งศาลก่อน ทั้งนี้ แม้พระธัมมชโยจะคืนเงินที่ได้รับบริจาคครบตามเช็คทั้งหมดแก่สหกรณ์คลองจั่นฯ แล้วก็ตาม แต่การดำเนินคดีก็ต้องเดินหน้าต่อ เพราะคดีอาญาถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว ส่วน น.ส.ศศิธร โชคประสิทธิ์ ซึ่งปรากฏชื่อลงนามสลักหลังเช็ควงเงินกว่า 100 ล้านบาท และเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาคดีฟอกเงิน ทราบว่าได้หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานขออนุมัติหมายจับ

+++ด้านนายสัมพันธ์ เสริมชีพ ทนายความของพระธัมมชโย เปิดเผยว่า หลังจากครบกำหนด 15 วันที่เคยยื่นขอเลื่อนนัดพนักงานสอบสวนไว้ พระธัมมชโยจะสามารถ เข้าพบพนักงานสอบสวนได้หรือไม่ ต้องขอดูอาการอาพาธก่อน ส่วนเรื่องที่จะมีการ ฟ้องกลับพนักงานสอบสวนหรือไม่ ยังไม่มีข้อสรุปในเรื่องนี้ แต่ยอมรับว่าทีมทนายความมีการพูดคุยกันในเรื่องนี้ และถ้าหากจะมีการพิจารณาฟ้องจริงจะไม่ใช่การฟ้องในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่ แต่จะเป็นการฟ้องในฐานที่เป็นเจ้าพนักงานของกระบวนการยุติธรรมและกลั่นแกล้งให้ถูกดำเนินคดีซึ่งมีอัตราโทษที่หนักกว่า

+++ส่วนคดีการครอบครองรถเบนซ์จดประกอบของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เข้าข่ายหลบเลี่ยงภาษีและใช้เอกสารปลอมในการจดประกอบ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า หลังจากที่ศาลอาญา ออกหมายจับ นายเกษมศักดิ์ หรือ อ๊อด ภวังคนันท์ หจก.อ๊อด 89 เอ็นเตอร์ไพร์ส เป็นผู้นำเข้าอุปกรณ์ประกอบรถคันดังกล่าว เมื่อวานนี้ ศูนย์สืบสวนและสะกดรอยได้จับกุมนายเกษมศักดิ์ ได้ที่บ้านพักส่วนตัวย่านประชาชื่น นำตัวไปสอบสวนที่สำนักคดีภาษีอากร เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาร่วมกันลักลอบหนีศุลกากร ซื้อหรือรับไว้ด้วยประการใดๆ ซึ่งของหนีภาษีศุลกากร พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้นำเข้าอุปกรณ์ประกอบรถคันดังกล่าวจริง และยอมรับสารภาพตามข้อกล่าวหา ถือว่าเป็นการให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี เจ้าหน้าที่จะขยายผลสอบสวนต่อเนื่องและลงพื้นที่เก็บพยานหลักฐานเพิ่มเติมที่บ้านพัก หากให้การเป็นประโยชน์ก็จะอนุญาตให้ประกันตัวภายใต้เงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ในส่วนของนายชลัช นิติฐิติวงศ์ ที่เป็นผู้จดทะเบียนรถ ได้แจ้งข้อกล่าวหาไปก่อนหน้านี้แล้ว

+++เช้านี้ นายกฯ ออกเดินทางไปจ.เชียงใหม่ มีภารกิจตลอดทั้งวัน เริ่มจากเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการประสานงานและสนับสนุนงานโครงการหลวง (กปส.) ครั้งที่ 1/2559 ณ ห้องประชุมชัยพฤกษ์ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ อำเภอเมือง หลังเสร็จสิ้นการประชุม นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมโรงงานคัดแยกผลิตผลโครงการหลวงแม่เหียะ และร้านค้ามูลนิธิโครงการหลวง ณ ศูนย์ผลิตผลโครงการหลวงแม่เหียะ ส่วนช่วงบ่าย นายกฯ เป็นประธานสักขีพยานในพิธีมอบหนังสืออนุญาตให้อยู่อาศัยหรือทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ มาตรา 16 จัดที่ดินให้ชุมชน คทช. มอบหนังสือโครงการป่าชุมชน มอบเครื่องจักรกลการเกษตร มอบปัจจัยการผลิตมอบโล่รางวัลการแก้ไขปัญหาหมอกควันให้แก่อำเภอที่ลดจำนวนการจุดความร้อนได้มากที่สุดของจังหวัดเชียงใหม่ เยี่ยมชมนิทรรศการการแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ และผลการดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล และเดินทางกลับมาถึงเวลา 18.30 น.